ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 976
อนที่ 976 ทะเลาะจนฟ้าถล่ม
คำพูดเพียงคำเดียวของหลงจื๋อ ทำให้โถงรับแขกเงียบไปชั่วขณะ
สองตาของคุณนายหลินมองคนที่อยู่ตรงหน้าอย่างแวววาว ราวกับเพิ่งรู้จักเขาเป็นครั้งแรก แต่ระบบที่ดีของจิตใจทำให้เขาซ่อนปฏิกิริยาที่แท้จริงเอาไว้ ยิ้มอย่างเรียบๆ “เธอมี?”
การถามกลับเช่นนี้ ไม่ใช่สงสัย เพราะว่าที่หลงจื๋อพูดมาเมื่อครู่ท่าทางดูจริง เขาไม่ใช่คนที่ชอบอำพรางตัวเอง ในเมื่อเขาบอกว่ามี ก็ต้องมีแน่นอน!
เธอเลยยิ่งอยากรู้ว่า ที่เขาบอกว่าได้ คือจัดให้ตามใจเธอใช่เหรอเปล่า
หลินเหว่ยเย่ที่มีปฏิกิริยาเช่นเดียวกับคุณนายหลิน ประเมินดูหลงจื๋อ รอคอยคำตอบจากเขา
หลินซีเหวินกัดฟันอดทนไม่วู่วาม หัวแม่มือกดบานประตูเอาไว้ จนนิ้วแทบจะอยู่ใต้กระดาน ทำอย่างนี้ตัวเองจะได้ไม่บุกเข้าไป
หลังจากที่ทุกคนได้ผ่านความยอกย้อนในใจ ในที่สุดหลงจื๋อก็ค่อยๆ เปิดปาก “ใช่ ผมมี แต่ไม่รู้ว่าเงินทุนที่คุณว่าคือเท่าไหร่ แต่ตั้งแต่ผมตัดสินใจร่วมมือกับบริษัทหลินซื่อก็พอจะรู้เงินทุนของบริษัทหลินซื่อคร่าวๆ ถ้าสภาพที่ผมรู้มาเป็นความจริง เช่นนั้นเงินทุนของผมก็สามารถอุดรอยรั่วเงินทุนทั้งหมดของบริษัทหลินซื่อได้”
หลงจื๋อไม่สนใบหน้าของหลินเหว่ยเย่กับคุณนายหลินที่เปลี่ยนไป ตั้งใจพูดตามกรอบต่อ “ถึงผมจะไม่ใช่ผู้สืบทอดของMBK ไม่ได้ตำแหน่งประธานกรรมการ MBK แต่อย่างน้อยผมก็เป็นลูกคนเดียวของตระกูลหลง เงินทุนสะสมหลายปีนี้ของตระกูลหลง ถึงผมไม่บอก พวกคุณก็น่าจะคาดการณ์ได้ ผมพูดไม่ผิดใช่ไหมครับ?”
เดิมทีเขาเป็นคนรูปร่างสูงอยู่แล้ว ยืนอยู่ในห้องนั่งเล่นดูเป็นพื้นที่ของตัวเอง หลินเหว่ยเย่ที่เงยหน้ามองขึ้นจากโซฟา ก็รู้สึกถึงความกดดันที่ไร้ตัวตน อยู่ๆ เขาก็ เหมือนตกเป็นเบี้ยล่างโดยไม่รู้สึกตัว
หลังจากหลินซีเวินได้ยินสิ่งที่เขาพูด ใบหน้าที่ตึงเครียดก็ดูคลายลงเล็กน้อย หลงจื๋อ……เขาเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ไม่เหมือนแต่ก่อน บอกไม่ถูกว่าตรงไหน แต่จุดยืนของเขา น้ำเสียง วิธีการคิดกับท่าทางการตอบกลับอีกฝ่าย เหมือนต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิงเกิดอะไรขึ้น?
หรือจะเกี่ยวข้องกับการขึ้นศาลของหลงถิง?
หลินเหว่ยเย่รู้สึกหน้าหงายเมื่อถูกหลงจื๋อตอกหน้าตรงๆ เขายกถ้วยน้ำชาขึ้นดื่ม น้ำชาแตะถูกแค่ริมฝีปากเท่านั้น “เสี่ยวจื๋อ ที่เธอพูดอย่างนี้คิดจะแสดงอำนาจกับฉันเหรอ? หรืออยากจะประชดอำนาจของฉัน?”
หลินซีเหวินกัดฟัน ถูกต้อง! ผู้ชายของฉันเขาหมายความว่าอย่างนี้! ถือว่าพ่อยังเข้าใจ!
หลงจื๋อพยักหน้าด้วยความอ่อนน้อมและเคารพยิ้มให้หลินเหว่ยเย่ ยังคงรักษาความเป็นลูกเขยที่อ่อนน้อม “ผมไม่ได้หมายความเช่นนั้นเลย คนภายนอกต่างบอกว่าคุณไม่เห็นแก่ชื่อเสียงเงินทอง บริษัทหลินซื่อใหญ่อย่างนี้ คุณยังยกให้แม่ยายทั้งหมด ชี้ให้เห็นว่าคุณไม่ใช่ผู้ถืออำนาจ คุณอยากได้เงินทุนสักก้อน บริษัทหลินซื่อคงขัดสนจริง ผมเชื่อว่าคุณคงเจอความลำบาก”
คุณนายหลินเกิดอาการตระหนก อ้าปากค้างไม่รู้จะพูดอย่างไร
หลงจื๋อชูคุณธรรมพวกเขาขึ้นสูงอย่างเรียบๆ แล้วยังปูทางลงให้พวกเขา ที่พูดออกไปแต่ละคำไม่ง่ายเลย!
หลินเหว่ยเย่อดใช้สายตามองดูหลงจื๋อใหม่ไม่ได้ เด็กคนนี้……เหมือนมีตรงไหนที่ต่างไปจากเดิม? หรือคำพูดที่กล่าวมาหลงเซียวเป็นคนสอนเขามาก่อน?
รูปธรรมจะเป็นอย่างไรยังต้องรอดูกันต่อไป
“เหอะๆ เธอคิดฉันในแง่ดีเกินไป แต่นักธุรกิจทุกคนน่ะ ยังไงก็ไม่พ้นคำนั้น คนเรากรูกันมาก็เพื่อผลประโยชน์ วิ่นเต้นกันก็เพื่อผลประโยชน์ ฉันก็เป็นนักธุรกิจ ปุถุชนคนหนึ่ง”
ปากหลินเหว่ยเย่พูดเหมือนถ่อมตัว แต่สันหลังกลับตั้งตรงเดะ
ชื่อเสียงของเขาในสังคม พังทลายลงต่อหน้าเมื่อไม่กี่วันก่อน ดีที่ข่าวถูกปิด ไม่เช่นนั้น……
คำพูดของหลงจื๋อเข้าทางเขาพอดี จึงพูดต่อว่า “ความเรียบง่ายก็คือความหรูหรา นอกจากเทวดาเซียนแล้ว เราต่างก็ต้องกินดื่มขับถ่ายนอนหลับ ไม่มีใครไม่ชอบเงินทอง ผมก็เหมือนกับคุณ ไม่อย่างนั้นผมคงไม่มานั่งในสำนักงาน MBK แล้ว”
หลงจื๋อพูดเช่นนี้ ยิ่งทำให้หลินเหว่ยเย่ผ่อนคลายจิตใจ
คุณนายหลินฟังไปฟังมา ก็มีความเปลี่ยนไป ทำไมสองคนนี้ถึงถูกหลงจื๋อปลุกระดมได้นะ?
“หลงจื๋อ อย่าพูดมาพูดให้สวยหรู ในเมื่อเธอรู้ว่าหลินซื่อต้องการเงินทุน แล้วเธอก็มีพอดี ฉันก็ไม่ขอร่ำไรละกัน เมื่อไหร่เราจะได้เจอเงินทั้งสองฝ่าย?” คุณนายหลินไม่พูดจาอ้อมค้อม วางท่าความเป็นประธานกรรมการบริษัทหลินซื่อออกมา
หลินซีเหวินกัดฟันกรอดๆ แม่แท้ๆ ของเขา! นี่คือแม่แท้ๆ ของเขา!
นึกไม่ถึงว่าจะกล้าถามเอาเงินกับลูกเขย!
ตอนเธอให้หลงจื๋อเซ็นชื่อยังต้องต่อสู้กับจิตใจ กลัวจะคิดว่าพ่อแม่ของตัวเองเลวร้ายอย่างคาดไม่ถึง ตอนนี้เห็นที……เธอคิดน้อยกว่าสิ่งที่พวกเขาทำเสียอีก!
อยู่ๆ ก็รู้สึกเย็นเฉียบ หนาวเหน็บ เจ็บปวดภายในใจขึ้นมา
เสียงหัวเราะมีความสุขในอดีตอยู่ก็กลายเป็นเรื่องประชด การชมเชยพ่อแม่จากสังคมกลายเป็นเรื่องประชดขบขันทั้งสิ้น กองทุนการกุศลเอย โรงเรียนแห่งความหวังเอย ทุนช่วยเหลือเด็กมหาลัยเอย ล้วนเป็นเครื่องประดับที่วางขวางอยู่นอกประตูความปรารถนา!
หลินเหว่ยเย่ลูบถ้วยชาในมือ นิ้วเคาะซ้ำๆ ลงเบาๆ
กล้ามเนื้อที่ใบหน้าของหลงจื๋อคลายลง เผยให้เห็นฟันสีขาว “แม่ยายต้องการเงิน ผมก็อยากให้ แต่ตอนนี้……”
“หลงจื๋อ!”
หลินซีเหวินเท้าถีบประตูเข้ามา ยืนตะโกนด้วยท่าทางอุกอาจอยู่ที่ชั้นสอง ท่าทางระรานเหมือนยัยตัวร้ายที่ไม่รู้ความ เอามือเท้าสะเอวมองดูหลงจื๋อ
หลงจื๋อเงยหน้าขึ้น เห็นหลินซีเหวินพอดี
รูปทรงนี้……มันช่าง……บ้านๆ มากเลย
เขายิ้มให้กับหลินซีเหวินด้วยความรักและอบอุ่น “ซีเหวิน คุณอยู่บ้านเหรอ”
หลินซีเหวินอยากบอกว่าจะถามให้เสียน้ำลายทำไม!
“ใช่ อยู่ เพิ่งจะฟังการปะทะคนกลุ่มหนึ่งโต้คารมกัน ตื่นตามากเลย ฉันออกมาเพื่อปรบมือให้ ไม่งั้นจะกลายเป็นการแสดงลมๆ แล้งๆ!”
แล้วหลินซีเหวินปรบมือจริงๆ สายตาที่ประชดยังไม่ละไปจากหลินเหว่ยเย่
คุณนายหลินหน้าถอดสี “ซีเหวิน! พูดจาเหลวไหลอะไร? เรากำลังคุยเรื่องงานกันอยู่!”
หลินซีเหวินค่อยๆ เดินลงบันไดทีละขั้น จงใจให้เสียงรองเท้าแตะลากพื้น “หนูรู้ค่ะ เรื่องงาน เรื่องใหญ่ ก็เรื่องจะเอาเงินจากพวกหนูไปไว้ที่พวกแม่เหรอ? หนูไม่ได้โง่สักหน่อย!” คุณนายหลินโมโหจากคำพวกฉันพวกเธอจนตบโต๊ะ “ซีเหวิน! ลูกยังไม่ได้ออกจากตระกูลหลินนะ!”
หลินซีเหวินกอดอก เธอเป็นคนที่เอาแต่ใจไร้เหตุผลไม่สนเรื่องฟ้าสูงแผ่นดินต่ำมาแต่ไหนแต่ไร “ใครบอกกัน? กฎหมายคุ้มครองการแต่งงานของจีนเห็นด้วยแล้วเหรอ? ตอนนี้หนูเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของหลงจื๋อ สำนักทะเบียนราษฎร์เขียนเป็นอักษรในกระดาษไว้ออกจะชัดเจน!”
หลินเหว่ยเย่เพิ่งจะง้างปากของหลงจื๋อออก ถูกลูกสาวป่วนทีเดียวก็กลับมาที่จุดเริ่มต้นใหม่ “ซีเหวิน ลูกกลับไปเปลี่ยนชุดที่ห้องก่อน พวกเราคุยงานกันอยู่ ลูกไม่รู้เรื่อง”
“ไม่ต้องเปลี่ยนชุด อย่างนี้ก็ดีแล้ว ผู้ชายของหนูเขาชอบหนูแบบนี้” หลินซีเหวินพูดพลางมือสางผม ไม่ล้างหน้าไม่แปรงฟันไม่เปลี่ยนชุดแม้แต่ยกทรงก็ไม่ใส่……
หลงจื๋อลูบหัวเธอด้วยความเอ็นดู “อืม ผมชอบ คุณเป็นยังไงผมก็ชอบ”
หลินซีเหวินทำตาปริบๆ ทั้งสองส่งสายตา เสียงเพรียก ความรักต่อกันราวกับรอบข้างไม่มีผู้ใด
หลินเหว่ยเย่หน้าเขียวขึ้นมา “ฉันตามใจลูกเกินไปจริงๆ!”
หลินซีเหวินใช้ปลายนิ้วเชิดคางพ่อขึ้น “ต่อไปพ่อไม่ต้องตามใจหนูแล้ว หนูมีสามี หลงจื๋อเขาจะตามใจหนู รักหนู อย่างน้อยก็ไม่คิดจะหลอกเงินหนู!