ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 223
บทที่ 223 คุณต้องรีบฆ่ากันขนาดนี้เลย?
ในใจของลั่วมั่นอัดแน่น “คุณจะบอกว่า…”
บันทึกการจับคู่อาสาสมัครของเธอก่อนหน้านี้กับเฮ่าเฮ่าเข้าคู่กัน ดังนั้นห้องเก็บไขกระดูกจึงค้นแฟ้มของเธอออกมา
“ใช่” เฟิงเซิ่งใบหน้าขมขื่น เสียงเบามาก “ผลการจับคู่ที่โรงพยาบาลให้ฉันเป็นแบบนี้ ตอนที่ฉันเห็นข้อมูลฉันก็…ไม่อยากจะเชื่อ”
โดยปกติแล้วข้อมูลไขกระดูกของอาสาสมัครจะถูกเก็บเป็นความลับ ทุกครั้งโรงพยาบาลจะรับหน้าที่ติดต่อเอง เพียงแค่หลายปีมีมานี้ลั่วมั่นเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์และช่องทางการติดต่อต่างๆ ช่องการติดต่อก่อนหน้านี้ของอเมริกาก็ไม่ใช้มานานแล้ว ดังนั้นโรงพยาบาลจึงไม่ได้ติดต่อเธอ เฟิงเซิ่งคงจะคิดวิธีมาไม่น้อยถึงจะได้ข้อมูลของอาสาสมัครที่ถูกจับคู่มาได้
แต่กลับไม่คิดว่าจะเป็นเธอ
“ฉันรู้ ฉันไม่มีมีเหตุผลที่จะช่วยเฮ่าเฮ่า แต่ฉันรับรองได้ ไม่ว่าคุณต้องการอะไร ฉันรับปากหมด ขอแค่คุณยินดีช่วยเขาให้ได้”
เสียงเฟิงเซิ่งเพิ่งจะจบ มีเสียงไม่ดังไม่เบาดังมาจากชั้นสอง “ในเมื่อคุณรู้ว่ามั่นมั่นไม่มีเหตุผลที่จะช่วยเขา ก็ยังมายั่วยุเธอ คิดว่าเธอคุยง่าย? หรือว่าฉันคุยง่าย?”
ลั่วมั่นมองไปที่ประตูอย่างประหลาดใจ ไม่รู้ว่าเฟิงเฉินกลับมาตอนไหน และก็ไม่รู้ว่ามายืนอยู่ที่ประตูห้องหนังสือชั้นสองนานแค่ไหน จ้องหน้าเฟิงเซิ่งอย่างเย็นชา ขณะที่กำลังลงบันได
“คุณอยู่บ้านหรอ” ลั่วมั่นแกล้งทำเป็นยิ้มสบายๆ ให้เขา
เฟิงเฉินกลับไม่สนใจเธอ และเดินตรงไปตรงหน้าเฟิงเซิ่ง มองเขาอย่างวางตัว “ถ้าคุณรู้สึกผิดจริงๆ วันนี้ก็ไม่ควรมาที่นี่”
สีหน้าเฟิงเซิ่งทั้งซีดทั้งขาว ความรู้สึกอึดอัดที่มีคนอ่านใจเขาออกเผยออกมาจากดวงตาปรากฏให้เห็นบนใบหน้า
สักพัก เฟิงเซิ่งกัดฟันพูด
“เฮ่าเฮ่าป่วยจริงๆ ผลการจับคู่ที่ทางโรงพยาบาลให้มาก็เป็นมั่นมั่นจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะฉันไม่มีทางเลือกอื่นก็ไม่มาขอร้องพวกคุณที่นี่”
“ท่าทางมาขอร้องแข็งกระด้างอย่างนี้” เฟิงเฉินน้ำเสียงนิ่งสงบ “แกมบังคับแกมขอร้อง คุณเห็นมั่นมั่นเป็นคนแบบไหน?”
บรรยากาศหยุดชะงักในทันที
“เฉิน” ลั่วมั่นคิดอยากจะช่วยแก้หน้าให้ แต่กลับโดนเฟิงเฉินจ้องหน้า จึงทำได้แค่กลืนคำพูดที่คิดจะพูดต่อกลับลงไป
เฟิงเซิ่งแอบกำหมัดแน่นอย่างเงียบๆ เป็นเวลานาน เห็นลั่วมั่นก็ไม่พูดอะไรแล้ว จึงลุกขึ้น ทนหน้าด้านพูดว่า “เฮ่าเฮ่าเป็นเด็กคนหนึ่ง ไม่ว่าฉันกับเวินน๋อนจะเคยทำอะไร เด็กไร้เดียงสา การปลูกถ่ายไขกระดูกไม่มีอันตรายต่อผู้บริจาค ถ้าพี่ยอมรับปาก ไม่ว่าจะให้ฉันทำอะไร ฉันยอมทั้งหมด”
“ไม่ว่าทำอะไร?” เฟิงเฉินสีหน้าเย็นชา “ถ้าฉันบอกคุณว่า ฉันต้องการมีสิทธิ์ในมรดกทั้งหมดในมือของคุณและลูกชายล่ะ?”
แม้แต่ลั่วมั่นได้ยินประโยคนี้ยังตกใจ
ตามที่แม่สามีบอก เฟิงเซิ่งและเฮ่าเฮ่ามีสิทธิ์ในการสืบทอดมรดกรวมกันแล้วประมาณเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของพ่อเฟิง แต่เงื่อนไขอย่างนี้ ทั้งเฟิงเซิ่งและเฮ่าเฮ่าอยู่ในลำดับญาติของตระกูลตระกูลเฟิง ประโยคนี้ของเฟิงเฉินหมายความว่า นอกเสียจากว่าเฟิงเซิ่งจะยินดีออกไปจากตระกูลเฟิงเอง สละมรดกทั้งหมด และจะไม่พูดเรื่องการยอมรับเฮ่าเฮ่ากลับเข้ามาในตระกูลอีก
ข้อเสนอนี้ ช่างบีบบังคับให้ลำบาก
สีหน้าเฟิงเซิ่งนิ่งลึก “พี่ คุณต้องรีบฆ่ากันขนาดนี้เลย?”
“ในบ้านไม่มีคนรับใช้ งั้นก็ไม่ส่งนะ น้องชายของฉัน”
เฟิงเฉินเย็นชา โดยไม่ลังเลเลยสักนิดว่าที่ตัวเองพูดไปเมื่อกี้จะเกินไปหน่อย
เฟิงเซิ่งยืนอยู่ที่เดิมสักพัก ในที่สุดก็เดินออกจากประตูไป
มองด้านหลังเฟิงเซิ่งที่ปฏิเสธ ลั่วมั่นขมวดคิ้ว ในใจไม่ค่อยสบายใจ บนโลกนี้มีบางคนมองสิ่งของนอกกายสำคัญยิ่งว่าชีวิต บอกว่าเสียสละได้ทุกอย่างเพื่อช่วยเฮ่าเฮ่า แต่ความจริงแล้ว อ่อนแอทนอะไรไม่ได้
เพราะเฟิงเฉินมองออกว่าเฟิงเซิ่งไม่ยอมเสียสละความมั่งคั่งรุ่งเรือง จึงตั้งใจเอาข้อเสนอนี้มากดดันเขา