ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 162
บทที่ 162 เขาข่มขู่เธอหรือเปล่า
“การจำเธอได้ในชั่วพริบตา คือหน้าที่ของคนเป็นสามี”
เฟิงเฉินจัดเส้นผมสีบลอนด์ทองของเธอด้วยท่าทีที่อ่อนโยน “ไปกันเถอะ ออกจากบ้านมาหลายวันแล้ว ควรจะกลับบ้านได้แล้ว”
“ เธอจะไม่ไปกับคุณ”
ทันใดนั้นเสียงของชายหนุ่มก็ดังขึ้นจากด้านหลังของเฟิงเฉิน เสียงที่ฟังดูไร้อารมณ์ ราวกับว่าเรื่องที่กำลังพูดอยู่นั้นเป็นเรื่องธรรมดาเรื่องหนึ่ง
เฟิงเฉินหันกลับก็เห็นว่าซือโม่ยังคงยืนอยู่ที่เดิมโดยไม่ได้ขยับฝีเท้าแม้แต่ก้าวเดียว เพียงแต่ตาทั้งสองข้างของเขาจับจ้องไปที่ลั่วมั่น “มั่นมั่น ฉันพูดไม่ผิดใช่ไหม”
ท่าทางของลั่วมั่นนิ่งเฉย ความสุขเมื่อครู่นี้ที่ได้เจอกับเฟิงเฉินกลับหายไปในชั่วพริบตา
“มั่นมั่น ไม่ต้องสนใจเขา” เฟิงเฉินจับมือของเธอพลางเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา “ถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่ใช่เมืองเจียง แต่ผมก็ไม่คิดว่าจะมีใครสามารถกักขังภรรยาของคนอื่นได้ตามใจชอบ”
เมื่อเทียบกับความโกรธของเฟิงเฉินแล้ว ซือโม่นั้นสงบนิ่งกว่ามาก ความสงบนิ่งนี้มาจากความคิดที่พิจารณามาอย่างถี่ถ้วนแล้วว่าในเวลานี้ ลั่วมั่นจะไม่มีทางกลับไปกับเขา
“เฉิน” น้ำเสียงของลั่วมั่นนั้นหนักแน่น “ตอนนี้ฉันกลับไปกับนายไม่ได้ และมันไม่ใช่ปัญหาของพี่ซือโม่”
ราวกับว่าเฟิงเฉินไม่กล้าที่จะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน เขารีบหันกลับไปมองลั่วมั่นด้วยสายตาประหลาดใจ “เธอพูดอะไรออกมา”
“ตอนนี้ฉัน…กลับไปกับนายไม่ได้” ลั่วมั่นขมวดคิ้วพลางดึงมือออกจากมือของเฟิงเฉินทีละนิด
“ทำไมล่ะ” เฟิงรีบถามกลับอย่างกระชับ แต่มันก็สายไปอยู่ดี “เธอจะอยู่กับเขาที่นี่งั้นเหรอ”
ลั่วมั่นสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เธอพยายามใช้น้ำเสียงที่ฟังดูจริงใจมากที่สุด “เฉิน มันไม่ใช่อย่างที่นายคิด ฉันยังมีเรื่องที่ต้องจัดการที่นี่ ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยแล้วฉันจะกลับไป นายเชื่อฉันนะ”
“เขาข่มขู่เธอหรือเปล่า” เฟิงเฉินพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่ดูจะมีน้ำโห “ไม่ว่าเธอจะเผชิญกับอะไรอยู่ก็ตาม แค่ไปกับฉัน เชื่อมั่นในฉันว่าฉันช่วยคุณแก้ไขมันทั้งหมดได้ เธอไม่จำเป็นต้องเสียเวลาอยู่ที่นี่”
เขาจะเต็มใจปล่อยให้ลั่วมั่นอยู่กับซือโม่ได้อย่างไร ผู้ชายก็เหมือนๆกันหมด ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่ได้เจอกัน เขาไม่มั่นใจว่าซือโม่คิดยังไงกับลั่วมั่น แต่ตอนนี้ที่ได้เจอกันแล้ว แค่เพียงแวบแรกเขาก็มั่นใจแล้วว่า สายตาที่ผู้ชายมองผู้หญิงนั้น ล้วนมีแต่เรื่องเปลือยกาย
“นายอย่าถามอีกเลย แล้วฉันจะรีบกลับไป”
“ฉันไม่ยอม” เฟิงเฉินลดหน้าก้มต่ำ เขาคว้ามือเธอไว้อีกครั้ง พลางคิดจะพาเธอไปโดยไม่สนในสิ่งที่เธอต้องการ
“เฉิน…”
ลั่วมั่นถูกเขาลากให้เดินตามไป เธอคิดจะดิ้นรนแต่ก็ไม่สามารถต้านทานแรงของเขาได้
“คุณเฟิง…”
ร่างในชุดสีขาวยืนขวางหน้าเฟิงเฉิน ท่าทางของซือโม่ดูจะไม่ค่อยพอใจนัก สายตาจับจ้องไปที่มือของเฟิงเฉินที่กำมือลั่วมั่นไว้แน่น พลางเอ่ยเสียงเข้ม
“คุณดูไม่ออกเหรอ ว่ามั่นมั่นไม่เต็มใจจะไปกับคุณ”
สายตาที่ประสานของทั้งสองพุ่งเข้าหากันราวกับประกายไฟ ร่างในชุดสีดำและชุดสีขาว คนหนึ่งที่เยือกเย็น และอีกคนที่อบอุ่น แต่เขม่าจากไฟสงครามกำลังจะจุดขึ้นในเวลานี้ เพื่อผู้หญิงคนเดียว
“ผู้หญิงของผมจะไปกับผม แล้วมันมีปัญหาอะไรเหรอครับ ถึงเธอจะไม่เต็มใจแต่มันก็เป็นเรื่องในครอบครัวผม คุณซือดูจะใส่ใจมากเกินไปแล้วล่ะครับ” น้ำเสียงของเหิงเฉินฟังดูบึ้งตึงกว่าก่อนหน้านี้
“เรื่องในครอบครัว?” ซือโม่พูดออกมาเบาๆ สายตาเผยให้เห็นถึงการเย้ยหยัน “มั่นมั่นรู้จักกับผมมาตั้งแต่อายุสิบสองขบ ความสัมพันธ์สิบกว่าปี คุณคิดว่ามันคู่ควรกับการแต่งงานจอมปลอมตลอดสามปีอย่างนั้นเหรอ”
เฟิงเฉินนิ่งอึ้ง
เขารู้เรื่องความสัมพันธ์ที่สนิทสนมของซือโม่และลั่วมั่นมากนานแล้ว อีกทั้งยังรู้ถึงความรู้สึกที่ซือโม่มีต่อลั่วมั่นอีกด้วย แต่การแต่งงานที่ล้มเหลวในช่วงสามปีนี้ ที่ออกมาจากปากของซือโม่นั้น กลับทำให้เขารู้สึกสับสน
ใช่ เขาเสียช่วงเวลาดีๆตลอดสามปี ไปกับการทำเรื่องโง่ๆมากเกินไปแล้ว
จนนำไปสู่ความเฉยเมยในที่สุด