ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 222
บทที่ 222 อาสาสมัครที่จับคู่เข้ากันได้
หลังจากที่เฟิงเฉินรู้ว่าเฮ่าเฮ่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว ก็แทบจะเหมือนไม่ใส่ใจ อย่างน้อยที่สุดลั่วมั่นไม่รู้สึกถึงปฏิกิริยาอะไรของเขา ยังคงพาเธอไปทำงานและเลิกงานพร้อมกัน นอกจากเธอจะโดนกวนเส้าหยู้และเล่อสวี้ลากออกไปเป็นก้างขวางคอในบางครั้งที่เหลือก็ตัวติดกันตลอดเวลา
แค่กลัวเธอจะไม่มีอะไรทำและไปโรงพยาบาลหาเรื่องให้ตัวเองอึดอัด
จริงๆ แล้วเขาไม่จำเป็นต้องกังวลขนาดนี้ หลังจากครั้งแรกที่ไปเยี่ยมเฮ่าเฮ่าและถูกเวินน๋อนเหน็บแนม ลั่วมั่นก็หยุดความคิดที่จะไปเยี่ยมเด็กน้อยที่โรงพยาบาลอีก ในเมื่อไม่มีใครเป็นแม่พระ คุณด่าฉันมาครั้งหนึ่งฉันยังใส่ใจอีก นั่นเรียกโง่ไม่ใช่หรือไง
“เบามือหน่อย เธอเพิ่งทำครั้งแรก”
ลั่วมั่นนอนอยู่บนเก้าอี้นวดในสถาบันเสริมความงาม เตือนหมอนวดที่นวดให้เล่อสวี้อยู่ข้างๆ
วันเสาร์ทั้งทียากที่ทั้งสองคนจะหลบออกมาเสพเวลาของเพื่อนสนิท คนหนึ่งหลบกวนเส้าหยู้ อีกคนหลบเฟิงเฉินออกมา
“คุณกับคุณชายกวนเป็นยังไงบ้าง? ฉันเห็นว่าช่วงโอกาสที่พวกคุณสองจะเจอกันน้อยมาก”
ครึ่งเดือนก่อน บริษัทHuayao eBookชนะการประมูลราคาของรัฐบาล ผู้รับผิดชอบฝ่ายขายของฝั่งนี้ก็คือเล่อสวี้ และผู้รับผิดชอบของฝั่งนั้นก็คือกวนเส้าหยู้พอดิบพอดี ครั้งนี้หนียังไงก็หนีไม่พ้น
“เจอกันเพราะงาน ความสามารถด้านการทำงานอย่างเขา ไม่รู้ทำงานในแผนกนั่นได้ยังไง” ตอนที่เล่อสวี้พูดถึงกวนเส้าหยู้ สีหน้าไร้ความรู้สึกแม้แต่นิด
“พึ่งปู่เขาไง” ลั่วมั่นพูดต่อ น้ำเสียงชื่นชม “ปู่เขาเป็นบิดาแห่งประเทศ เป็นนายพลที่มีชื่อเสียงไปทั่ว”
“โอ่ว” เล่อสวี้ส่งเสียงตอบกลับมาอย่างนิ่งเฉยหนึ่งคำ “งั้นมีคนรุ่นหลังอย่างเขา ช่างโชคร้ายของตระกูลจริงๆ”
ลั่วมั่นหัวเราะออกมาเบาๆ “เห็นท่าทางอย่างนี้ของเธอ ฉันก็สบายใจแล้ว กลัวว่าคุณชายกวนจะโดนทรมานไม่น้อย”
“ทรมาน?” เล่อสวี้ไม่เห็นด้วย “ตัวเขาทำผิดเอง”
ตอนบ่ายกลับถึงวิลล่าจิ่นซิ่วหลังจากเสริมความงามเสร็จ เพิ่งจะลงจากรถ ลั่วมั่นเห็นเงาร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้าสวน ดูตกอับเล็กน้อย หลังค่อม ไม่สูงตระหง่านเหมือนก่อนหน้า
“เฟิงเซิ่ง?”
ลั่วมั่นปิดประตูรถ มองผู้ชายที่ทรุดโทรมที่อยู่ตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ
ดวงตาทั้งสองเต็มไปด้วยเส้นเลือดสีแดง เหมือนกับไม่ได้นอนมาหลายวัน โดยรวมแล้วทั้งคนดูแย่มาก ผมจอนที่ขมับยังรำไรไปด้วยสีหิมะ
ไม่เจอกันครึ่งเดือน คนทั้งคนดูแก่และผอมแห้งจนเป็นอย่างนี้ ลั่วมั่นไม่อยากจะเชื่อ
“มั่นมั่น ถ้าไม่ใช่เพราะไม่รู้จะทำยังไง ฉันจะไม่มาขอร้องให้คุณช่วย”
“คุณนั่งก่อน ดื่มชา ค่อยๆ พูด เฮ่าเฮ่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาอีกหรือเปล่า?”
ลั่วมั่นยื่นแก้วชาไป และเชิญให้เฟิงเซิ่งนั่งลงบนโซฟา
ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องของเฮ่าเฮ่า คนเย่อหยิ่งอย่างเฟิงเซิ่งไม่มีทางมาหาเธอ
“เพราะทางโรงพยาบาลยังหาคู่ที่เหมาะสมกันไม่ได้หรือไม่? เรื่องนี้รีบร้อนไม่ได้”
เฟิงเซิ่งอยากจะพูดแต่ก็เงียบไปอีกครั้ง
“โรงพยาบาลฝั่งนั้น ฝั่งนั่น….”
เขาหน้าซีดขาว ดูเหมือนกับคิดแล้วคิดอีกหลายครั้งจึงจะพูดประโยคหนึ่งออกมา “โรงพยาบาลทางนั่นบอกว่า หาอาสาสมัครที่จับคู่เข้ากันได้แล้วจากห้องเก็บไขกระดูก”
“จริงไหม?” ลั่วมั่นลุกขึ้นยืนทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความยินดีอย่างไม่เสแสร้ง “งั้นก็ช่วยเฮ่าเฮ่าได้แล้วสิ”
แต่ใบหน้าของเฟิงเซิ่งกลับเต็มด้วยรอยยิ้มลำบากใจ
“เป็นอะไรไป?”
“มั่นมั่น ก่อนหน้านี้คุณเคยเป็นอาสาสมัครห้องเก็บไขกระดูกใช่ไหม? เคยทำบันทึกการจับคู่ อาสาสมัครที่เซ็นชื่อสมัครใจทำตามข้อตกลง”
“อาสาสมัคร?” อยู่ๆก็พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมากะทันหัน ลั่วมั่นตกใจ แทบจะเป็นอย่างนั้น หลายปีก่อนตอนที่อยู่ที่อเมริกา งานบริการสังคมช่วงฤดูร้อน เธอและเพื่อนเลือกไปทำอาสาสมัครจับคู่ที่ห้องเก็บไขกระดูก
หรือว่า