ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 30
บทที่ 30 ดูแลเอาใจใส่จากจิตใต้สำนึก
ณ อาคารสำนักงานใหญ่ บริษัทH.Y. เวลาเลิกงาน
หลังจากเฟิงเฉินเข้าไปในลิฟต์ เกิดความลังเลสงสัย จึงกดไปที่ชั้นสิบแผนกขายสินค้า
“ติ๊ง” เสียงลิฟต์มาถึงประตูค่อยๆ เปิดออก เขารีบก้าวเท้าออกไป เดินตรงไปยังสำนักงานผู้อำนวยการแผนกขายสินค้า เดินไปได้สองก้าว ประตูสำนักงานผู้อำนวยการเปิดออก มี ส้งชิงหรูออกมาต้อนรับ
“ประธานเฟิง?” ส้งชิงหรู ตาเป็นประกาย ไม่สามารถซ่อนความตื่นเต้นไว้ได้ “ทำไมคุณมีเวลาว่างมาถึงที่นี่ได้?”
เฟิงเฉินพูดเสียงเรียบๆ
“เลิกงานพอดี จึงแวะมาดู”
“งั้นเชิญนั่งก่อน ฉันจะไปชงชามาให้ ฉันมีชา หรงจิ่น”
“ไม่ต้อง” เฟิงเฉินหันไปมองสำนักงานผู้อำนวยการ ไม่เห็นแม้แต่เงาตามที่คาดหวังไว้ จึงลังเลสงสัย “ประธานลั่วของพวกคุณล่ะ?”
ส้งชิงหรู ยิ้มกระตือรือร้นด้วยใบหน้าดูแข็งๆ กระวนกระวายใจจนถอยหลังไป พูดอย่างตะกุกตะกัก
“ประธานลั่ว….ประธานลั่วเธอไปเซ็นสัญญา”
“เซ็นสัญญา?” เฟิงเฉินขมวดคิ้ว “กับใคร?”
“กับ….กับ….ประธานหวังบริษัทอู้เหม่ย”
ขณะนั้น สีหน้าเฟิงเฉินเปลี่ยนไป ราวกับหมอกควันปกคลุมไปทั่วเมือง
ส้งชิงหรูตื่นตระหนก รีบอธิบายว่า “สัญญานี้เป็นสัญญาที่ดีซึ่งต้องต่ออายุสัญญา แต่ประธานหวังกลับยืดเยื้อ เป็นเรื่องยาก ฉันรู้ว่าไม่ควรเซ็นสัญญา ดังนั้นวันนี้ฉันห้ามประธานลั่วแล้ว แต่ประธานลั่วดึงดันว่าจะไป ใครก็ห้ามไม่ได้….”
“ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์” เฟิงเฉินพูดเสียงเย็นชาขัดจังหวะการพูดของเธอ สีหน้าดูแย่มาก
เมื่อเห็นใบหน้าคร่ำเครียดของชายหนุ่ม ส้งชิงหรูไม่กล้าลังเล รีบเปิดหาที่อยู่พร้อมเบอร์ในโทรศัพท์มือถือของตัวเอง
เฟิงเฉินดูเหมือนจะขับรถเร็วปานจรวดมาตลอดทาง จนไปถึงความเร็วสูงสุดของรถตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ ฝ่าไฟแดงสองสามครั้ง ขับมาถึงประตูสโมสรเอกชน จึงเหยียบเบรก ดูเหมือนไม่รอให้รถจอดสนิทก็รีบลงจากรถ
“คุณผู้ชาย….”
“ถอยไป…”
เฟิงเฉินผลักบริกรที่มาขวางเขา เตะประตูห้องพิเศษ เสียงดังโวยวาย
“ลั่วมั่น”
ทันใดนั้นคนที่ถูกเรียกชื่อตกใจกลัวจนตัวสั่น หันกลับมาเงยหน้ามอง
เฟิงเฉินกวาดสายตามองไปรอบๆ ลั่วมั่นในชุดสีดอกบัวสวยงามดูยุ่งเหยิงเล็กน้อย เท้าเหยียบไปที่พื้น มือข้างหนึ่งหยิบรองเท้าส้นสูงขึ้นมา มองดูด้วยความลำบากใจ แต่ไม่ฟุ้งซ่าน
ทั้งคู่ต่างจ้องมองกันอยู่สักพัก
ลั่วมั่นมึนงง ชายอ้วนหน้าตาสะบักสะบอมคว้าแขนของเธอไว้
“นังตัวแสบ…กูจะเอามึงถึงตาย”
จากนั้นยื่นมือไปดึงผมของเธอ
ลั่วมั่นขัดขืนอย่างรวดเร็ว ยกรองเท้าส้นสูงเพื่อต่อสู้
แต่กลับมีคนเร็วกว่าเธอ เสียงดัง “แควก” ดังขึ้นในห้องพิเศษ
ลั่วมั่นเบิกตากว้างมองดูเก้าอี้ที่อยู่หัวของตาอ้วนประธานหวัง ประธานหวังตัวแข็งไปสองสามวินาทีราวกับไม่เชื่อสิ่งที่เห็น จากนั้นทรุดลงกับพื้น มีเลือดไหลออกมาจากศีรษะ เห็นแล้วน่าตกใจ
“อ๋า…” เธอร้องด้วยความตกใจ แล้วก้าวถอยหลังไป
“ไม่เป็นไรใช่ไหม?” เฟิงเฉินรีบถาม
ลั่วมั่นกลับมีสติอีกครั้ง ส่ายหัว สีหน้าลำบากใจชี้ไปที่ชายที่ถูกอัด “ฉันว่าท่าทางเขาจะมีปัญหา….”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เฟิงเฉินถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ความวิตกกังวลของเขารวมอยู่ในดวงตาที่จ้องมองลั่วมั่น หลายครั้งทำให้เธอตะลึง จนลืมอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น
ข้างนอกมีเสียงอึกทึก มีเสียงรถตำรวจ เธอจึงมีสติอีกครั้ง พูดอย่างร้อนรน
“ตำรวจมาแล้ว”
เฟิงเฉินไม่มอง ยื่นมือประคองที่ไหล่ของเธอ พูดด้วยน้ำเสียงสงบเย็น
“ไม่ต้องกลัว ดูเหมือนคนในสโมสรจะแจ้งตำรวจ”
เธอตัวแข็งทื่อ ความอบอุ่นยังคงอยู่บนไหล่ของเธอเป็นเวลานานแล้ว ค่อยๆ เลื่อนไหลผ่านลำคอไปถึงหัวใจ
ที่แท้เขาก็ยังใส่ใจเธออยู่