ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 312
ลั่วมั่นได้วางสายโทรศัพท์จากฝั่งนั้นลง
หางตาเหลือบมองไปที่ประตู เห็นชัดๆว่ามีร่างร่างหนึ่งแอบหลบหนีไป
เธอแอบกุมโทรศัพท์ไว้แน่น สีหน้ายังคงปกติ และย่องเบาๆไปที่ประตู เห็นร่างชัดเจนที่จากประตูไปเมื่อสักครู่
เป็นนักโภชนาการที่ซือโม่จัดเตรียมไว้ให้
ตกกลางคืน——
“คุณท่านครับ เนื้อหาในการคุยโทรศัพท์อยู่ในนี้ครับ”
ในห้องหนังสือ คนรับใช้นำเสียงที่ได้อัดบันทึกไว้ยื่นไปที่หน้าโต๊ะ “ช่วงนี้ดูเหมือนว่าคุณลั่วจะยุ่งอยู่กับการขายหุ้นของบริษัทH.Y. เรื่องอย่างอื่นก็ไม่ได้พูดถึงอะไรมาก”
เมื่อเปิดเสียงบันทึก ซือโม่พลางฟังเนื้อหาเสียงบันทึก มือข้างหนึ่งพลางเคาะโต๊ะเป็นจังหวะ จนกระทั่งเสียงบันทึกจบลง ก็ฟังไม่ออกถึงความผิดปกติ
“ต่อไปไม่ต้องไปตามเฝ้าแล้ว วันปกติคอยสังเกตดูให้มากก็พอ จะได้ไม่เป็นที่ต้องสงสัย”
“ครับ คุณท่าน” คนรับใช้พยักหน้ารับ “ใช่แล้ว ครั้งก่อนคุณหมอที่มาตรวจเด็กในครรภ์ให้กับคุณลั่วนั้น บอกว่าพักนี้เด็กมีการเจริญเติบโตที่ผิดปกติเล็กน้อย สองสามวันนี้ให้เพิ่มอาหารบำรุงแล้วค่อยทำการตรวจใหม่ครับ”
เมื่อเอ่ยถึงเรื่องเด็ก สีหน้าของซือโม่ก็บึ้งขึ้น เงียบไปสักพัก แล้วถามขึ้น
“เด็กคนนี้ มีวิธีไหมที่จะทำให้หายไปโดยเร็วที่สุด”
คนรับใช้ชะงักไปชั่วครู่“มีครับ”
——
“ประธานเฟิงครับ ด้านนอกมีผู้หญิงแซ่ห่าวต้องการพบท่านครับ”
ในห้องสำนักงาน หลี่สู้ได้เคาะประตู
เฟิงเฉินเอามือปิดปากจากอาการไอสองที
“ประธานเฟิง ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม” หลี่สู้ที่น้ำเสียงเป็นห่วง
ตั้งแต่ที่ตากฝนครั้งก่อน เฟิงเฉินก็เป็นไข้ ล้มป่วยอาการหนัก นอนอยู่ที่โรงพยาบาลสามวันเต็มถึงได้ฟื้นขึ้นมา ร่างกายก็ยังฟื้นฟูไม่ดี ก็ดื้อรั้นที่จะออกจากโรงพยาบาล ตอนนั้นบริษัทH.Y.ก็วุ่นวายมาก หลี่สู้จึงได้แต่มองดูเขากลับมารักษาตัวที่บ้าน และก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะไปรั้งเขา
แต่นี่ก็ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์กว่าแล้ว ตลาดหุ้นก็เริ่มมีเสถียรภาพ คนที่ก่อความวุ่นวายเหล่านั้นก็ได้จัดการเรียบร้อย อาการป่วยของเฟิงเฉินยิ่งอยู่อาการยิ่งทรุด ในแต่ละวันก็ไอไม่หยุด ทานยาก็ไม่ดีขึ้น
หลี่สู้ได้เกลี้ยกล่อมให้เขาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งว่าให้ไปหาหมอ
“ไม่เป็นไร” เฟิงเฉินโบกไม้โบกมือ แล้วมองไปทางหลี่สู้ “เมื่อกี้นายบอกว่าใครต้องการพบผมนะ”
“ลูกสาวของประธานห่าว ห่าวเหวิน”
เฟิงเฉินไม่คุ้น “มาทำไม”
“บอกว่าจะมาบอกเรื่องราวอดีตที่เกี่ยวกับซือโม่ผู้อยู่เบื้องหลังการก่อตั้งMX เมื่อได้ยินพนักงานหน้าเคาน์เตอร์บอกกับผมเช่นนี้ ผมก็เลยปล่อยเธอเข้ามา ใช่แล้ว พวกเราเคยเจอเธอที่งานเลี้ยงMX เธอนั้นรู้จักซือโม่จริงๆ”
หลี่สู้ก็รู้ดีเรื่องว่าที่เกี่ยวกับซือโม่ เฟิงเฉินนั้นให้ความสนใจเป็นพิเศษ ดังนั้นถึงได้ให้ห่าวเหวินขึ้นมาบนตึก แล้วรออยู่ที่ห้องรับรอง
แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เฟิงเฉินครุ่นคิดแล้วก็พยักหน้า “ให้เธอเข้ามา”
ไม่นาน หลี่สู้ก็ได้พาหญิงสาวที่อายุสามสิบต้นๆเข้ามา ทั้งตัวมีแต่ของแบรนด์เนม เพียงแต่รสนิยมไม่ค่อยดี นำมาประดับบนตัวแล้วดูไม่ค่อยเข้ากัน เมื่อมองสำรวจแล้ว ก็จะเห็นว่าโลโก้ของแต่ละแบรนด์เนมนั้นเด่นชัดเกินไป ทำให้มองแวบแรกแล้วกลับรู้สึกว่าเป็นสินค้าตามตลาดนัด ไม่ดูหรูดูแพง
เมื่อเธอเข้ามาก็นั่งลงที่โซฟาอย่างไม่สนใจ “ประธานเฟิง เจอกันอีกแล้วนะคะ”
“คุณต้องการเจอผมด้วยเรื่องของซือโม่เหรอ”
เฟิงเฉินไม่อยากจะอ้อมค้อมกับเธอ จึงได้พูดตรงๆ
“อย่าบอกนะว่าคุณจำฉันไม่ได้แล้ว” ห่าวเหวินดูเหมือนกับไม่รีบร้อน
“คุณต้องการเจอผมด้วยเรื่องอะไรกันแน่” ผู้หญิงที่ต้องการมาตามตื๊อตามจีบนั้น เฟิงเฉินเจอมานักต่อนักแล้ว ถ้าหากว่าคนที่อยู่ด้านหน้าตรงนี้ก็มาด้วยเหตุผลนี้ เขาจะรีบไล่ออกไปทันที
“อย่ากังวลเลย” ห่าวเหวินใบหน้ากลับนิ่งสงบ “ประธานเฟิงไม่ต้องทำห่างเหินเป็นพันกิโลแบบนี้ก็ได้ ฉันไม่ได้คลั่งไคล้อะไรในตัวคุณ ที่มาที่นี่ก็แค่อยากจะมาบอกเรื่องราวอดีตที่เกี่ยวข้องกับซือโม่ ความจริงแล้วแค่อยากถือโอกาสยืมมือของคุณช่วยเหลืออะไรบางอย่างฉันเท่านั้น”
“…..”
“คุณรู้ไหมว่าทำไมซือโม่ถึงดีกับลั่วมั่นขนาดนี้”