ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 108
บทที่ 108 นี่มาจากละครเรื่องไหนเหรอ?
“เรื่องนี้……เรื่องนี้……” แม่ลั่วมั่นที่ไม่มีความคิดเห็นมาโดยตลอด ตื่นตระหนกเมื่อได้ยินคำพูดนั้น เพียงแต่ปรายตามองไปที่พ่อลั่วมั่นเท่านั้น
พ่อลั่วมั่นไอรุนแรงขึ้น และโบกมืออย่างไม่เต็มใจ “ผมจะหาทางเอง ถึงแม้มั่นมั่นจะแต่งงานไปอยู่ตระกูลเฟิงแล้ว ทางนั้นก็คงจะยื่นมือมาช่วยบ้าง พวกคุณอย่ากังวลไปเลย”
คุณน้ายิ้มเยาะว่า “ฉันไม่คิดว่าจะเป็นแบบนั้นนะคะ แต่งงานมาสามปีแล้ว ฉันยังไม่เคยเห็นเขากลับมาเจอพวกเราสักครั้ง ฉันคิดว่าการแต่งงานนี้ คงใกล้จะจบลงแล้วล่ะ”
ลั่วมั่นกำมือแน่น เล็บของเธอเกือบจะฝังอยู่ในฝ่ามือแล้ว ก่อนจะพูดอย่างใจเย็นว่า “เรื่องของเราสองสามีภรรยา ดูเหมือนคุณน้าจะรู้ดีกว่าตัวฉันเองอีกนะคะ ของกินอาจจะกินมั่วๆ ได้ แต่คำพูดจะพูดมั่วๆ ไม่ได้นะคะ”
คุณน้ากอดอก และก้มมองลงไปที่เล็บสีแดง พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงดูถูก “ฉันไม่รู้ แต่ฉันก็เห็นด้วยตาของฉันเอง คุณชายเฟิงเคยก้าวเข้ามาในตระกูลลั่วไหมล่ะ?”
นี่คือจุดที่ทำให้ลั่วมั่นเจ็บใจ การถูกพูดต่อหน้าพ่อและแม่ สร้างรอยแผลให้เธออย่างไม่ต้องสงสัย เลือดค่อยๆ ไหล ไม่นานใบหน้าของเธอก็ไร้สีเลือด
“ก๊อกๆๆ”
เสียงเคาะประตูดังขึ้น และดังชัดมากในความเงียบ
“มั่นมั่น”
เสียงอันเยือกเย็นถูกห่อหุ้มด้วยความอ่อนโยนที่หาได้ยาก ลั่วมั่นตกใจและมองไปที่ประตูด้วยความประหลาดใจ
เฟิงเฉินสามีของเธอยืนอยู่ที่ประตู ยืนตัวสูง ถือกล่องหรูหราสองกล่องไว้ในมือ ท่าทางของเขาไม่เข้ากับความอึมครึมในห้องนั่งเล่นเลยสักนิด
เธอคิดว่าตัวเองฝันไป
“เฟิง……เฟิงเฉิน” แม่ลั่วมั่นพูดติดขัด เธอไม่อยากจะเชื่อกับภาพตรงหน้า
หลังจากแต่งงานมาสามปี นี่เป็นครั้งแรกที่เฟิงเฉินมาที่นี่
“คุณมาได้ยังไงคะ?” ลั่วมั่นหยุดความตกตะลึงไว้ และเดินไปต้อนรับเขา
เฟิงเฉินนำเส้นผมที่ตกมาตรงหน้าผากทัดหูให้เธออย่างระมัดระวัง “ทำไมคุณไม่บอกผมว่าคุณจะกลับบ้าน เป็นแบบนี้ทุกครั้งเลยนะ เมื่อก่อนผมอาจจะไม่มีเวลา แต่ตอนนี้บริษัทเข้าที่แล้ว ไม่ถือว่ายุ่งเลย”
ลั่วมั่นรู้สึกขนลุกในน้ำเสียงที่ใกล้ชิดนี้
นี่มาจากละครเรื่องไหนเหรอ?
เธอยังคงตกตะลึง เฟิงเฉินจับมือเธอไว้และเดินไปตรงหน้าผู้อาวุโสทั้งสอง
“คุณพ่อ คุณแม่ครับ ขอโทษที่มาช้านะครับ ที่จริงควรมาตั้งนานแล้ว แต่สองปีที่ผ่านมานี้ที่บริษัทยุ่งมาโดยตลอด มั่นมั่นไม่อยากจะรบกวนการทำงานผม ทุกครั้งที่กลับมาเธอจึงไม่ยอมบอกผม ถ้าครั้งนี้ไม่ถามผู้ช่วย ผมก็คงไม่รู้ว่าวันนี้เธอกลับบ้าน”
เขายื่นของที่เขานำมาให้กับคนรับใช้ “นี่คือถั่งเช่าที่เพื่อนผมนำมาให้ มันช่วยบำรุงกำลัง เป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ที่ผมนำมาให้พ่อกับแม่ครับ
เหล่าลุงป้าน้าอาต่างก็คาดไม่ถึง ใครจะคิดได้ว่าเฟิงเฉินที่มีข่าวลือว่าหมางใจกับลั่วมั่นจะมาที่บ้านด้วยความสมัครใจแบบนี้ และยังนำของมากมายมาให้ด้วย?
หลังจากที่ลั่วมั่นได้สติกลับมา ใบหน้าของเธอก็ไม่ได้ยินดีมากนัก
ไม่ใช่ว่าเธอไม่ดีใจ เพียงแค่เธอยังไม่ได้รับการปลดเปลื้องจากความอัปยศอดสูเมื่อครู่นี้ ความอึดอัดตลอดสามปีที่ผ่านก็เป็นเพราะเฟิงเฉิน เขาเจตนาแสดงออกอย่างเย็นชา ทำให้ที่บ้านของเธอเข้าใจแบบนั้น และเขาก็รู้มาโดยตลอด
เมื่อเวลาผ่านไป เธอก็ไม่หวังจะให้เขามาแล้ว ในตอนนั้นเมื่อตระกูลลั่วและตระกูลเฟิงเกี่ยวดองกัน ซึ่งเขามีฐานะที่สูงกว่า ดังนั้นเวลาพ่อและแม่เจอเฟิงเฉิน ก็มักจะมีท่าทางหวาดกลัวเสมอ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกอึดอัดไม่สบายใจ
และแน่นอน พ่อลั่วมั่นดูไม่เป็นธรรมชาติอย่างเห็นได้ชัด รีบร้อนที่จะลุกขึ้นและพูดว่า “เชิญนั่ง เชิญนั่ง”
ร่างกายของลั่วมั่นแข็งทื่อ และมีความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้อยู่ในใจ
เขาแอบออกแรงบีบมือเธอ และเหลือบมองทุกคนในห้องนั่งเล่นอย่างเป็นธรรมชาติ
“คุณพ่อสุขภาพไม่ค่อยดี ไม่ต้องลุกหรอกครับ นั่งเถอะครับ พวกคุณคือ……”
แม่ลั่วมั่นรีบช่วยแนะนำ “นี่คือคุณป้า คุณน้า คุณลุงของมั่นมั่น…….”
เมื่อพูดถึงคุณน้า เฟิงเฉินก็เหลือบมองไป พยักหน้าและพูดพร้อมยิ้มเบาๆ ว่า “มั่นมั่นพูดถึงคุณน้าให้ผมฟังบ่อยๆ มักจะพูดถึงบรรดาญาติๆ ในครอบครัวเธอเสมอ เธอเคารพและชอบคุณน้ามากที่สุด ร้อยคำพูดไม่เท่าตาเห็นจริงๆ นะครับ”