ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 126
บทที่ 126 งั้นก็เพิ่งพาความสามารถของตัวเอง
พนักงานหญิงสองคนตกใจมาก ทักทายอย่างติดๆขัดๆจึงรีบวิ่งหนีไป
ลั่วมั่นราวกับคนที่ไม่เป็นอะไร ยืนหน้าอ่างล้างมือบีบเจลล้างมือ ล้างมือ และเช็ดให้แห้ง สุดท้ายโยนทิชชู่ที่เช็ดมือให้แห้งทิ้ง เสร็จกระบวนการรวดเดียว
เธอเงยหน้าขึ้นมองกระมอง สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ปกปิดความเศร้าในแววตาของเธอ
จากนั้นหันหลังกลับเตรียมออกจากห้องน้ำ ในจังหวะนี้จู่ๆก็เข้าใจขึ้นมาทันทีว่าอะไรคือโลกนี้มันช่างกลม ไม่อาจหลีกเลี่ยงคนที่ไม่อยากเจอได้
“คุณลั่ว บังเอิญจังเลย”
เงาของสีชมพูอ่อนเพิ่งเดินเข้ามา ใบหน้าของเวินน๋อนพร้อมด้วยรอยยิ้มจอมปลอมที่ดูไม่เป็นมิตรอย่างเห็นได้ชัด “ฉันนึกว่าด้วยนิสัยการใช้ชีวิตแบบเธอ จะไม่มาทานข้างที่โรงอาหารซะอีก”
“ฉันถือว่าเธอชมฉันละกัน เลขาเวิน ภูมิหลังแบบพวกเราดูเหมือนจะเลวร้ายในสายตาเธอไปหน่อยนะ ปกติฉันก็เป็นคนธรรมดา”
ลั่วมั่นตอบอย่างเฉยชา แล้วจะออกไป
“คุณลั่ว”เวินน๋อนเรียกเธอตามหลัง “จริงๆแล้วเธอควรขอบคุณฉัน ถ้าหากสามปีที่แล้วฉันไม่ไปจากไป คาดว่าวันนี้เธอก็คงไม่ได้ตำแหน่งนางหญิงเฟิงง่ายๆแบบนี้หรอก แม้ว่าภูมิหลังจะดีแค่ไหน แต่ก็ไม่มีใครมองข้ามไม่คิดคำนึงถึงความคิดของเฉินหรอกนะ”
คำพูดของเวินน๋อนเกือบจะทำลายเส้นกั้นปกป้องในใจของลั่วมั่น ความจริงมักเจ็บปวดเสมอ เพราะการจากไปของเวินน๋อนเมื่อสามปีก่อน ส่งผลกระทบอย่างแรงกับเฟิงเฉิน และเธอกลับฉวยโอกาสนี้ เลยได้เป็นนางหญิงเฟิงอย่างถูกต้อง
เธอพูดถูก ไม่มีตรงไหนผิด
ร่างกายของลั่วมั่นแข็งทื่อไปสักพัก มือทั้งคู่ก็กำแน่น แต่ในตอนที่เธอหันกลับมาสีหน้ายังคงไม่เปลี่ยน พูดอย่างไม่ช้าไม่เร็ว “ดังนั้นเธอเลยคิดว่าฉันต้องรู้สึกซาบซึ้งในพระคุณเป็นอย่างยิ่งกับเธอเหรอ?”
เวินน๋อนขมวดคิ้ว ราวกับว่าไม่พอใจกับท่าทีมั่นใจแบบนี้ของลั่วมั่น
“สามปีก่อนนั้นฉันไม่ได้เป็นคนบังคับเธอไป ระหว่างเธอและเฟิงเฉินมีความผิดพลาดอะไรกันมาก่อนฉันไม่สนใจเลยสักนิด ความจริงสิ่งเดียวที่ฉันรู้ก็คือ ฉันเป็นนางหญิงเฟิงที่ได้รับการยอมรับ ถ้าวันไหนความจริงที่เราแต่งงานกันยังคงอยู่ ผู้หญิงคนไหนที่มีความคิดไม่ดีก็เป็นเพียงคนน่าสมเพชเวทนา”
ความเย็นชาในดวงตาของลั่วมั่นทำให้เวินน๋อนคิดอะไรได้ เธอกัดฟัน พูดอย่างไม่พอใจ “ถ้าหากฉันบอกเธอว่า เป้าหมายที่ฉันกลับมาคือแก้ไขความผิดพลาดนั่นล่ะ?”
“งั้นก็เพิ่งพาความสามารถของตัวเอง” ลั่วมั่นยิ้มเย็นชาเสียงหนึ่ง
“อีกอย่าง เลขาเวิน เตือนเธอคำหนึ่งนะ ฉันไม่ใช่ลูกค้าของเธอ ที่นี่เป็นบริษัท เธอควรเรียกฉันว่าประธานลั่วหรือนางหญิงเฟิง แต่ไม่ใช่คุณลั่ว”
ในตอนที่อยู่ต่อหน้าคนนอก เธอไม่เคยขี้ขลาด แม้ว่าผู้หญิงตรงหน้านี้จะทำให้เธอรู้สึกกลัวจากลึกๆของหัวใจ แต่ก็ไม่แสดงต่อหน้าของเธอสักนิด
สีหน้าของเวินน๋อนแอบซีด ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมอ่อนข้อให้กัน เสียงฝีเท้าจากประตูข้างนอกดังขึ้น ตามด้วยเสียงร้องไห้ของเด็ก ดูน่าเศร้ามาก
“เวินน๋อน เจอเธอสักที เฮ่าเฮ่าอารมณ์เสียตลอดเลย”
ลั่วมั่นและเวินน๋อนมองไปฝั่งประตูเกือบจะพร้อมกัน ก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งอุ้มเด็กผู้ชายอายุประมาณสามขวบไว้ในอ้อมกอด ร้องไห้สะอึกสะอื้น
“มามี้ มามี้……”
พอได้ยินเสียงของเด็ก สีหน้าของเวินน๋อนก็ซีดไปทันที กลัวว่าลั่วมั่นจะดูออก เดินขึ้นไปบังเฮ่าเฮ่า “เสี่ยวอ้าย ใครให้เธอพาเขามาที่นี่?”
หญิงสาวที่ชื่อว่าเสี่ยวอ้ายสีหน้าลำบากใจ อธิบายเสียงเบาว่า
“ฉันก็ไม่วิธีแล้วเหมือนกัน ปกติเฮ่าเฮ่าไม่เป็นแบบนี้ วันนี้ไม่ว่าจะโอ๋ยังไงก็ไม่หยุด ร่างกายไม่สบายหรือเปล่าแบบนี้……”
สายตาของเวินน๋อนมองไปตรงแก้มที่แดงก่ำของเฮ่าเฮ่า เมื่อเธอเห็นระหว่างคิ้วของเด็กและคนๆนั้นคล้ายกันมากก็สงบสติอารมณ์ลง ปลายตามองบนตัวลั่วมั่นไปรอบหนึ่ง น้ำเสียงอ่อนโยนขึ้นเยอะ “งั้นก็ให้เฮ่าเฮ่าอยู่ที่นี่เลย ใกล้กับพ่อเขาด้วย”
พูดจบ เธอรับเฮ่าเฮ่าจากมือของเสี่ยวอ้ายมา