ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 135
บทที่ 135 หนีออกมาซะเลย
ลั่วมั่นอยู่ในชุดออกกำลังกาย ผมยาวสลวยถูกมัดรวบเป็นหางม้าเอาไว้ด้านหลัง สะพายเป้เดินออกจากวิลล่า เรียกรถบริการมุ่งตรงไปยังเขาหลงหู่ในเขตชานเมืองทางตอนเหนือ
เพราะเฟิงเฉินเธอถึงได้โมโห ไม่อยากจะอธิบายใดๆ กับคนที่บ้านว่าตนทำไมถึงต้องทะเลาะกับเฟิงเฉิน เพราะงั้นเธอถึงไร้ความอดทนเมื่อมารดาของเธอเอะอะอยู่ที่หน้าห้อง จึงสวมชุดสบายตัวออกมาทางหน้าต่าง
เพียงแค่ชั้นสองเท่านั้น สำหรับเธอแล้ว เป็นแค่เรื่องเล็กน้อย
เฟิงเฉินคิดว่าเพียงแค่ไม่กี่ประโยคก็สามารถคลี่คลายเรื่องที่เขาตั้งใจทำให้ตนขายหน้ามาในสามปีนี้ได้อย่างนั้นเหรอ แต่กลับไม่คิดเลยว่าลั่วมั่นเป็นคนอารมณ์รุนแรงและไม่ยอมคน ไม่เอ่ยถึงมันยังพอได้ แต่เมื่อเอ่ยขึ้นมา ความเจ็บปวดที่สั่งสมมาตลอดสามปีพลอยปะทุออกมาขนหมดสิ้น
จึงหนีออกมาซะเลย
ที่เชิงเขาหลงหู่มีคฤหาสน์ส่วนตัวอยู่หลังหนึ่ง สไตล์โบราณ หน้าคฤหาสน์มีหินใหญ่อยู่ก้อนหนึ่ง สลักตัวอักษรสีแดงอยู่ด้านบน ‘ฝู้ซื่อเฉ่าถัง’ เป็นที่อยู่อาศัยส่วนตัวของฝู้หมิงถัง
ลั่วมั่นเดินเข้าไปหลังจากที่ลงรถจากรถ เธอเดินมาถึงหน้าประตูก็ยังไม่พบใครแม้แต่คนเดียว ไม่มีแม้แต่บอดี้การ์ดเฝ้ารักษาประตู กระทั่งเดินเข้าไปในสนามด้านใน น้ำเสียงอันเย็นชาถึงได้แล่นผ่านมาจากที่ไม่ไกลนัก
“คุณฝู้ไม่อยู่ เชิญกลับไปเถอะ”
น้ำเสียงวัยเยาว์ ฉะฉานชัดเจน ลั่วมั่นหันไปตามต้นตอของเสียง พบกับร่างสีขาวซีดที่กำลังตกปลาอยู่ที่ศาลาริมน้ำ
ลั่วมั่นเดินเข้าไปด้วยความสงสัย “สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่า…..คุณคือ?”
“พ่อบ้าน”
“พ่อบ้านงั้นเหรอ?” ลั่วมั่นกวาดสายตาเพ่งพินิจเขาอย่างประหลาดใจ วัยละอ่อนที่ดูแข็งแรงเช่นนี้ เหมือนพ่อบ้านซะที่ไหน หากจะบอกว่าเป็นคุณชายของบ้านนี้ก็ไม่เกินไปนักหลอก
“ไม่เหมือนเหรอ?” เมื่อได้ยินน้ำเสียงแห่งความประหลาดใจ ชายหนุ่มเหลือบมองที่เธอ
“คุณบอกว่าใช่ก็ใช่แล้วกัน” ลั่วมั่นมั่นใจว่าไอ้หมอนี่ไม่ใช่พ่อบ้านอะไรทั้งนั้น แต่ก็ไม่อยากจะสาวความให้ถึงรากถึงโคลน เธอเพียงชี้เข้าไปในตัวคฤหาสน์ “ถ้างั้นขอถามหน่อย คุณฝู้จะกลับมาเมื่อไหร่?”
“ใครจะไปรู้ล่ะ” ชายหนุ่มพิงกลับไปที่ราวบันได ก่อนขยับเบ็ดตกปลาในมือเป็นระยะ เอ่ยอย่างเกียจคร้าน “บางทีอาจจะรอจนกว่าผมจะตกปลาได้ เขาถึงจะกลับมา”
ลั่วมั่นจ้องเขม็งที่เบ็ดตกปลา สลับกับตะกร้าที่ว่างเปล่า เธอละสายตา หยิบขนมปังที่ทานเหลือออกมาจากกระเป๋าเป้ ฉีกเป็นชิ้นๆ โยนลงไปในน้ำ
ฝูงปลามากมายอยู่ใต้เบ็ดของชายหนุ่ม ไม่นาน เบ็ดตกปลาก็มีความเคลื่อนไหว
“เห้!” ชายหนุ่มยกเบ็ดขึ้นอย่างรวดเร็ว ปลาปลาคาร์ฟตัวใหญ่ดิ้นพล่านที่พื้น ถูกมือหนากดเอาไว้ ก่อนยัดเข้าไปในตะกร้า “เธอใช้ได้เลย!” ชายหนุ่มแหงนหน้าขึ้น ใบหน้าที่ละอ่อนไม่สามารถปกปิดรอยยิ้มอันทรงเสน่ห์ได้ “ที่เธอโยนเมื่อสักครู่คืออะไร?”
“บอกฉันก่อนว่าคุณฝู้อยู่ที่ไหน ฉันถึงจะบอกเธอว่าที่ฉันโยนลงไปมันคืออะไร”
“ง่ายมาก” ชายหนุ่มหยิบยกเบ็ดตกปลาขึ้น ก่อนที่จะแบกเบ็ดตกปลามุ่งเข้าไปในคฤหาสน์ “ตาแก่ เย็นนี้ทานปลานะ!”
บนระเบียงชั้นสอง เสียงแผ่วดังขึ้น “เผ็ดหน่อยนะ!”
“แล้วก็! มีคนมาหา ตาแก่!”
เขาเอ่ย พลางเหลือบไปทางลั่วมั่น “ฉันพามาให้แล้ว คุณก็ขอพรให้ตัวเองโชคดีแล้วกัน”
ลั่วมั่นหันไปตามสายตาของเขา ก็ได้พบกับชายร่างขาวยืนจ้องเธออยู่เหนือหัว ชายชราอายุราวห้าสิบกว่า พร้อมขยับพัดในมือราวกับนักปราชญ์ จ้องมองที่เธออย่างไม่ยินดี “เธอเป็นแม่สาวน้อยจอมล่อลวงจากไหนกัน?”
“คุณฝู้ ฉันเป็นประธานฝ่ายการตลาดของบริษัทH.Y. มีชื่อว่าลั่วมั่น ฉันอยากเจรจากับคุณ เรื่องเครื่องช่วยอ่านอีบุ๊ค”
“เครื่องช่วยอ่านอีบุ๊ค?” ฝู้หมิงถังเหลือบมองเธอ “ไอ้ของแบบนั้นเรียกหนังสือได้ด้วยหรือ? ตลกสิ้นดี”