ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 965
ตอนที่ 965 สู้ผู้หญิงยังไม่ได้
คนที่ไล่ล่าอิสซานั้น เห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้รับการอบรมฝึกฝนมาอย่างดีและนี่ไม่ใช่ภารกิจครั้งแรกของเขา พวกเขาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพียงไม่ถึงหนึ่งนาทีก็ได้ค้นหาในทุกซอกทุกมุมของบาร์
ห้องน้ำ ระเบียง แม้แต่ห้องเก็บของที่ถูกปิดประตูอยู่ก็ถูกพวกเขาค้นหา
ชายสองคนนั้นส่ายหัวเป็นความหมายว่าหาคุณหนูไม่เจอ
อีกสามคนก็พบว่าพวกเขาไม่มีวี่แววใดๆ ทั้งห้าคนเดินมารวมตัวกันที่ล็อบบี้ และเริ่มค้นหาแขกที่กำลังดื่มอยู่ด้านใน
พวกเขาเห็นเพียงแค่ตอนอิสซาเดินเข้ามา แต่ไม่เห็นตอนที่เดินออกไป ดังนั้นหมายความว่าเธอยังคงอยู่ข้างในนี้
ชายชุดดำที่เป็นหัวหน้าชี้ไปในทิศทางต่างๆ จากนั้นก็แบ่งหน้าที่ให้พวกเขาออกค้นหา ส่วนตนยืนอยู่กับที่และใช้สายตาสอดส่อง
หัวใจของอิสซาเต้นเร็วมาก ดังตุ๊บๆ
เป็นเพราะเธออยู่ใกล้ชิดกับจางหย่งมากเกินไป เวลาที่หัวใจเธอเต้นนั้นแม้จะมีเสื้อผ้าคั่นกลางอยู่แต่เขาก็สัมผัสได้อย่างชัดเจน อีกทั้งกลิ่นน้ำหอมบนเรือนร่างของผู้หญิง ผสมกับความร้อนลอยออกมา โดยปกติแล้วก็ไม่ได้โดดเด่นเท่าไหร่นัก แต่วันนี้มันช่างดึงดูดเป็นพิเศษ
จางหย่งแสดงท่าทางอยากดื่มไวน์ขึ้นมาและผลักเธอออกจากอ้อมแขน “คุณ……ถอยออกไปหน่อย”
“ชู่ว์!……”อิสซาพยายามให้เขาเงียบ
บอกตามตรงว่าอิสซาเธอกลัวพวกเขาเหล่านั้นมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เป็นหัวหน้า เขาเป็นบอดี้การ์ดที่มีชื่อเสียงของประเทศM ตามปกติแล้วเขาจะคอยรักษาความปลอดภัยของพ่อตลอดเวลา
เพื่อให้ตามตัวเธอกลับไป พ่อยอมสละบอดี้การ์ดส่วนตัวของเขา เอาจริงใช่ไหมนี่!
จางหย่งดื่มเหล้าเข้าไปให้ชุ่มคอแต่เสียงของเขาก็ยังคงแห้งและรู้สึกไม่สบายตัว
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถควบคุมการเต้นของหัวใจตัวเองได้เลย ร่างกายของเขาแปลกไปจากเดิม ตอนนี้ภายในร่างกายมันเตลิดเปิดเปิงไปหมดแล้ว
อิสซาจดจ่ออยู่ที่ชายชุดดำเหล่านั้น เธอจึงไม่ได้มองดูสีหน้าของจางหย่งที่เปลี่ยนไป เธอเพียงเงี่ยหูฟังการเคลื่อนไหวจากภายนอก
จางหย่งกระแอมแล้วพูดว่า “คุณหนูอิสซา ในเมื่อพ่อให้คุณกลับ คุณก็กลับไปเถอะ จะหลบเขาทำไม?”
ครั้งที่แล้วที่เธอขโมยจูบแรกของเขาไปก็เพราะหลบหนีการไล่ล่า วันนี้ก็เอาอีกแล้วเหรอ?
อิสซาจ้องเขาตาเขม็ง เธอกัดฟันแล้วพูดว่า “คุณยุ่งอะไรด้วย”
“คุณ……คุณอย่าลืมสิว่าผมกำลังช่วยคุณอยู่นะ รบกวนคุณทำท่าทางดีๆหน่อย”
แม่ไดโนเสาร์! ไดโนเสาร์! ไดโนเสาร์!
เขาพูดเตือนตัวเองอยู่ถึงสามครั้ง
อิสซาพบว่าท่าทางและคำพูดของเธอนั้นไม่เหมาะสมเท่าไหร่ แต่จะให้เธอขอโทษออกมาคงทำไม่ได้
“นี่คุณ ธุระของคุณน่ะจัดการจะเป็นยังไงบ้าง ราบรื่นดีไหม?”
จางหย่งปฏิเสธอย่างระมัดระวังว่า “เรื่องอะไรเหรอ? ผมมาเที่ยวนะ”
อิสซาหัวเราะเยาะ “อย่ามาหลอกฉันเลย คิดว่าฉันเดาไม่ถูกเหรอ? เอาเถอะในเมื่อคุณไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไร ดูจากสีหน้าที่ห่อเหี่ยวของคุณแล้วคงไม่ราบรื่นสินะ”
จางหย่งโมโหกัดฟันกรอด “คุณ……”
อิสซาเปลี่ยนหัวข้อเพราะไม่อยากจะมีปัญหาถกเถียงกับเขา เธอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า
“คุณช่วยฉันให้หนีพวกนั้นพ้น แล้วฉันจะช่วยคุณ”
“ไม่ต้อง!”
“การที่คุณออกไปห่างๆก็ถือว่าเป็นการช่วยผมแล้ว”
อิสซาหลบซ่อนการค้นหาของพวกเขาพ้นด้วยอ้อมแขนของจางหย่ง
บอดี้การ์ดทั้งห้าคนนั้นเดินออกไปจากบาร์ด้วยท่าทางสิ้นหวัง
อิสซากระโดดออกจากอ้อมแขนของจางหย่งอย่างรวดเร็ว และจัดแจงเสื้อผ้าของตนเองให้เรียบร้อย
“จัดการได้แล้ว! คนสวย ฉันขอแก้วหนึ่งค่ะ”
ดวงตาของจางหย่งเบิกกว้าง ตาดำของเขาจับจ้องไปที่อิสซา “คุณ……คุณไม่ใช่ผู้หญิง!”
“คุณจะคิดว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงก็ได้ ยังไงซะคุณก็ไม่เคยคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงอยู่แล้วนี่” อิสซาขยิบตาให้บาร์เทนเดอร์สาวเพื่อพิสูจน์ความชื่นชอบของเธอ
บาร์เทนเดอร์สาวยิ้มแห้งๆ
จางหย่งตกใจเหมือนกับฟ้าผ่า “คุณเป็น……เลสเบี้ยนเหรอ?”
อิสซาไม่ได้อธิบายอะไรแล้วก็ไม่ได้ยอมรับมัน เธอยกแก้วขึ้นมา ชนกับแก้วของจางหย่ง จากนั้นดื่มวิสกี้ครึ่งแก้วลงไปโดยไม่เหลือแม้แต่นิดเดียว เธอทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มิน่าล่ะคำพูดและการกระทำของเธอถึงแปลกแบบนี้ ที่แท้เธอเป็นฝ่ายรุก!
เหอะๆๆๆ
“คุณยังไม่ได้ตอบคำถามผมเลยนะว่าทำไมพ่อคุณถึงต้องให้คุณกลับบ้าน?”
จางหย่งจัดแจงเสื้อคลุมของเขาที่ถูกอิสซาทำจนยุ่งเหยิง ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าแต่บนเสื้อผ้าของเขาคล้ายกับมีกลิ่นของส้มโออ่อนๆติดอยู่
อิสซาเอามือสองข้างกอดอก และขาข้างหนึ่งยกขึ้นมาไว้บนเก้าอี้สูง เธอค่อยๆรูดซิปเสื้อคลุมสีดำสุดเท่ตัวนั้นออกอย่างช้าๆ ดวงตาที่สวยงามและผมยาวมีสไตล์ส่งผลกระทบต่อผู้ที่มองอยู่อย่างมาก
“พ่อจะหาผู้ชายให้ฉันน่ะสิ แต่ฉันไม่เห็นด้วย”
อิสซาตอบอย่างง่ายๆ
แต่ที่จริงแล้วมันไม่ได้ง่ายอย่างนั้น
ในฐานะสมาชิกของราชวงศ์ เรื่องการแต่งงานนั้นไม่ได้ง่ายและเป็นไปได้อย่างราบรื่น เพื่อการเมืองและการปกครอง การแต่งงานจะต้องเป็นไประหว่างราชวงศ์ของสองประเทศหรือพ่อค้านักธุรกิจที่ร่ำรวยเท่านั้น มันเป็นเรื่องปกติในราชวงศ์
ในฐานะของเชื้อพระวงศ์ หลายๆคนเมื่อเกิดมาก็รู้ถึงชะตากรรมของตัวเองดี
หากยังเป็นสมาชิกของราชวงศ์อยู่ ชีวิตนี้ก็จะต้องให้ความสำคัญของประโยชน์ราชวงศ์เป็นอันดับแรก ความสุขของตัวเองน่ะหรือ……หึๆ
“อะไรนะ นี่มันสมัยไหนแล้ว ยังมีคนที่คอยวิ่งหนีกับการคลุมถุงชนอยู่อีกเหรอ! ถ้าไม่ชอบผมก็ปฏิเสธไปสิ ผมไม่เชื่อหรอกว่ายังจะมีคนขี้ขลาดแบบนี้ นอกเสียจากว่าคุณ……อ๋อใช่ คุณไม่ชอบผู้ชายนี่นา” ความคิดของเธอนั้นจางหย่งไม่อาจจะเข้าใจได้แต่เขาก็ยิ้มเพื่อแสดงความเข้าใจ เป็นความหมายว่าตนไม่ได้ดูถูกเธอ
อิสซาเองก็ไม่ได้อธิบายอะไรให้มากนัก เขาอยากจะคิดยังไงก็เรื่องของเขา
เธอจิบเหล้าเข้าไปหนึ่งอึก จากนั้นเอ่ยถามเขาขึ้นว่า “มันเป็นเกมแห่งอำนาจ คุณเข้าใจไหม?”
“……หนังอเมริกาเหรอ ผมไม่เคยดู”
“……” ปัญญาอ่อนหรือไง?
หลังจากดื่มเหล้าเข้าไปสักพัก ทั้งสองคนก็ดื่มไปมากทีเดียว ท่ามกลางแสงสียามค่ำคืนแม้จะดึกดื่นมากแล้วแต่ในบาร์ก็ยังมีคนเข้าออกครึกครื้น
จางหย่งโบกมือบอกว่า “ผมไม่ดื่มแล้วครับ จะกลับไปนอน”
อิสซากระโดดลงจากเก้าอี้แล้วตามจางหย่งไป
ทั้งสองคนเดินออกมาทางประตู จางหย่งบิดขี้เกียจซึ่งบังเอิญกับมือของเขาไปถูกเข้ากับหัวของอิสซา
“คุณหมายความว่ายังไง?”
เธอเดินตามเขาออกมาทำไมกัน? เมื่อสักครู่เขาเป็นสุภาพบุรุษเลี้ยงค่าเหล้าเธอแล้ว! จำนวนเงินมากกว่า 100 ยูโรเชียว ปวดใจจริงๆ!
อิสซากุมมือทั้งสองข้างเข้าหากัน แล้วพ่นลมหายใจเข้าไปเพื่อเพิ่มความอบอุ่น “จะไปไหนล่ะ คุณน่ะ”
“กลับโรงแรม” จางหย่งอ้าปากหาวแสดงความหมายว่าตนนั้นง่วงแล้ว พวกเราแยกย้ายกันเถอะ
“ไปสิ ฉันก็กลับโรงแรม”
จางหย่งกระชับอกเสื้อแจ็คเก็ตของเขาเนื่องจากอากาศที่หนาวเหน็บคล้ายกับหิมะกำลังจะตก ฤดูหนาวในยุโรปนี้น่ากลัวกว่าที่เมืองหลวงอีก “คุณไม่ได้อยู่โรงแรมเดียวกับผมใช่ไหม?”
“อ่าหะ มันก็บังเอิญแบบนั้นแหละ”
อิสซาตอบอย่างตรงไปตรงมา
แต่ว่าจางหย่งคล้ายกับลืมไปว่าเขาไม่ได้บอกสักหน่อยว่าเขาอยู่ที่โรงแรมอะไร
ทั้งสองคนเดินไปทางโรงแรม ไฟบนถนนย้อนยุค อาคารก่อสร้างโรแมนติกสไตล์ยุโรป เพียงแค่เดินไปบนถนนสายนี้แล้วสูดอากาศเข้า ก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกในรักครั้งแรก
แน่นอนว่าจางหย่งไม่มี
และแน่นอนว่าอิสซาก็ไม่มีเช่นกัน
ในไม่ช้าพวกเขาก็เดินทางมาถึงโรงแรม ระหว่างทางนั้นทั้งสองไม่ได้สนทนากันอีก แต่การอยู่ข้างกายเงียบสงบแบบนี้ สามารถทำให้ทั้งสองมีชีวิตชีวาได้
จางหย่งและอิสซาเดินขึ้นลิฟต์มาพร้อมกัน ไออุ่นจากด้านในลิฟท์ลอยออกมา เขาเอื้อมมือไปกดตัวเลขลิฟต์
“คุณอยู่ชั้นไหน?”
อิสซาเหลือบตาไปมองเห็นว่าเขากดชั้น 15 “บังเอิญจังนะคะ ฉันอยู่ชั้นเดียวกับคุณเลย”
ตอนนี้จางหย่งไม่เชื่ออีกแล้ว “คุณ……คุณสะกดรอยตามผมเหรอ?”
อิสซาแอบสืบข้อมูลเขาอยู่หรือเปล่า? เธอรู้เรื่องที่เขากำลังจะทำหรือยัง?
คนคนนี้เป็นศัตรูหรือเป็นมิตรกันแน่? เขาจะต้องรายงานเจ้านายหรือไม่?
อิสซาปิดปากหาวอย่าเกียจคร้าน กลิ่นแอลกอฮอล์ลอยออกมา “คุณคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ? ควรค่าต่อการที่ฉันจะสืบข้อมูลคุณเหรอ เอาความมั่นใจมาจากไหน ฉันอยากจะไปหาซื้อเหมือนกัน”
จางหย่งไม่อาจต่อสู้วาจากับเธอได้จึงตัดสินใจที่จะนิ่งเงียบ
ยังไงซะเมื่อถึงห้องต่างคนก็ต่างแยกย้ายกัน แล้วเขาจะต้องรีบย้ายโรงแรมหนีให้ห่างไกลจากผู้หญิงอันตรายคนนี้
ประตูลิฟต์เปิดออกอย่างเงียบๆ “ถึงชั้น 15 แล้ว”
จางหย่ง ยื่นมือออกไปแสร้งทำเป็นสุภาพบุรุษ “Lady First เชิญครับ”
อิสซาเอามือกอดอก มืออีกข้างหนึ่งยกขึ้นเท้าคางแล้วพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “คุณไปก่อนเถอะ คุณสู้ผู้หญิงยังไม่ได้เลย”
ให้ตายสิ!
จางหย่งตัดสินใจแล้วว่าผู้หญิงประเภทนี้เขาไม่ควรปฏิบัติด้วยอย่างมีมารยาท!
จางหย่งก้าวขาเดินตรงไปยังห้องของเขา แล้วหยิบคีย์การ์ดออกมาผลักประตูไม้สีบรอนซ์เข้าไป
อิสซารีบแทรกตัวเข้าไปในห้องของจางหย่ง เธอรวดเร็วราวกับสายลม
เธอไวมาก ไวขนาดที่จางหย่งไม่อาจจับไว้ได้ เมื่อเขารู้สึกตัวอีกทีอิสซาก็นอนอยู่บนโซฟาอย่างสบายใจแล้ว ขาทั้งสองข้างของเธอยกขึ้นพาดกัน “ฉันถึงแล้วล่ะ”
จางหย่งมองไปที่เลขหน้าประตูห้องจากนั้นก็มองไปยังคีย์การ์ดที่อยู่ในมือ “นี่คือห้องของผม”
อิสซา นอนเอนตัวไปลงโซฟาแล้วพูดว่า “ฉันก็ไม่ได้บอกนี่ว่าไม่ใช่ห้องคุณ”