ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 270
บทที่ 270 ฉันไม่สามารถอยู่ที่นี่ต่อไปได้
สีหน้าเฟิงเฉินแข็งค้างเล็กน้อย ไม่รู้ว่าคิดถึงเรื่องอะไร คิ้วก็ขมวดลึกยิ่งขึ้น สุดท้ายแล้วกลับเอ่ยโต้แย้งออกมาอย่างไร้เรี่ยวแรงเพียงประโยคเดียว
“เธอเป็นพี่สาวของผม”
เป็นประโยคที่อธิบายได้ไม่มีน้ำหนักเกินไปแล้ว แม้ว่าจะอยู่ในการคาดเดา ลั่วมั่นก็อดไม่ได้ที่จะกำผ้าปูเตียงใต้ผ้าห่มเอาไว้แน่น อดทนเอาไว้ในใจ แต่สีหน้ากลับสงบนิ่งเป็นปกติ จนถึงขั้นสามารถแย้มรอยยิ้มที่ไม่ใส่ใจออกมาได้
“ฉันรู้ ดังนั้นฉันถึงได้เห็นคำพูดของลี่ลี่เป็นเรื่องล้อเล่นเท่านั้น”
“หลังจากนี้จะไม่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอีก”
คำพูดที่หนักแน่นของเฟิงเฉินลอยผ่านหูลั่วมั่นไป เธอพยักหน้าเล็กน้อย แต่กลับเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
“เฉิน หลังจากออกจากโรงพยาบาลในวันพรุ่งนี้ ฉันจะไม่กลับไปแล้ว”
“ได้” เฟิงเฉินพยักหน้าเล็กน้อย แสดงออกว่าเข้าใจ “ที่ทะเลสาบต้วนนั่นก็ไกลไปหน่อย หลังจากนี้ไม่อยู่ที่นั่นแล้ว วิลล่าจิ่นซิ่วก็เก็บกวาดได้พอสมควรแล้ว สามารถ………”
“ความหมายของฉันคือ ฉันจะไม่กลับไปกับคุณแล้วค่ะ ฉันให้ลี่ลี่ไปจัดการเก็บกวาดคอนโดที่ซื่อม่าว แล้ว พรุ่งนี้ฉันก็จะย้ายไปค่ะ”
เฟิงเฉินที่เงยหน้าขึ้นในทันที สบเข้ากับสายตาของลั่วมั่น น้ำเสียงเจือไปด้วยความกังวลหลายส่วนอย่างหาได้ยาก
“มั่นมั่น คุณไม่ต้องทำแบบนี้ เรื่องวันนี้เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายเรื่องหนึ่ง หลังจากนี้จะไม่มีใครมารบกวนคุณอีก”
“ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายหรอกค่ะ”
ลั่วมั่นหลบสายตาเฟิงเฉิน แต่น้ำเสียงกลับเย็นเยียบ
“คุณคาดเดาได้นานแล้วว่าเฟิงจิ่งและคุณพ่อของคุณจะไม่ปล่อยฉันไปง่ายๆ ดังนั้นคุณถึงได้จัดการให้ฉันไปพักอยู่ในสถานที่ห่างไกลแบบนั้น คุณเพียงแค่คิดไม่ถึงว่า เฟิงจิ่งจะไปหาถึงที่นั่นได้เร็วขนาดนี้ นี่ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายหรอกค่ะ”
เสียงของเฟิงเฉินทุ้มต่ำลง
“ผมจะจัดการให้คนไปเฝ้าอยู่รอบตัวคุณ หลังจากกลับไปที่วิลล่าจิ่นซิ่วแล้ว แม้ว่าคุณจะออกจากวิลล่าทุกวัน ก็จะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก ไม่มีใครสามารถ………”
“เฟิงเฉิน” ลั่วมั่นตัดบทเขา
“นี่ล้วนไม่ใช่ประเด็นหลัก ประเด็นหลักอยู่ที่ คนที่มีความขัดแย้งกับฉันไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นพี่สาวคุณ เป็นญาติพี่น้องคุณ คุณจัดการคนมาเฝ้าเท่าไรก็ไม่มีประโยชน์ เฟิงจิ่งสามารถตีฉันแขนหักข้างหนึ่งได้ ขอถามหน่อยเถอะค่ะว่า คุณจะสามารถหักแขนเธอด้วยได้ไหมคะ”
“……….”
“ถึงแม้ว่าคุณจะทำได้” ลั่วมั่นปิดปากเงียบไปหลายวินาที เสียงที่เอ่ยออกมาแหบพร่าอยู่บ้าง “ถ้าหากว่าคนที่มีความขัดแย้งกับฉันเป็นคุณพ่อของคุณล่ะ คุณจะสามารถหักแขนท่าน หรือว่าทำอะไรได้หรือคะ เกรงว่ากระทั่งผลักท่านออกไป คุณก็ทำไม่ได้หรอก!”
สีหน้าเฟิงเฉินไม่น่ามอง หาคำพูดมาโต้แย้งไม่ได้
บรรยากาศภายในห้องพักผู้ป่วยนิ่งค้างไปในทันที ลมกลางคืนพัดเข้ามาจากหน้าต่าง แต่มักจะรู้สึกว่าอึดอัดเป็นอย่างมาก จนแทบจะหายใจไม่ออก
“มั่นมั่น ถึงแม้ว่าจะเพื่อผม คุณก็ไม่ยอมอยู่ต่อใช่หรือไม่”
“ใช่ค่ะ”
ตอนที่เฟิงเฉินจากไป เสียงปิดประตูไม่ดังนัก แต่ตอนที่ปิดประตู อากาศที่ไหลสวนทางกัน จนทำให้เกิดลมเย็นวูบหนึ่ง ส่งผลให้ลั่วมั่นหนาวสั่น รู้สึกว่าหนาวเป็นอย่างมาก
มือขาวราวกับหิมะของเธอลูบลงบนหน้าท้องที่ถูกกั้นด้วยผ้าห่ม เอ่ยกับตัวเองว่า
“ฉันสามารถอยู่ต่อไปได้เพื่อคุณ แต่ว่าตอนนี้ฉันยังมีลูก เพื่อลูกแล้ว ฉันจึงไม่สามารถอยู่ที่นี่ต่อไปได้”
ความเสี่ยงในการอยู่ต่อไปนั้นมีมากเกินไป เธอรับรู้ได้อย่างเลือนรางว่าคนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังเธอนั้นคล้ายกับว่ามีเจตนาจะให้ เธอและคนตระกูลเฟิงเกิดความขัดแย้งกันมากกว่าเดิม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ไม่สามารถบอกคนอื่นได้ ดังนั้นจึงต้องวางแผนซ้อนแผน เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ก็สะดวกต่อการลดความระแวดระวังที่มีต่อฝ่ายตรงข้ามของผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ทั้งยังสามารถปกป้องลูกที่อยู่ในท้องให้ปลอดภัยได้ด้วย นี่เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
คนที่ถูกทำร้ายมีเพียงคนเดียว ก็คือเฟิงเฉิน
เขาคงจะนึกว่า ตัวเองทะเลาะกับคนในครอบครัวของเขาจนไม่มีทางสิ้นสุดแล้วจริงๆ
ลั่วมั่นขมวดคิ้ว มีเรื่องมากมายที่ไม่อาจจะส่งผลดีต่อทั้งสองฝ่ายได้ อดทนสักหน่อยเดี๋ยวก็ผ่านไปแล้ว