ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 207
บทที่ 207 บังเอิญจริงๆ ฉันก็ไม่เห็นด้วย
พ่อเฟิงนั้นไม่พอใจตนในฐานะภรรยามาโดยตลอด ในตอนนั้นเรื่องของลูกนอกสมรสก็ทำให้เขารู้สึกทุกข์ใจไม่น้อย แต่ว่าความทุกข์ใจนั้นหายไปจนสิ้นตั้งแต่ เธอได้หุ้นของบริษัทH.Y.ไปครึ่งหนึ่ง
ตวามสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาของเขาทั้งสองคน ตอนนี้มีเพียงลูกชายและลูกสาวเท่านั้นที่เป็นสะพานเชื่อม
อีกอย่างจิ่งจูก็เป็นคนที่เลี้ยงเฟิงเซิ่งลู่มาจนโต แม้ว่าพ่อเฟิงจะไม่พอใจแค่ไหน ก็เป็นแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆในชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ในใจเขาก็รู้สึกขอบคุณเธอไม่น้อย คำพูดเมื่อสักครู่นี้ก็เป็นเพียงคำพูดที่ออกมาจากความโมโหก็เท่านั้น
“อ่า คุณผู้ชายกับภรรยากลับมาแล้วค่ะ” สาวใช้เอ่ยถูกจังหว่ะ เป็นการทำลายบรรยากาศให้ห้องโถงที่อึมครึมพอดี
ในเวลานี้ ลั่วมั่นกับเฟิงเฉิงยืนอยู่ที่ด้านหน้าประตู พยายามที่จะปกปิดสีหน้าที่กระอักกระอ่วน แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินเรื่องเมื่อครู่
เมื่อลู่จิ่งจูกับพ่อเฟิงเห็นพวกเขาในขณะนั้นก็รีบกดทับสีหน้าแห่งความโกรธทันที
ในขณะเดียวกันก็เงยหน้าขึ้นมองพวกเขา พร้อมทั้งเฟิงเซิ่งเวินน๋อนและลูกของเธอ
เมื่อเห็นลั่วมั่น สายตาอาฆาตแค้นของเวินน๋อนก็เผยออกมา
เฟิงเฉิงจูงมือลั่วมั่นเข้ามาในห้องโถงอย่างอ่อนโยน
“พ่อครับ แม่ครับ เพื่อนของลั่นมั่นเพิ่งกลับมาจากทิเบต ก็เลยเอาถังเช่ามาฝากพวกท่านครับ”
สีหน้าของลู่จิ่งจูอ่อนโยนขึ้น
“ขอบใจมาก”
พ่อเฟิงเฮิงครู่หนึ่งอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว สายตามองไปยังเฟิงเซิ่ง “เอาคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปก่อนดีไหม ตอนนี้เหมือนอะไรก็ไม่รู้?”
เมื่อมีลั่วมั่นอยู่ที่นี่ด้วย เวินน๋อนก็รู้สึกรำคาญใจและรู้สึกเสียหน้าสีหน้าซีดขาว เธอไม่ได้คัดค้านอะไรลุกขึ้นและจูงมือลูกออกไป
“เวินน๋อน” เฟิงเซิ่งรีบตามออกไป
“ไอ้สารเลว” พ่อเฟิงโกรธจนหัวไหล่สั่น ยกมือขึ้นมาระบายพลางฟาดลงไปที่โซฟา คร่ำครวญว่า “ผู้หญิงคนนี้เป็นกาลกิณีของบ้านเราจริงๆ”
ลู่จิ่งจูยิ้มอย่างเย็นชา
“กาลกิณีก็เป็นคนที่ลูกชายของคุณถูกใจ ถ้าเขาถูกใจแล้ว ก็ไม่มีทางไหนที่จะห้ามได้”
“ใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่ผู้หญิงที่จิตใจโหดเหี้ยมคนนี้ ผมไม่เห็นด้วย นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อายัดทรัพย์สินทั้งหมดของเฟิงเซิ่ง จนกว่าเขาจะกลับตัวกลับใจ”
หลังจากพูดจบ เขาก็ขึ้นไปบนตึกและขับตัวเองไว้ในห้องหนังสือ
“แม่คะ” ลั่วมั่นดึงสายตาตัวเองกลับออกมาจากห้องหนังสือ พลางมองไปที่ลู่จิ่งจู “แม่ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?อย่าโกรธเลยนะคะ”
“ไม่เป็นอะไร” ลู่จิ่งจูโบกมือ สีหน้าไม่มีความโกรธแม้แต่น้อย แต่กลับหัวเราะเยาะขึ้นมา “นานๆทีจะมีความเห็นตรงกับพ่อของเธอ เขาไม่ยอมให้ผู้หญิงคนนั้นเข้าบ้าน ฉันก็ไม่ยอมเหมือนกัน”
ลั่วมั่นไม่ได้ถามต่อว่าเพราะเหตุผลอะไร เธอรู้ดีว่าความขัดแย้งในตระกูลร่ำรวยก็เพราะพี่น้องแย่งสมบัติกัน ตอนที่รับเฟิงเซิ่งเข้าบ้าน ลู่จิ่งจูเพื่อที่จะปกป้องทรัพย์สมบัติของตระกูลก็ได้โอนอำนาจผู้ถือหุ้นไปแล้วครึ่งหนึ่ง ปัจจุบันนี้ยังเหลืออยู่ในมือของพ่อเฟิงอีกครึ่งหนึ่ง สุดท้ายแล้วผลลัพธ์ที่แย่ที่สุดสำหรับหล่อนก็คือลูกชายสองคนแบ่งกันคนละครึ่ง
แต่หากตอนนี้มีหลานโผล่ขึ้นมาอีกคน ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร
จากที่ลั่วมั่นรู้จักแม่สามีของเธอ เธอเชื่อว่าหล่อนจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด
ดังนั้นเวินน๋อนและลูกของเธอจะไม่ได้ก้าวเท้ามาอยู่บ้านหลังนี้อย่างเด็ดขาด
“น๋อนน๋อน คุณฟังผมก่อน”
ถนนหยีเหอ เฟิงเซิ่งเดินตามเงาที่อยู่ข้างหน้า “คุณจะวิ่งไปไหน ฟังผมพูดก่อนสิ”
“มีอะไรต้องพูดล่ะ?”น๋อนน๋อนสะบัดแขนของเขาออก พูดขึ้นด้วยความโมโหว่า “พ่อแม่ของคุณไม่ชอบฉัน คุณดูไม่ออกเลยเหรอ?ฉันอยู่ที่นั้นก็พลันแต่โดนดูถูก”
“ผมจะหาวิธีเอง” น้ำเสียงของเฟิงเซิ่งแสดงความไม่มั่นใจออกมาเล็กน้อย