ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 185
บทที่ 185 ขอเพียงแค่คุณไม่หึงเท่านั้นก็พอ
“คุณลู่ว่ามาเลยค่ะ”
“โฆษกของHuayao ebook ผมมีตัวเลือกในใจ ไม่ทราบว่าพวกคุณจะตอบรับได้หรือไม่”
“ไม่ทราบว่าเป็นใครคะ?”
“อันที่จริง คุณลั่วเองก็รู้จักครับ” ลู่หมิงจับจ้องเธอด้วยสีหน้ากึ่งยิ้มไม่ยิ้ม “หลัวแมนจี”
…..
“เพราะงั้นคุณตกลงแล้วหรือครับ?”
ภายในห้องทำงาน เฟิงเฉินกำลังอ่านเอกสารสัญญา ด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ก็ใช่ สัญญาก็เซ็นแล้ว คุณนายเฟิงใจกว้างเสียจริง”
“ร้อยละห้าเลยนะ! ก็เพื่อช่วยคุณประหยัดเงินยังไงล่ะ”
ลั่วมั่นวิเคราะห์ “ลู่หมิงให้คำมั่นเอาไว้แล้ว บอกว่าก่อนที่Huayao ebookจะเปิดตัว หลัวแมนจีจะเธอจะดังกว่านี้ ประวัติด่างก่อนหน้านี้จะถูกลบล้างทั้งหมด จะไม่กระทบต่อการตลาดของเราแน่นอน ดูท่า เขาลงแรงลงใจต่อหลัวแมนจีดีนะ”
เฟิงเฉินปิดเอกสารวางไว้อีกทาง “ถ้างั้นก็เอาตามนี้แล้วกัน ผมไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ขอเพียงแค่ถึงเวลาคุณนายเฟิงไม่หึงก็พอแล้ว”
“ไม่มีทางอยู่แล้ว” ลั่วมั่นเลิกคิ้วขึ้น เผยสีหน้าเจ้าเล่ห์ “ฉันตัดสินใจแล้ว จะถ่ายภาพโปรโมทในสิ้นเดือนนี้”
เมื่อได้ยินประโยค เฟิงเฉินหันมองเธออย่างช้าๆ “วางแผนได้ไม่เลวเลยนี่ สิ้นเดือนนี้ผมจะไปดูงานที่อเมริกา ตอนแรกว่าจะให้เธอไปด้วย คุณวางแผนกีดกันไม่ให้ผมได้เจอหน้าหลัวแมนจีสินะ ไม่กลัวว่าผมจะเจอใครที่ต่างประเทศหรือไง?”
“กล้าหรือ?”
ลั่วมั่นตะคอก “ไม่รู้หรือไง ว่าภรรยาของเฟิงเฉินเป็นคนขี้หึง พวกมือที่สามสี่ห้าที่ทำให้ฉันโกรธ ไม่มีคนไหนมีผลลัพธ์ที่ดีทั้งนั้น หลัวแมนจีเธอก็แค่โชคดีที่ได้เจอกับลู่หมิงเท่านั้น”
ทีท่าของเธอทำให้เฟิงเฉินหัวเราะอย่างขบขัน
“ไม่เลว หากว่าโหดกว่านี้หน่อยจะดูน่าเชื่อถือมากกว่านี้”
ลั่วมั่นเองก็ฝืนเอาไว้ไม่อยู่ หัวเราะออกมา พร้อมกับทิ้งตัวลงบนโซฟา “คุณไปอเมริกาครั้งนี้จะกลับไปเยี่ยมมหาลัยหน่อยไหม?”
“อืม ผมนัดเพื่อนเอาไว้ ทีแรกว่าจะพาคุณไปรู้จักพวกเขาสักหน่อย แต่คุณต้องยุ่งอยู่กับการถ่ายภาพโปรโมทนี่? ไม่มีเวลาว่างไปกับผมเลย”
“ได้คืบจะเอาศอก” ลั่วมั่นเหลือบมองเขาตาขวาง “เฮ้อ สมัยเรียนคุณคงเป็นที่นิยมของสาวๆ มากสินะ ไม่มีคนรักเก่าอยู่ที่นั่นเลยเหรอ?”
“ก็รอผมอยู่นี่ไง?” เฟิงเฉินแหงนหน้าขึ้นจากกองเอกสาร “หวังว่าจะให้ผมตอบยังไง?”
“บอกความจริงมา”
“ไม่มี” เฟิงเฉินพูดความจริง “ไม่มีจริงๆ ตอนนั้นเรียนหนักมาก ผมเรียนที่นั่นแค่ปีกว่า ผมเรียนหลักสูตรจนจบก่อนเวลาแล้วกลับมารับช่วงต่อบริษัททันทีเลย”
“ถ้างั้นแล้วผู้หญิงที่ชอบคุณล่ะ?”
“ถ้าเรื่องนี้ก็ต้องโทษผมแล้วล่ะก็ นางหญิงเฟิงคงต้องรับฉายานางอิจฉาแล้วล่ะ”
“เชอะ” ลั่วมั่นถลึงตาโตใส่เขา “ฉันหมายความว่าไม่มีคนที่ตื้อคุณ ไม่ยอมไปไหน คุณไปไหนก็ตามไปด้วยอย่างนั้นเหรอ?”
“เหมือนความรู้สึกที่ซือโม่มีต่อคุณใช่ไหม?” เฟิงเฉินเหลือบมองเธออย่างช้าๆ
“อย่าเปลี่ยนเรื่องสิ ฉันกับซือโม่เรารู้จักกันตั้งแต่เด็กแล้ว นั่นไม่นับ”
เฟิวเฉินไม่ตอบรับ เขาเบะปาก “เอาแต่ใจดีจังเลยนะ เก่งเสียจริง”
“ตกลงว่าคุณมีไหม?”
เฟิงเฉินรำคาญกับการเซ้าซี้ของเธอ จึงนึกออกอยู่คนหนึ่ง “เหมือนว่ามีอยู่คนหนึ่ง” เป็นเรื่องเมื่อหกเจ็ดปีมาแล้ว
“รู้จักกันได้ยังไง?”
“หอพักนักศึกษา”
“อยู่หอเดียวกันเหรอ”
“ใช่” เฟิงเฉินทำตาขวาง “อยู่ด้วยกันเจ็ดแปดคน เป็นกลุ่มเลย”
“แล้วทำไมเธอถึงชอบคุณล่ะ?”
“อันนี้เธอคงต้องไปถามเธอเอาเอง”
“ขอเบอร์ติดต่อหน่อย”
“มีที่ไหน เลิกขุดได้แล้ว ไม่มีจริงๆ ลืมไปแล้วด้วยว่าชื่ออะไร”
“คุณนึกดูดีๆ”
“เหมือนว่าจะชื่อวิเวียนมั้ง? หรือว่าน่าจะเป็นลิเลียนล่ะ? จำไม่ได้แล้วจริงๆ”
“ยังมีอีก…..”
“พอได้แล้ว” เฟิงเฉินมึนหัวตึบกับคำถามของเธอ เขาปิดเอกสารลุกขึ้นยืน “หิวไหม ไปหาอะไรทานกัน”