ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 208
บทที่ 208ลูกเป็นอะไรเหรอ
“คุณมีวิธีอะไร?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเช่นนี้ น๋อนน๋อนแทบไม่อยากเปลืองน้ำลายพูดกับเขา โกรธจนตัวสั่นพลางคำรามว่า“คุณก็แค่อยากเห็นฉันขายหน้าต่อหน้าตระกูลเฟิงก็เท่านั้น จากนั้นก็ให้ฉันได้เห็นว่าสิ่งที่ฉันเลือกมันโง่เง่าสิ้นดี ใช่ไหม?”
“ผมหมายความแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”เฟิงเซิ่งขมวดคิ้ว ดึงรั้งเธออย่างไม่พอใจ “คุณไปกับผม สำหรับฝั่งพ่อผมผมมีวิธี”
“ปล่อยฉัน ปล่อยฉัน ”
ทั้งสองทะเลาะกันอยู่บนถนน ทำให้เป็นจุดสนใจของผู้คนในละแวกนั้น
ขณะที่ ทะเลาะกัน จู่ๆเฮ่าเฮ่าที่อยู่ข้างๆก็ร้องไห้ไม่หยุด
“เฮ่าเฮ่าเป็นอะไรไปลูก?”
“คุณไม่ต้องมายุ่ง”
เฟิงเซิ่งไม่สนใจคำพูดของน๋อนน๋อน เข้าไปลูบหัวของเฮ่าเฮ่า สีหน้าก็เปลี่ยนไป
“ลูกตัวร้อนขนาดนี้ทำไมวันนี้คุณยังพาออกมาอีก”
“ลูกของฉัน ฉันจะพาไปไหนก็ได้ คุณไม่ต้องมายุ่ง” น๋อนน๋อนจับแขนของลูกไม่ยอมปล่อยมือ เฮ่าเฮ่าถูกดึงไปทางโน้นทีทางนี้ที จนแทบจะล้มลง
“คุณเป็นบ้าไปแล้วเหรอ” เฟิงเฉินขี้เกียจที่จะต่อล้อต่อเถียงกับเธอ ผลักเธอแล้วอุ้มเด็กพลางเรียกรถแทกซี่ไปโรงพยาบาล
ตอนกลางวันเวลารับประทานอาหาร เฟิงจิ่งเพิ่งกลับมาจากข้างนอก กวาดสายตามองไปที่โต๊ะกินข้าว
“เฟิงเซิ่งล่ะ?ไม่กลับมากินข้าวเหรอ?”
เดิมทีหลังจากที่เฟิงเซิ่งออกจากบ้านไป ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยชื่อเขา แต่เฟิงจิ่งไม่รู้เรื่องนี้ จึงเท่ากับกำลังเหยียบระเบิดอยู่
พ่อเฟิงวางตะเกียบลงอย่างแรง ใบหน้าดำเขียว
ลู่จิ่งจูเหลือบมองครู่หนึ่ง
“เขามีธุระ กินข้าวเถอะ”
เฟิงจิ่งจูขมวดคิ้ว ไม่ค่อยพอใจนัก “มีเรื่องใหญ่อะไรนักหนาเหรอ ตั้งแต่เล็กจนโตเรื่องที่ใหญ่ที่สุดสำหรับเขาก็คือกินข้าวเป็นเพื่อนพ่อของไม่ใช่เหรอ?ตอนนี้ยังไง ปีกกล้าขาแข็งแล้ว?ไปกินข้างนอกแล้ว?”
“ไม่พูดก็ไม่มีใครหาว่าลูกเป็นไบ้หรอกนะ”จู่ๆ พ่อเฟิงก็ตบโต๊ะแล้วลุกขึ้น ทำเสียงเฮิงต่อหน้าเฟิงจิ่งจู
บรรยากาศภายในบ้านเงียบสนิท
ทุกคนต่างตกใจ
ตั้งแต่ลั่วมั่นแต่งงานเข้ามาอยู่ในตระกูลเฟิง ก็ไม่เคยเห็นพ่อเฟิงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ นี่เพิ่งผ่านไปครึ่งวันเอง ในที่สุดเธอก็ได้เห็น เฟิงเฉินกุมมือเธอที่อยู่ใต้โต๊ะ พลางแสดงสีหน้าปลอบใจเธอ ทำให้เธอค่อยๆสงบลง
เมื่อเห็นลูกสาวของตนถูกตำหนิไม่หยุด ลู่จิ่งจูก็เริ่มไม่พอใจ วางตะเกียบลงเสียงดัง
“เฟิงเฉิงไปก่อเรื่องข้างนอกคบหากับผู้หญิงที่ออกนอกลู่นอกทาง แล้วทำไมจะต้องมาอารมณ์เสียใส่เสี่ยวจิ่งด้วยล่ะ?”
“ก็เป็นเพราะคุณนั้นแหระ ถ้าคุณรีบหาผู้หญิงดีๆให้แต่งงานกับเขา เขาก็คงไม่ทำเรื่องเลวๆแบบนี้หรอก?”
คำพูดครั้งแรกอาจจะมองได้ว่าพูดเพราะอารมณ์โกรธ แต่หากพูดเป็นครั้งที่สองก็คงต้องมองว่าเป็นความจริงแล้ว
เมื่อเช้าตอนที่ลั่วมั่นกับเฟิงเฉินมาถึงก็ได้ยินประโยคนี้แล้วครั้งหนึ่ง
สีหน้าของลู่จิ่งจูเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะลูกสาวและลูกสะใภ้ก็อยู่ที่นี่ หล่อนทำเพียงเก็บความรู้สึกไว้
“พ่อค่ะ พ่อพูดเรื่องอะไรคะ?”น้ำเสียงของเฟิงจิ่งเย็นชาเล็กน้อย ไร้ซึ่งความเคารพ
“ฉันพอจะเดาออกแล้วล่ะ ลูกชายสุดที่รักของพ่อเฟิงเซิ่งไปคว้าผู้หญิงสุ่มสี่สุ่มห้าใช่ไหมล่ะ?แล้วพ่อจะมาโทษแม่ของฉันทำไม?แม่ของฉันช่วยเลี้ยงลูกชายสุดที่รักของพ่อแม้จะไม่มีความดีความชอบแต่ก็เลี้ยงมาด้วยความเหน็ดเหนื่อย
อีกอย่าง การไปคว้าผู้หญิงสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้เรียนมาจากแม่ของฉันหรอก เพราะ มังกรให้กำเนินมังกร หงส์ให้กำเนินหงส์ เขาเรียนรู้จากใครพ่อน่าจะรู้อยู่แก่ใจนะ”
คำพูดของเฟิงจิ่งอาบไว้ด้วยยาพิษ เมื่อพูดออกไปทุกคนต่างนิ่งเงียบ ทุกคนแทบไม่กล้าที่จะหายใจ
พ่อเฟิงโกรธจนหน้าเขียว ตัวสั่นพลางชี้ไปที่เธอ “เธอต้องการอะไรของเธอ?คำพูดเหล่านี้มันสมควรพูดเหรอ?”
“แล้วคำพูดที่คุณพูดเมื่อกี้มันสมควรพูดเหรอ?”
เฟิงจิ่งไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย สีหน้าโกรธจัดจริงจัง แม้แต่ลั่วมั่นที่ไม่ค่อยลงรอยกับเธอก็อดที่จะบอกให้เธอหยุด
“ลูก……”
“พอได้แล้ว” ลู่จิ่งจูพูดแทรกเพื่อยุติความขัดแย้งของพวกเขาทั้งสอง พลางมองไปที่เฟิงจิ่ง “ขอโทษพ่อของลูกซ่ะ”