ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 167
บทที่ 167 ไม่ ปล่อยฉันนะ
วันต่อมา ท้องฟ้าปลอดโปร่ง
เมื่อลั่วมั่นออกมาจากห้องนอน เธอก็พบว่าคนรับใช้ที่ทำงานอยู่ที่ชั้นบนและชั้นล่างกำลังถือกระเป๋าเดินทาง เธอเอ่ยถามขึ้น “พวกเธอทำอะไรกันอยู่เหรอ”
“คุณลั่ว” คนรับใช้ก้มศีรษะด้วยความเคารพ “คุณผู้ชายกำชับว่าให้เก็บสัมภาระของคุณสำหรับไปข้างนอกค่ะ”
“ไปข้างนอก?ไปไหน”
“รีสอร์ทริมทะเล”
เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากทางด้านหลัง ลั่วมั่นหันไปตามเสียงก็พบว่าซือโม่ยืนอยู่ที่หน้าทางเข้าห้องหนังสือ และกำลังเดินตรงมาที่เธอพลางโบกมือให้คนรับใช้อย่างเรียบง่าย
“แต่ฉันยังต้องรับการรักษานะ” ลั่วมั่นเลิกคิ้วขึ้น
“มันไม่ทำให้การรักษาล่าช้าหรอก จอยซ์บอกว่า สภาวะที่มีความสุขจะช่วยกำจัดฝันร้ายได้ วิวที่นั่นสวยมากๆ ฤดูนี้เหมาะมากที่จะไปเที่ยวทะเลนะ พี่ว่าเธอต้องชอบที่นั่นแน่นอน”
ลั่วมั่นมองเขาอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เธอพูดพึมพำ “จริงเหรอ ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าพี่พูดอะไรก็เป็นอย่างนั้นไปซะหมด เหมือนพี่จะรู้มากกว่าจอยซ์ซะอีก”
ซือโม่หัวเราะ เขายอมรับอย่างจริงใจ “ใช่แล้ว พี่ก็แค่เอาเรื่องที่เธอป่วยมาเป็นข้ออ้าง เตรียมลักพาตัวไปเที่ยวรอบโลก แล้วเราจะทำอะไรพี่ได้ สาวน้อย”
ที่มุมปากของลั่วมั่นกระตุก “พี่ซือโม่หยุดแกล้งฉันได้แล้ว พี่ดูไม่รีบร้อนอะไรเลย ฉันน่ะ อยากจะรีบๆรักษาอาการป่วยนี้จริงๆ ฉันคงปิดเรื่องนี้กับพ่อตาแม่ยายไม่ได้นานนักหรอก”
“งั้นก็ให้ความร่วมมือในการรักษาสิ”
ซือโม่มองไปที่เธออย่างจริงจัง “พี่ก็หวังให้เธอรักษาจนหายเร็วๆเหมือนกัน”
หลังจากครุ่นคิดสักพัก ลั่วมั่นก็พยักหน้า “โอเค ฉันจะไปชายหาดกับพี่ แต่ฉันต้องบอกเฉินก่อน กลัวว่าเขามาแล้วจะไม่เจอฉันน่ะ”
เมื่อได้ยินคำว่า ‘เฉิน’นัยน์ตาของซือโม่ก็เปลี่ยนไปในทันที แต่เขายังคงระงับอารมณ์และตอบรับว่า ‘อืม’โดยไม่พูดอะไรออกมา
เมื่อมาถึงหาดสีมรกตก็เป็นเวลายามเย็นแล้ว ดวงอาทิตย์ที่กำลังตกทำให้ชายหาดทั้งหาดเป็นสีแดง พร่างพราว
“สวยจัง!”
ลั่วมั่นจับที่มุมกระโปรงพลางเหยียบคลื่นและวิ่งไปตลอดทาง
ซือโม่เดินตามอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน
“เธอช้าๆหน่อยสิ”
“พี่ซือโม่ ฉันจะไปดูที่ฝั่งนั้นก่อนนะ พี่ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก”
ที่ด้านฝั่นหินผา ลั่วมั่นทิ้งให้เสียงของซือโม่อยู่ที่ด้านหลัง เธอมองไปที่ปลายทะเลย ค่อยๆก้าวฝีเท้าลงไปอย่างช้าๆ
มันยากที่จะฝืนยิ้มออกมานี่หน่า!
แม้จะรู้ว่าอยู่ที่นี่ก็หมดหนทาง แต่การได้อยู่ห่างจากเฟิงเฉินเพียงไม่กี่วัน ทำไมในใจถึงได้รู้สึกอึดอัดมากมายขนาดนี้กันนะ
เงาดำสองเงาบนชายหาดค่อยๆเคลื่อนเข้ามาใกล้ ดวงอาทิตย์ตกดึงเงายาวพาดเข้ามา ก่อนที่ลั่วมั่นจะพบว่าถูกปิดปากและจมูกจากใครบางคน มีกลิ่นโชยเข้ามาอย่างรุนแรง การดื้นรนค่อยๆผ่อนแรง ในที่สุดก็ทรุดตัวลงอย่างนุ่มนวลในอ้อมแขนของคนๆนั้น
“มั่นมั่น…”
“พอได้แล้ว รีบออกมาเร็ว กลับไปทานอาหารกัน”
“มั่นมั่น…
เสียงตะโกนของผู้ชายดังก้องบนชายหาด จากอ่อนโยนในตอนแรกไปสู่ความสงสัยในภายหลัง เมื่อมองไปที่รอยเท้าที่ยุ่งเหยิงบนชายหาดในตอนท้ายเสียงของเขาก็กลืนหายไป ตามทิศทางของรอยเท้า จากระยะไกลสามารถเห็นเรือสำราญลำหนึ่งลอยอยู่ในทะเล
เขากำเสื้อคลุมไว้ในมือจากนั้นก็ทิ้งมันลงบนชายหาด
นอกจากหน้าจอโทรศัพท์ที่ส่องแสงบนชายหาดสลัว น้ำเสียงของซือโม่เองก็ฟังดูอึมครึมและน่ากลัวอยู่ไม่น้อย
“จอห์น ทำตามแผนสองที่วางไว้ก่อนหน้านี้ ตามปกติ”
เมื่อตกกลางคืนทะเลทั้งหมดก็กลับสู่ความสงบ สะท้อนแสงดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืน
ลั่วมั่นที่อยู่ที่ปลายเตียงกำลังหลับตาแน่น เธอโบกแขนไปมาราวกับกำลังไล่อะไรบางอย่าง เสียงของเธอแหบพร่า
“ไม่ ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉัน อย่าแตะต้องตัวฉัน..