ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 311
“ผมไม่เข้าใจ ทำไม”
“ คุณไม่เข้าใจเหรอ” ลั่วมั่นยิ้มแสยะขึ้น “ พ่อของฉันต้องมาเสียชีวิตเพราะตระกูลเฟิงของพวกคุณ คำพูดนี้ฉันได้บอกกับคุณอย่างชัดเจนที่โรงพยาบาลแล้ว ยังต้องการให้ฉันพูดซ้ำอีกรอบไหม”
“ลั่วมั่น” เฟิงเฉินไม่มีแรงที่จะแก้ต่าง แม้แต่เสียงเรียกชื่อของเธอก็แทบจะไม่มี
“ไม่มีธุระอย่างอื่นแล้วฉันขอตัวก่อน เมื่อคุณยืนยันเวลาที่แน่นอนแล้วก็บอกฉัน ฉันจะไปที่ว่าการอำเภอทำเรื่องหย่าพร้อมกับคุณ”
คำพูดที่เย็นชาปนเปมากับสายฝนกระทบตกลงที่ใบหน้าของเฟิงเฉิน
“คุณต้องการอยากหย่าจริงเหรอ” เขาตะโกนตามแผ่นหลังเธอ
“ใช่” ลั่วมั่นไม่ได้หันกลับมา
“เอกสารใบหย่า ผมฉีกทิ้งไปแล้ว”
“อย่างนั้นก็เซ็นใหม่ คุณฉีกทิ้งมากแค่ไหน ฉันก็เซ็นได้มากเท่านั้น”
ในที่สุดร่างลั่วมั่นก็หายไปกับสายฝน ฝนยิ่งตกยิ่งใหญ่ ตอนแรกที่ยังสามารถมองเห็นรถขับออกไปท่ามกลางสายฝน ไม่นาน ก็หายไปไม่เห็นแม้เงา
ร่างที่อยู่ไกลๆได้รีบวิ่งเข้ามา “เฉิน คุณเป็นบ้าไปแล้วเหรอ ฝนตกหนักขนาดนี้ยังไม่กางร่มอีก มายืนทำอะไรตรงนี้”
กวนเส้าหยู้ยังไม่ทันได้เข้ามาใกล้ ร่างเฟิงเฉินที่สูงใหญ่ก็ล้มลงกองกับพื้น จนน้ำฝนได้สาดกระจายท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายอย่างหนัก
แม้จะทำงานอย่างหนักติดต่อกันหลายวันเขาก็ไม่เคยล้มลง แต่คำพูดที่ไม่เหลือเยื่อใยเหล่านั้นของลั่วมั่น กลับเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่บดขยี้เขาจนล้มลง
“เฉิน…..”
“…..”
“บัดซบจริงๆ ชาติก่อนผมทำกรรมอะไรไว้ ติดหนี้พวกเธอสองสามีภรรยาใช่ไหม เล่อสวี้คุณรีบเข้ามาช่วยหน่อยสิ!”
“…..”
“สองสามวันนี้บริษัทวุ่นวายมาก ประธานเฟิงคนเก่าได้ขายหุ้นที่อยู่ในมือทั้งหมด ดูเหมือนว่ากำลังหาวิธีวานคนช่วยเหลือคุณชายรองให้รับโทษเบาๆ แต่ว่าบริษัทจู่ๆหุ้นเกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน จึงส่งผลให้ในตลาดหุ้นลดลงตามไปด้วย”
ลั่วมั่นฟังคำพูดของเล่อสวี้ที่ดังจากโทรศัพท์ สักพักตอบรับแบบลวกๆขึ้น “อืม เรื่องเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับฉันอีก หุ้นของฉันได้ขายออกไปแล้วใช่ไหม”
เธอวานให้เล่อสวี้เป็นตัวแทนในการช่วยถ่ายโอนหุ้นที่มีทั้งหมดในบริษัทH.Y. ที่เล่อสวี้โทรมาหาเธอก็เพราะเรื่องนี้
“ตอนนี้ตลาดหุ้นเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง หุ้นของบริษัทH.Y.นั้นตกลงอย่างมาก ถ้าขายตอนนี้ไม่ค่อยจะเหมาะสมเท่าไหร่”
“ไม่เป็นไร ไม่ว่าเท่าไหร่ฉันก็ขายหมด”
“ประธานลั่ว คุณต้องการใช้เงินหรือ บางทีฉัน…..”
“ไม่ใช่” ลัวมั่นน้ำเสียงเคร่งขรึม “ฉันแค่ต้องการจะจัดการความสัมพันธ์กับทางนู้นให้เรียบร้อยชัดเจนทุกอย่าง”
ฝั่งนั้นจึงเงียบไปสักพัก ไม่ได้ห้ามปรามต่อ
“ฉันจะรีบจัดการให้โดยเร็วที่สุด”
“รบกวนเธอแล้ว”
“ไม่รบกวนเลย เพียงแต่……” น้ำเสียงเล่อสวี้ลังเลเล็กน้อย “ประธานเฟิงมีไข้ขึ้นสูง พักอยู่ที่โรงพยาบาลมาสามวันแล้ว ตั้งแต่ที่กลับมาจากวันนั้นก็ล้มป่วยลง ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ฟื้นขึ้นมา ถ้าหากว่าคุณมีเวลาว่าง จะแวะมาดูสักหน่อยไหม”
“ไม่ต้องหรอก ฉันยุ่งมาก”
ลั่วมั่นปฏิเสธไปอย่างเด็ดขาด ราวกับว่าคนที่เล่อสวี้เอ่ยถึงนั้นไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆกับตัวเองอีกแล้ว
โทรศัพท์ฝั่งนั้น เล่อสวี้ได้ขมวดคิ้วขึ้น “ค่ะ อย่างนั้นก็แค่นี้นะคะ”
“เป็นอย่างไรบ้าง” กวนเส้าหยู้ที่อยู่ข้างๆได้ถามขึ้น “เธอมาไหม”
เล่อสวี้ส่ายหน้า
“ผมก็บอกแล้วว่าเธอไม่มาหรอก” ใบหน้ากวนเส้าหยู้ที่คาดเดาไว้ตั้งแต่แรก และทอดถอนใจขึ้น
“ครั้งนี้เฉินคงจะเจอเข้ากับความมหาซวยแล้วจริงๆ พ่อของเขาที่วันๆเอาแต่หาเรื่อง หาอะไรไม่หา ดันไปหาเรื่องใส่ลูกชายซะอย่างนั้น ทีนี้ดีล่ะ เฉินที่กว่าจะเจอรักแท้ได้ ความซวยครั้งนี้ ทำให้ลูกเมียนั้นหนีไปกับคนอื่นแล้ว”
“ประธานลั่วไม่ใช่คนแบบนี้”
เล่อสวี้ขมวดคิ้ว จ้องเขม็งกวนเส้าหยู้อย่างไม่พอใจ “หุบปากของคุณซะ อย่าได้พูดจามั่วซั่วอีก”
“ผมทำไมเหรอ คุณจ้องผมทำไม หรือที่ผมพูดนั้นไม่จริง” กวนเส้าหยู้สีหน้าที่คิดว่าสมเหตุสมผล “ผมไม่ได้บอกว่าลั่วมั่นทำผิด ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นก็คงไม่มาเช่นกัน ถูกไหม”
“ไม่ถูก” เล่อสวี้แน่วแน่อย่างอธิบายไม่ถูก “ประธานลั่วไม่ใช่คนใจแข็งใจดำ ฉันรู้สึกว่าเหมือนมีอะไรบางอย่างผิดปกติ