ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 103
บทที่ 103 กลับมาพลิกสถานการณ์
ลอสแอนเจลิสสหรัฐอเมริกา–
เวลาบ่าย ในคฤหาสน์มูลค่าหลายร้อยล้านบนชายฝั่ง ชายผู้มีดวงตาเย็นชากำลังจิบน้ำชายามบ่าย ข้างๆ มือมีสัญญาที่รอคอยการเซ็น และหนังสือพิมพ์รายวันเกี่ยวกับการเงินในประเทศ
“คุณท่านครับ หลังจากคุณลั่วไปซีหลี่ เฟิงเฉินก็ตามไปด้วยครับ และยังช่วยจัดการกับกิจการของแผนกโรงแรมในเครือบริษัทH.Y. ตามแนวโน้มนี้ ความสัมพันธ์ของพวกเขาจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอนครับ”
ชายคนนั้นวางถ้วยน้ำชา ใบหน้าของเขาเย็นลง “โทรหาเขารึยัง?”
พ่อบ้านพยักหน้า “โทรแล้วครับ ในสายเขาดูตื่นตระหนกมาก หวังว่าคุณท่านจะปล่อยเขาไปสักครั้งนะครับ โดยบอกว่านั้นก็เป็นบริษัทที่ท่านประคับประคองมา ถ้าปล่อยให้ล้มละลาย ท่านก็จะขาดทุนเอาได้ครับ”
“นั่นเป็นสิ่งที่เขาหาเรื่องเอง ฉันให้โอกาสเขากี่ครั้งแล้ว? นี่มันก็สามปีแล้ว นอกจากจะทำไม่สำเร็จ และยังทำพังอีก!”
“เขาก็ไม่มีทางเลือก มันเป็นเรื่องที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเหมือนกันครับ”
“เอาเถอะ นายไม่ต้องพูดแทนเขาหรอก สั่งให้เขาทำเรื่องที่ทำอยู่ให้เร็วที่สุด ฉันต้องการโอกาสที่เหมาะสมที่จะกลับไปที่ประเทศจีน ฉันกลัวว่ามันจะสายเกินไป”
พ่อบ้านพยักหน้าอย่างรีบร้อน “ครับ ผมจะกำชับให้เขาทำทันที”
“อืม ออกไปเถอะ”
หลังจากประตูปิดลง ชายคนนั้นก็จ้องที่กรอบรูปบนโต๊ะอยู่เป็นเวลานาน ผู้หญิงในกรอบรูปนั้นอายุยี่สิบปี กำลังอยู่ในช่วงเบ่งบาน เธอใสซื่อบริสุทธิ์ ผมยาวสลวยประบ่า ราวกับดอกชบาอย่างไรอย่างนั้น ยืนอยู่ที่หัวสะพานในเมืองโบราณ และยิ้มให้เขา
สามปีนั้นนานเกินไปแล้ว และเขาไม่ต้องการรออีกต่อไป
หลังจากลงจากเครื่องบินของสนามบินเมืองเจียง หลี่สู้ก็ไปรับเฟิงเฉินและลั่วมั่นกลับไปที่บริษัททันที
ปัญหาที่ซีหลี่ไม่น้อยเลยทีเดียว แม้ว่าเฟิงเฉินจะเดินทางไปอย่างลับๆ ในครั้งนี้ แต่เขาก็ยังทำให้หลายๆ คนตกใจ เป็นเพราะเขาเปิดเผยหน้าที่ซีหลี่ และถอนผู้จัดการโรงแรมทันที จนทำให้บางคนทนไม่ได้
กว่าสิบสายจากโทรศัพท์ที่ไม่ได้รับของเฟิงเฉินและลั่วมั่นหลังจากลงจากเครื่องบิน จะเห็นได้ว่าฉือเม่าที่อยู่เบื้องหลังนั้นไม่ธรรมดาเลย
คณะกรรมการชั่วคราวได้ประชุมกันด้วยเหตุผลที่เป็นไปได้อย่างกว้างขวาง โดยรวบรวมคณะกรรมการที่ยากที่จะมารวมตัวกันไว้ด้วยกัน ทุกคนต่างต้องการรับข่าวสารโดยตรง การมาด้วยตนเองเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
ในห้องประชุม ลั่วมั่นไม่ได้เป็นคนนอกอีกต่อไป และเป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสกับบรรยากาศการต่อสู้ภายใน ทุกๆ คนต่างมีแผนล่อลวงซ่อนไว้อยู่
เฟิงเฉินดูท่าทางสงบนิ่ง แต่เบื้องหลังความสงบนิ่งนี้ เป็นเพราะได้รับการฝึกฝนอยู่หลายปี
ในตอนท้ายของการประชุม ลั่วมั่นถึงกลับเหงื่อตก เม้มริมฝีปากและตามเฟิงเฉินกลับไปที่ห้องทำงาน
“คณะกรรมการชุดก่อนเป็นแบบนี้รึเปล่าคะ?”
ประตูถูกปิด เธอก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น
เฟิงเฉินพยักหน้าเบาๆ “อืม”
เธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน เธอคิดเสมอว่าคณะกรรมการก็แค่เข้ามาร่วมประชุม ทุกๆ ปีก็แค่ฟังคำพูดของเฟิงเฉินและพวกเขาก็แยกย้าย ตอนนี้รับรู้แค่เล็กน้อยเท่านั้น ก็รู้สึกว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่อันตราย จนทำให้เธอตกใจอยู่ไม่น้อยเลย
“ตอนที่คุณรับช่วงต่อ ก็มักจะเป็นแบบนี้ตลอดเลยเหรอคะ? ”
“ก็ไม่ใช่อย่างนั้น”
เฟิงเฉินหยิบน้ำผลไม้คั้นสดจากตู้เย็น และไม่รอให้เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาก็พูดออกมาอย่างง่ายดาย “น่าจะสักเจ็ดขวบที่แม่ของผมให้ผมไปอยู่กับพ่อ ก็เป็นแบบนี้มาโดยตลอด”
ลู่จิ่งจูต้องเข้มแข็ง หลังจากเรื่องที่สามีของเธอมีผู้หญิงอีกคนถูกเปิดเผย เธอก็ไม่ร้องไห้หรือสร้างความเดือดร้อนอะไรเลย เมื่อต้องเผชิญกับผู้สื่อข่าว เธอก็บอกเพียงว่า “นี่เป็นเรื่องในบ้านของเรา คงไม่รบกวนให้ทุกคนเป็นห่วงหรอกค่ะ” และได้ข้อร้องสามีเพียงอย่างเดียว คือพาลูกชายวัยเจ็ดขวบไปสังเกตการณ์การประชุมทางธุรกิจทั้งหมด