ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 136
บทที่ 136 นักธุรกิจยุ่งยากจริงๆ
“คนที่รักการอ่านเขาไม่สนใจเครื่องอ่านอีบุ๊คหลอก คนที่อยากอ่านหนังสือเขาก็จะซื้อหนังสือจริงๆ มาอ่าน เพราะงั้นพรีเซนเตอร์ ต้องอภัยที่ฉันช่วยอะไรไม่ได้”
ในห้องรับแขก น้ำเสียงของฝู้หมิงถังเสียงดังทรงพลัง เขาได้ปฏิเสธคำร้องขอของลั่วมั่นอย่างเด็ดขาด
“ท่านพูดไม่ผิดหลอก” ลั่วม้่นพยักหน้ารับ แต่ก็ไม่ได้เห็นด้วยกับประโยคซะทีเดียว
“แต่ท่านก็ไม่สามารถสรุปในผลประโยชน์ของเครื่องอ่านอีบุ๊ค อย่างน้อยที่สุดในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม สิ่งนี้ทำได้ดีมาก เป็นการหลีกเลี่ยงทรัพยากรกระดาษที่สิ้นเปลือง และเจ้าเครื่องนี้ก็พกพาสะดวก สำหรับคนที่อยากอ่านหนังสือ มันเป็นทางเลือกการอ่านที่ชาญฉลาดอย่างไม่ต้องสงสัย”
“เธอไม่ต้องพูดอะไรพวกนี้กับฉันหลอก” ฝู้หมิงถังเริ่มไร้ความอดทน ยกมือขึ้น ท่าทางออกคำสั่งขับไล่ หากแต่สายตาของเขาจับจ้องไปทางห้องครัวนิ่ง
เสียงจี๊ดจ๊าดน้ำร้อนสาดกระเซ็นดังขึ้นจากในครัว ตามมาด้วยกลิ่นหอมกลุ่นของกระเทียมและหอมแดง ที่แผ่ซ่านไปทั่วทุกทิศ ลั่วมั่นมองไปรอบๆ “คุณฝู้มีความสนใจในด้านอาหารด้วยหรือ?
“ไม่หลอก” ฝู้หมิงถังปฏิเสธ “ฉันแค่สนใจในสิ่งของของที่บ้านเท่านั้น อย่าคิดที่จะหลอกถามและอย่ามองหาโอกาสในวิกฤต นักธุรกิจอย่างพวกเธอนี่มันยุ่งยากจริงๆ เลยนะ”
เป็นการปิดโอกาสทุกทาง
ลั่วมั่นเข้าใจแล้วทำไมก่อนหน้านี้นักเจรจาต่อรองยอดฝีมือในแผนกถึงได้ตกม้าตายที่คุณฝู้คนนี้ เพราะเขาไม่เอาอะไรทั้งนั้น ท้ายที่สุดเธอยื่นเทคโนโลยีที่นำติดตัวมาด้วยยื่นให้กับเขา “คุณฝู้ ฉันคิดว่าคุณควรจะทดลองผลิตภัณฑ์ของเราก่อนแล้วค่อยสรุปนะคะ”
“ผมไม่มีเวลา”
ฝู้หมิงถังทิ้งท้ายประโยค ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนมุ่งไปในครัว
ลั่วมั่นนั่งรออยู่ที่ห้องโถงสักพัก ที่สุดเธอก็ไร้หนทาง ก่อนที่จะเก็บของออกจากคฤหาสน์ไป
“รอเดี๋ยว”
เพิ่งถึงหน้าประตู เสียงที่วัยเยาว์ดังขึ้นจากทางด้านหลัง เมื่อหันกลับไปก็ได้พบกับชายหนุ่มที่บอกว่าเป็น ‘พ่อบ้าน’ สาวเท้ามุ่งมายังเธอ “เธอได้พกผลิตภัณฑ์ตัวอย่างมาด้วยไหม? เอามาให้ผมดูหน่อย”
ลั่วมั่นนิ่งไป “คุณจะดู?”
“ทำไม ไม่พอใจหรือไง?” ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้น ด้วยทีท่าหยอกล้อ “ไม่แน่ผมอาจจะเห็นแก่ความสามารถในการตกปลาของคุณ ช่วยคุณพูด ให้คุณฝู้ยอมรับในข้อตกลงของคุณก็ได้นะ?”
เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วมั่นสายตาประกายขึ้นมา เธอรีบยื่นเครื่องช่วยอ่านอีบุ๊คให้กับเขา “เครื่องอ่านอีบุ๊คของเราดีมากจริงๆ คุณภาพดีกว่าในท้องตลาดหลายเท่า แถมยังเป็นถนอมสายตาด้วย ส่วนใหญ่เป็นเหมือนกับการอ่านในกระดาษ”
ชายหนุ่มรับมาไว้ ก่อนยัดเข้าไปในผ้ากันเปื้อนโดยไม่มองเลยแม้สักนิด พร้อมเอ่ยอย่างไม่แยแส “พอได้แล้ว ไม่ต้องขายกับผมหรอกมีเวลาแล้วผมจะลองดู คุณไปได้แล้ว”
ลั่วมั่นจับจ้องเขาอย่างใช้ความคิด
“มองผมทำไม? กลัวว่าผมจะหลอกเครื่องอ่านอีบุ๊คนี่แล้วหนีไปอย่างนั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่” ลั่วมั่นส่ายหน้า “โดยทั่วไปบอกว่าจะช่วยฉันในเวลานี้ ต้องสนิทกับคุณฝู้มาก คุณคือลูกชายของฝู้หมิงถังสินะ?”
“คุณคิดเยอะไปแล้ว ผมสาบานด้วยเกียรติของผม ว่าผมไม่ใช่ลูกชายของฝู้หมิงถัง”
“ถ้างั้นก็เป็นหลาน หรืออาจจะเป็นพวกผู้สืบทอด?”
“พี่สาว ดูละครมากไปหรือเปล่า?” ชายหนุ่มทำตาขวางอย่างอดไม่ได้ “ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น ไม่ใช่สิ่งที่คุณคิดทั้งหมด”
ชายหนุ่มไม่สบอารมณ์ “ไปได้แล้ว”
“ยังไงก็ต้องขอบคุณมากที่ช่วยฉัน หากสุดท้ายไม่สำเร็จ ไวน์นี่ให้คุณแล้วกัน” ลั่วมั่นชี้ไปที่เครื่องช่วยอ่านอีบุ๊คในกระเป๋าผ้ากันเปื้อน เธอเผยรอยยิ้มออกมา ก่อนที่จะหมุนตัวออกไป
ชายหนุ่มจับจ้องเงาร่างที่ไกลออกไป พร้อมเผยสายตาอยากรู้อยากเห็นเต็มที่
เสียงหนึ่งในครัวดังขึ้นเรียกสติออกจากภวังค์ “ไอ้เด็กไม่รักดี ยังไม่เข้ามาอีก ปลาจะไหม้แล้ว! คืนนี้ไม่ต้องกิน!”