ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 140
บทที่ 140 การแต่งงาน บัดซบ
เพียงแค่ประโยคเดียวของลู่จิ่งจู ทำให้ใบหน้าของลั่วมั่นขาวซีด
หากบอกว่าเฟิงจิ่งแดกดันเธอยังพอไหว แต่แม่สามีของเธอกลับเอ่ยปากให้เธอไปตรวจที่โรงพยาบาล เพื่อเช็กว่าเธอสามารถมีบุตรได้หรือไม่ สิ่งนี้ทำให้เธอลำบากใจและอับอายอยู่ไม่น้อย
แถมยังอยู่ในสถานการณ์ที่สมาชิกครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าเช่นนี้อีกด้วย
ลั่วมั่นสังเกตเห็นสายตาที่ดูหมิ่นของเฟิงเฉิน สีหน้าของเธอเย็นชาขึ้นมาทันที หญิงสาวชักมือกลับจากฝ่ามือของเฟิงเฉินที่ใต้โต๊ะ พร้อมเอ่ยอย่างเย็นชา
“แม่คะ จะให้ฉันไปตรวจไม่มีปัญหา แต่การคาดเดาของพี่สาวคงเป็นการกล่าวหากันเกินไป เฉินเด็ดดอกหญ้าข้างทางมาหลายปี ฉันก็ไม่เห็นว่าใครจะมีลูกสักคน คนที่ต้องไปตรวจมีแค่ฉันเหรอคะ?”
จบประโยค สีหน้าของคนบนโต๊ะแปลกประหลาดไป ทุกคนหันไปทางเฟิงเฉินอย่างพร้อมเพียงกัน โดยไม่ลังเล สายตาของเฟิงจิ่งแฝงความหมายเป็นพิเศษ
สีหน้าของเฟิงเฉินดำทะมึนขึ้นมาทันที แต่กลับไม่อธิบายแต่อย่างใด
มื้ออาหารที่น่าอึดอัด ประเด็นเหล่านั้นยังคงดังขึ้นต่อเนื่อง
เฟิงจิ่งดุจดั่งฟืน ที่จุดติดได้ทันที ไม่มีใครกล้ายั่วโทสะของเธอ เรื่องการมีบุตรระหว่างเฟิงเฉินและลั่วมั่นกลายเป็นประเด็นร้อนของผู้ใหญ่ เมื่อสักครู่เพิ่งชี้แนะไปหมาดๆ ทำให้ทุกคนต่างคิดไปต่างๆนานา จึงไม่กล้าที่จะเอ่ยถามใดๆอีก ที่เหลือก็เป็นการแต่งงานของเฟิงเซิ่ง
เฟิงเซิ่งอายุน้อยกว่าเฟิงเฉินเพียงแค่สองปีเท่านั้น เขามีอายุเท่าลั่วมั่น ถึงเวลาที่เขาจะต้องแต่งงานมีครอบครัวแล้ว ที่บ้านเองก็แนะนำลูกหลานคุณหนูคุณนายให้กับเขาอยู่ไม่น้อย แต่ไม่มีสักคนที่เข้าตาเขาเลย
“เรื่องของเซิ่ง ฉันจำได้อยู่ตลอดแหละ ลูกสาวของประธานเจ้าของEast Asia Jewelleryคุณหมิงเธอเพิ่งจบจากเมืองนอกกลับมาช่วยคุณพ่อของเธอดูแลบริษัท หากพวกแกมีเวลาก็ไปทานข้าวด้วยกันซะ”
เมื่อได้ยินประโยค เฟิงเซิ่งวางตะเกียบลง “แม่ครับ สัปดาห์ที่แล้วเพิ่งจะแนะนำให้ผมไปคนหนึ่ง แล้วทำไมถึงได้?”
ผู้นำตระกูลเฟิงเหลือบมองลู่จิ่งจู อย่างถือโทษ “คุณยอดพวกเธอให้กับเซิ่งอย่างเอาแต่ใจแบบนี้ เขาจะเลือกถูกได้ยังไง ละเอียดหน่อย ตั้งใจให้มากกว่านี้ หาคนที่ดี คนที่สามารถพัฒนาต่อไปได้”
ลู่จิ่งจูขมวดคิ้วแน่น พร้อมเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์
“คราวก่อนที่แนะนำคุณกู้ให้กับเซิ่ง ทั้งคู่พบกันเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เซิ่งบอกว่าไม่ชอบเธอ เธอโลกส่วนตัวสูงไปหน่อย ก็เลยไม่ได้ไปต่อ เป็นเพราะฉันไม่ตั้งใจซะที่ไหนกัน?”
“เธอเองก็ถามเซิ่งด้วยสิว่าชอบแบบไหน เขาไม่ชอบผู้หญิงที่มีโลกส่วนตัวสูงเธอยังไม่รู้เลยแบบนี้เขาจะถูกใจเธอได้ยังไง?”
ผู้นำตระกูลเฟิงรักเฟิงเซิ่งมากกว่าเรื่องนี้ทุกคนในบ้านต่างรู้ดี ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลังเขาก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เพราะเขาชดเชยความผิดที่มีต่อมารดาของเขาให้กับเขาทั้งหมด
ลู่จิ่งจูระงับความโกรธ กวาดสายตามองเฟิงเฉิน “ถ้างั้นคราวนี้ ต่อหน้าพี่ชายพี่สะใภ้ และพี่สาวของแก แกลองบอกมาสิ แกชอบแบบไหนกันแน่ ฉันจะตั้งใจหาให้แก จะได้ไม่ถูกใครคิดบัญชีเอาได้”
เฟิงเซิ่งนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยตอบอย่างระแวดระวัง “ถูกใจพ่อกับแม่ก็พอแล้ว ผมว่างานแต่งที่แม่ช่วยจัดการให้กับพี่ชายใช้ได้เลย พี่สะใภ้นิสัยดี แถมยังเป็นผู้นำได้ดี เพราะงั้นแม่ว่าคนไหนดีก็คนนั้นแล้วกัน”
เมื่อได้ยินดังนั้น ผู้นำตระกูลเฟิงกวาดสายตาไปที่ลูกชายคนโตและภรรยา อย่างใช้ความคิด ไม่รู้ว่าเขานึกอะไรขึ้นมาได้ ก่อนที่จะหันไปมองลู่จิ่งจูด้วยสายตาตำหนิที่ลึกขึ้นมากกว่าเดิม
ลู่จิ่งจูเข้าใจความหมายที่แอบแฝงในสายตาของเขา ทันใดนั้นเธอวางตะเกียบลงทันที
“ฉันอิ่มแล้ว พวกแกค่อยๆ ทานไปนะ”
ผู้นำตระกูลเฟิงคิ้วขมวดแน่นขึ้นกว่าเดิม เขาวางตะเกียบลงอย่างรุนแรงก่อนที่จะไล่ตามขึ้นไปชั้นบนด้วยความโมโห ไม่นาน เสียงเอะอะดังขึ้นจากชั้นบน ไม่รุนแรงมากนัก แม้แต่ไม่ได้ยินเสียงของทั้งคู่ แต่ต้นจนจบมีเพียงผู้นำตระกูลเฟิงเท่านั้นที่ตะคอกเสียงดัง ราวกับว่าเขากำลังทะเลาะอยู่กับตัวเอง
บนโต๊ะอาหาร เฟิงจิ่งนั่งพิงกับเก้าอี้ก่อนบิดขี้เกียจ เธอมีทีท่าเหยียดหยาม ไม่รู้ว่าเธอกล่าวถึงใครกันแน่
“งานแต่งงั้นเหรอ? บัดซบ”