ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 264
บทที่ 264 เด็กคนนี้เป็นดาวนำโชคจริงๆ
หลังจากนั้นครึ่งเดือนติด เฟิงเฉินล้วนออกจากบ้านแต่เช้า และกลับมาในตอนดึก แต่ลั่วมั่นกลับไม่เคยได้พบหน้าเลย ล้วนแต่ฟังจากคนรับใช้ ซึ่งไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ
“เมื่อวานคุณชายนำรังนกบำรุงร่างกายกลับมา ให้ตุ๋นน้ำแกงให้คุณผู้หญิงค่ะ”
“คุณชายบอกว่าภายในบ้านมีดอกไม้วางอยู่เล็กน้อยถึงจะน่ามองค่ะ”
“คุณชาย…….”
“สายโทรศัพท์ต่อติดหรือไม่” ลั่วมั่นตัดบทคนรับใช้ที่พูดไม่หยุด จ้องมองโทรศัพท์บ้านที่อยู่บนโต๊ะน้ำชา แววตาปรากฏร่องรอยแห่งความเย็นชา
คนรับใช้มีสีหน้าลำบากใจ “โทรศัพท์เครื่องนั้นเสียนานแล้วค่ะ”
“เสียแล้วหรือ สายโทรศัพท์ล่ะ”
สายโทรศัพท์บิดหัก จากการกระทำของคน
ครึ่งเดือนกว่ามานี้ เธอล้วนไม่ได้ติดต่อกับคนนอก นอกจากคนรับใช้ช่างพูด และนั่งมองทะเลสาบแห่งหนึ่ง ถ้าหากว่าก่อนหน้านี้นึกว่า เฟิงเฉินเพียงแค่ต้องการแยกเธอออกจากคนตระกูลเฟิงล่ะก็ อย่างนั้นตอนนี้ เธอยิ่งรู้สึกว่า เฟิงเฉินต้องการแยกเธอออกจากคนทั้งเมืองเจียง จนถึงขั้นแยกออกจากคนทั้งโลก
“ความจริงแล้วก็ไม่อาจโทษคุณชายได้ คุณชายล้วนทำเพื่อคุณผู้หญิงนะคะ ตอนนี้เรื่องนี้ยังคงเป็นที่สนใจของผู้คน คุณชายจึงกลัวว่าจะมีปัญหาใหม่สอดแทรกเข้ามา”
คนรับใช้พูดยืดยาวโดยที่ประโยคหน้าและหลังไม่สอดคล้องกันเป็นชุด ลั่วมั่นฟังแล้วหงุดหงิด จึงกระแทกแก้วน้ำในมือลงกับโต๊ะดังปัง น้ำกระฉอกออกมาเต็มโต๊ะ
“ถ้าอย่างนั้นทำไมเขาถึงไม่บอกกับฉันเอง”
คนรับใช้ตกใจสะดุ้ง เสียงพูดจึงเงียบหายไปชั่วขณะ
ผ่านไปครู่หนึ่ง ลั่วมั่นถึงได้ค่อยๆขมวดคิ้ว รู้ว่าน้ำเสียงของตัวเองใส่อารมณ์มากไปหน่อย “ขอโทษด้วย ฉันไม่ควรจะโมโหใส่เธอ เธอไม่ได้ทำอะไรผิด”
“ไม่ ไม่เป็นไรค่ะ”
หญิงรับใช้โล่งใจ รีบหยิบผ้าขี้ริ้วมาเช็ดคราบน้ำที่อยู่บนโต๊ะ “คุณผู้หญิงคะ ฉันจะไปเปลี่ยนแก้วน้ำใบใหม่ให้คุณค่ะ”
ลั่วมั่นก็ไม่เข้าใจว่าช่วงนี้ตัวเองเป็นอะไรไป ถึงได้แน่นหน้าอกไม่สบายใจตลอด จนรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก
“ลี่ลี่ ถ้าหากว่าเฟิงเฉินกลับมาตอนดึกแล้วล่ะก็ บอกเขาว่าฉันอยากจะพบคุณหมอสักหน่อย บอกไปว่าฉันรู้สึกแน่นหน้าอกเป็นอย่างมาก มีเรื่องอยากจะพูดมากมาย บอกกับเขาตามนี้เลยนะ”
หญิงรับใช้ที่กำลังเปลี่ยนน้ำอยู่ในห้องครัวได้ยินแล้ว ก็ผงกศีรษะหงึกๆ
“ค่ะ”
ยามค่ำคืน คนรับใช้รอจนสัปหงก รอจนถึงตอนกลางดึก ในที่สุดเฟิงเฉินก็กลับมา จึงเอ่ยเรื่องในตอนกลางวัน
เฟิงเฉินขมวดคิ้ว คล้ายกับว่ากำลังใคร่ครวญอะไรอยู่ ผ่านไปครู่หนึ่งถึงได้พยักหน้า
“ได้ ฉันจะจัดการให้ในวันพรุ่งนี้ ให้เธอวางใจได้”
ลี่ลี่ไม่เข้าใจเล็กน้อย “คุณชาย คุณชายกลับมาดึกขนาดนี้ทุกวัน ทั้งยังออกไปตั้งแต่เช้าตรู่ คงจะไม่ได้หลบหน้าคุณผู้หญิงหรอกนะคะ? ทำไมจะต้องทำแบบนี้ด้วยล่ะคะ ความจริงแล้วดิฉันรู้สึกว่า ที่คุณผู้หญิงอารมณ์ไม่ดี สาเหตุหลักก็เป็นเพราะว่ามักจะไม่ได้พบคุณ”
เฟิงเฉินไม่พูดอะไรสักคำ แต่หว่างคิ้วกลับปรากฏความโศกเศร้าอย่างหาได้น้อยครั้ง ตรงไปเปิดประตู และเดินเข้าไปในห้องหนังสือ
ถ้าหากว่าการพบหน้ามักจะโต้เถียงกันจนก่อให้เกิดการแยกจากกันอย่างไม่ดีในตอนท้าย เขายินยอมที่จะหลบหน้าก่อน ทะเลาะกันครั้งหนึ่งก็ทำร้ายจิตใจครั้งหนึ่ง เช่นนั้นไม่สู้ไม่พบหน้ากัน รอจนเรื่องราวผ่านไปแล้วค่อยพูดคุยกัน
ช่วงบ่ายวันรุ่งขึ้น หลี่สู้ขับรถพาเล่อสวี้กลับมา
เมื่อเล่อสวี้ได้พบหน้าลั่วมั่น สีหน้าที่เคยสงบนิ่งมาแต่ไหนแต่ไรก็แดงขึ้นมาหลายส่วนด้วยความไม่พอใจ “ทนายความพวกนั้น แต่ละคนล้วนเป็นพวกใช้การไม่ได้ สมมติฐานง่ายๆแค่นี้ก็ยังทำได้ไม่ดี จะเป็นทนายความไปทำไมกัน เรียนหนังสือมาเสียเปล่า ประธานลั่ว คุณก็อย่าเพิ่งร้อนใจ สองวันนี้ฉันกำลังเตรียมตัวสอบเป็นตุลาการ”
ลั่วมั่นกลับถูกท่าทางจริงจังแบบนี้ของเล่อสวี้ทำให้ขบขันจนหัวเราะออกมา “สอบเป็นตุลาการหรือ คุณคงไม่ได้วางแผนเป็นผู้แก้ต่างความบริสุทธิ์ให้ฉันในศาลด้วยตัวเองหรอกนะ?”
“ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีความเป็นไปได้นี้นะคะ”
ลั่วมั่นที่หัวเราะพอแล้ว ก็ตบหลังมือเธอ เอนตัวพิงพนักพิงเก้าอี้
“รอคุณสอบเสร็จ ได้รับใบรับรองเรียบร้อยแล้ว จนถึงวันที่คุณสามารถเป็นทนายความยืนอยู่ในศาลได้วันนั้น ลูกในท้องของฉันก็คงจะโตแล้วล่ะ เหลือพละกำลังเอาไว้ทำงานให้ดีเถอะนะ”
เมื่อเอ่ยถึงเด็กคนนี้ สีหน้าเล่อสวี้ก็อ่อนลงหลายส่วน “เด็กคนนี้เป็นดาวนำโชคจริงๆ ความจริงแล้วการสอบเพื่อเป็นตุลาการ ก็คือแผนการไร้สาระแผนการหนึ่งที่ฉันคิดออกมา เพราะช่วยคุณไม่ได้ก่อนหน้านี้ ตอนนี้มีเด็กคนนี้มาช่วยยืดเวลา ฉันจะต้องสามารถคิดวิธีมาหาหลักฐานอื่นๆ เพื่อช่วยคุณพลิกคดีได้อย่างแน่นอน