ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 306
เฟิงเฉินตกใจชะงัก เมื่อลั่วมั่นดึงมือกลับจากหน้าอกของตัวเอง จู่ๆในใจก็เกิดความกลัวที่ค่อยๆขยายใหญ่ขึ้น และเติมเต็มช่องว่างขนาดใหญ่ในหัวใจของเขา
เขารีบคว้าข้อมือของลั่วมั่น และบังคับตัวเองให้ใจเย็น และพยายามพูดหว่านล้อมปลอบโยนเธอด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลที่สุด “ลั่วมั่น คุณใจเย็นก่อน เรื่องนี้พวกเราสามารถคุยกันวันหลังได้”
“ปล่อยฉัน…..”
“ลั่วมั่น”
“คุณปล่อยฉัน!” ลั่วมั่นร้องเสียงแหลมพร้อมขัดขืน กำปั้นดุจเม็ดฝนตกกระทบลงทุกที่ที่สามารถลงไปได้ ระบายความโกรธแค้นที่มีทั้งหมดบนตัวออกมา จนหมดเรี่ยวหมดแรง แล้วสลบอยู่ที่หน้าอกแล้วเฟิงเฉินในที่สุด
“คุณหมออยู่ไหน รีบเรียกคุณหมอเร็ว…..”
ก่อนหมดสติ เสียงเรียกข้างใบหูค่อยๆเบาและจางหายไป โลกทั้งใบมืดมิดฉับพลัน
ไม่รู้ว่าหลับไปนานเท่าไหร่ เมื่อตื่นขึ้นมารอบข้างก็เป็นสีขาวแยงเข้ามาในดวงตา ที่ฝ่ามือเย็นๆมีไออุ่นๆแทรกซึมเข้ามา ที่ข้างใบหูมีเสียงดังอู้อี้
“เด็กปลอดภัยดี แต่ถ้าคุณแม่นั้นเสียใจมากเกินไป จะส่งกระทบต่อลูกที่อยู่ในท้องได้ ต่อไปต้องบำรุงให้มากๆ และอย่าให้จิตใจได้รับการกระทบกระเทือนมากเกินไป”
“ครับ ทราบแล้วครับ”
เสียงที่คุ้นเคยดึงสติลั่วมั่นให้กลับมา สิ่งที่อยู่ด้านหน้าค่อยๆชัดเจนขึ้น เมื่อมองคนที่อยู่ข้างเตียงว่าเป็นใครแล้ว ใบหน้าที่เดิมทีขาวซีดอยู่แล้วก็ยิ่งดูแย่ขึ้นกว่าเดิม แทบจะในทันทีที่สะบัดมือของเฟิงเฉินทิ้งไป และลุกขึ้นจากเตียงอย่างทุรนทุราย จากนั้นเอนพิงอยู่ที่หัวเตียงแล้วพูดขึ้น “ทำไมคุณยังอยู่ที่นี่อีก ฉันบอกแล้วให้คุณไปไง”
“อย่าขยับ คุณหมอบอกว่าคุณต้องพักผ่อนให้มากๆ”
ใบหน้าเฟิงเฉินกระวนกระวายใจ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรเธอได้
เรื่องของพ่อลั่วยังคงเป็นความเจ็บปวดเสียใจที่สุดในหัวใจของลั่วมั่น เธอคิดว่าบิดานั้นเสียชีวิตเพราะการถูกเหยียดหยาม ส่วนพ่อเฟิงคือฆาตกรทางอ้อม แล้วจะให้เธอดีกับเฟิงเฉินเหมือนตอนแรกหลังจากที่บิดาเสียชีวิตได้อย่างไร จะทำได้อย่างไร
“ไปให้พ้น!” เสียงตวาดดังก้องในห้องผู้ป่วย “ฉันไม่อยากจะเห็นหน้าคุณอีก”
คำกำชับของคุณหมอยังคงกึกก้องอยู่ในหัวของเฟิงเฉิน สถานการณ์เช่นนี้เขาทำได้เพียงออกจากห้องผู้ป่วยไปชั่วคราวก่อน
ในที่สุดในห้องได้กลับไปสู่ความสงบอีกครั้ง เหลือเพียงเสียงหายใจหอบของลั่วมั่น
แต่เพียงไม่กี่วินาที เสียงประตูดัง“เอี๊ยด”ขึ้นอีก ลั่วมั่นที่อุตส่าห์สงบเย็นลงได้แล้ว ฉับพลันสีหน้าก็บึ้งตึงขึ้น คว้าหมอนแล้วก็โยนไป “ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องการเห็นหน้าคุณอีก”
คนที่เข้ามานั้นรับหมอนไว้อย่างรวดเร็ว แล้วพูดขึ้นด้วยความมึนงง “ลั่วมั่น ผมเอง”
ลั่วมั่นสีหน้าชะงักงัน
“พี่ซือโม่เหรอ”
“ผมเพิ่งกลับมาจากต่างจากหวัด ได้ข่าวว่าบ้านตระกูลลั่วเกิดเรื่อง ก็เลยรีบมา” ซือโม่ทอดถอนใจ คิ้วขมวดขึ้น แล้ววางหมอนที่อยู่ในมือกลับลงบนเตียง ““ลั่วมั่น มีผมอยู่ข้างๆคุณ ไม่ต้องกลัวนะ”
ลั่วมั่นที่ใบหน้าสุดแสนจะเจ็บปวดรวดร้าว กุมศีรษะของตัวเองอย่างหมดหนทางแล้วพูดพึมพำ
“พี่ซือโม่ พ่อจากไปแล้ว”
“ไม่ใช่ความผิดคุณ” ซือโม่ตบเบาๆที่ไหล่ของเธอ “ไม่ใช่ความผิดของคุณ ถ้าดวงวิญญาณคุณพ่อของคุณยังอยู่ก็คงไม่อยากเห็นคุณทุกข์เสียใจเพราะเขาเช่นนี้”
“เป็นความผิดของฉัน เป็นความผิดของฉัน……”
ไหล่ของลั่วมั่นเริ่มกระตุกจากการร้องสะอึก ในที่สุดก็ไม่สามารถอดทนอดกลั้นได้อีกต่อไป น้ำตานั้นจึงไหลออกมาไม่หยุดราวกับเปิดก๊อกน้ำก็ไม่ปาน เสียงร้องไห้นั้นเหมือนแทบจะขาดใจ ดังกังวานสะท้อนอยู่ในห้องผู้ป่วย
ด้านนอกห้องประตู เฟิงเฉินที่ได้ยกมือขึ้นในที่สุดก็ดึงมือกลับจากประตู เขาหามุมระเบียงเงียบๆ แล้วยื่นหน้ารับสายลมยามเย็น จากนั้นก็ล้วงบุหรี่ที่เลิกไปตั้งนานแล้วออกมาสุบมวนแล้วมวนเล่า สักพักรอบๆบริเวณเท้าก็เต็มไปด้วยก้นบุหรี่
เมื่อเหลือบุหรี่มวนสุดท้ายแล้วนั้น เขาก็ล้วงเจอเอกสารใบหย่าที่เป็นม้วนๆออกมา จากนั้นก็จุดด้วยไฟจากบุหรี่ จนกลายเป็นผุยผงท่ามกลางสายลมยามเย็น
ลั่วมั่น ถ้าคุณดื้อรั้นที่จะหย่า ผมก็จะไม่ยอมให้คุณจากตระกูลเฟิงไปตัวเปล่าอย่างแน่นอน