ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 166
บทที่ 166 จากนี้และต่อไป เธอจะต้องเป็นของฉัน
เป็นเวลามืดค่ำ
ร่างสูงยืนอยู่ที่หน้าทางเข้าห้องนอน สายตาที่อบอุ่นมองดูใบหน้าที่กำลังหลับใหลอยู่บนเตียง ราวกับกำลังมองดูสมบัติที่ล้ำค่าอย่างไรอย่างนั้น
“คุณหนูลั่วหลับไปหลังจากกินยาครับ ยาของจอยซ์ได้ผลดีเลยทีเดียว คาดว่าคืนนี้คงจะไม่มีปัญหาอะไรนะครับ”
จอห์นยืนอยู่ข้างๆและรายงานสถานการณ์ในตอนนี้ของลั่วมั่นด้วยท่าทีที่นอบน้อม
ซือโม่กดเสียงต่ำ
“อืม ช่วงสองวันนี้ก็ใช้ยานี้ไปก่อน ห้ามบอกอะไรเกี่ยวกับยานี้กับเธอเด็ดขาด”
“ครับ”
จอร์นพยักหน้ารับ “ยังมีอีกเรื่องหนึ่งครับ จอยซ์บอกว่า ยาตัวนี้มีผลข้างเคียงบางอย่างต่อตับ คุณชายคิดว่า จะให้เธอใช้ยานี้ต่อไปทั้งทีอาการของเธอยังไม่คงที่เหรอครับ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ซือโม่ก็ย่นคิ้วเล็กน้อย ยังไม่มีคำว่า ‘ไม่’ ออกจากปาก จู่ๆภายในห้องก็มีเสียงเรียกละเมอเบาๆดังขึ้น “เฉิน… ”
สีหน้าของเขาดูอึมครึม พลางพูดขึ้นอย่างมั่นใจ
“ใช้”
หากของสิ่งหนึ่งไม่ใช่ของตนเอง แม้ว่ามันจะสวยงามไร้ที่ติ แต่มันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา ถ้าเขาต้องการมัน ต่อให้แตกสลาย ก็ขอให้มันแตกในอ้อมแขนของเขา
“ครับ”
หลังจากที่จอร์นออกไป ซือโม่ที่ยืนอยู่หน้าทางเขาอยู่นาน สายตาจับจ้องไปที่หญิงสาวที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียง โครงหน้าที่แสงไฟตกกระทบดูนวลสดใส เธอสวยกว่าตอนเกิดเมื่อกลับจีนเมื่อห้าปีก่อน เธอมีเสน่ห์ของผู้หญิงในแบบที่เป็นผู้ใหญ่อยู่แล้ว
เสน่ห์เช่นนี้ดึงดูดทุกคนไม่ว่าจะเป็นชายใดก็ตาม
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเนิ่นนานเท่าไหร่ ซือโม่ที่ยืนอยู่ที่ทางเข้าห้องนอนก็กลับไปที่ห้องทำงาน
ภายใต้แสงไฟสลัวเขาหยิบภาพถ่ายจากลิ้นชักออกมา ภาพถ่ายสีเหลืองติดอยู่ในกรอบไม้เดิม เป็นภาพเงาของผู้หญิง อายุราวๆสิบหกถีงสิบเจ็ดปี ชุดเดรสยาวสีฟ้าเรียบๆ เธอยืนหันหลังอยู่ใต้น้ำตกพลางยิ้มสดใส
มั่นมั่น ฉันสูญเสียเธอไปแล้วครั้งหนึ่งและฉันจะไม่ทำผิดพลาดแบบเดิมอีกเป็นครั้งที่สอง
ไม่ว่าใครจะขัดขวางยังไง จากนี้และต่อไป เธอต้องเป็นของฉัน
……
“ประธานเฟิงครับ ได้ข้อมูลแล้วมาว่าเขาคนนั้นชื่อว่าจอยซ์ เป็นนักจิตแพทย์ที่มีชื่อเสียง”
ณ ห้องนั่งเล่นของโรงแรม หลี่สู้รีบกลับมาพร้อมกับสำเนาข้อมูลที่เพิ่งพิมพ์ออกมา เพราะเฟิงเฉินกำชับเขาไว้อย่างดี เขาจึงไม่กล้าทำมันเลอะเทอะ ครั้งนี้ฉันมาที่สหรัฐอเมริกาโดยไม่ได้บอกคนในบริษัท ไม่ว่าเฟิงเฉินจะไปที่ไหนเขาก็ยังต้องพยายามหาข้อแก้ตัว หากไม่รีบทำงานให้เสร็จและกลับไป จะต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแน่ๆ
“นักจิตแพทย์?” เฟิงเฉินขมวดคิ้วขึ้นเป็นปมแน่น จ้องมองชายชาวจีนวัยกลางคนกำลังสื่อภาษาอังกฤษ ดูเหมือนว่าเขาจะเห็นเบาะแสบางอย่างจากชายคนนี้
“นอกจากนี้ จู่ๆหมอคนนี้เขาก็ปิดคลินิกของตัวเองเมื่อสองวันที่ผ่านมา มีการโยกย้ายคนไข้ในมือของเขา ได้ข่าวมาจากพยาบาลในคลินิกว่าเขาไม่มีแผนจะทำธุรกิจนี้ต่อ และอยากจะย้ายไปอยู่ที่ที่เงียบสงบ”
อะไรคือเหตุผลที่ทำให้นักจิตวิทยาที่มากประสบการณ์ในด้านนี้ ต้องละทิ้งอนาคตและสถานะทางสังคมที่สดใสเพื่อเตรียมจะไปอยู่อย่างสันโดษ เห็นทีจะไม่ใช่เพราะไม่ชอบเมืองที่พลุกพล่านหรอกนะ เพราะเขาอายุเพียงแค่สี่สิบปีเท่านั้น
“คนไข้ในมืองั้นเหรอ” จู่ๆเฟิงเฉินก็คิดอะไรได้บางอย่าง “เจออะไรเกี่ยวกับคนไข้ที่เขาดูแลบ้างไหม”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น หลี่สู้ก็พยักหน้ารับราวกับเตรียมการไว้นานแล้ว เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เขาก็เกิดลังเลขึ้นมา “เมื่อตรวจรายชื่อของคนไข้ พบว่าเมื่อไม่นานมานี้จอยซ์ได้โอนรายชื่อผู้ป่วยทั้งหมด แต่เหลือไว้เพียงคนเดียว”
เฟิงเฉินนิ่งไปครู่หนึ่งและเขาเดาไม่ผิด
ภายในห้องเวลานี้ น้ำเสียงที่จริงจังของหลี่สู้เปล่งคำสั้นๆสองพยางค์
“ประธานลั่ว”