ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 316
“ไม่เป็นไร คุณมาได้ทันเวลา ทางโรงพยาบาลได้ช่วยเหลือลูกไว้ได้แล้ว แต่แค่ร่างกายอ่อนเพลียนิดๆ ต้องบำรุงเยอะๆ” ซือโม่แตะที่หน้าผากของเธอ “ดูเหมือนจะไม่เป็นไข้ อีกสักครู่ให้คุณหมอมาดูอาการนะ”
“ค่ะ” ลั่วมั่นถอนหายใจขึ้น
“ทำไมจู่ๆถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น” ซือโม่ที่สีหน้ารู้สึกผิดเสียใจ “เมื่อวานตอนบ่ายที่บริษัท ข้างกายคุณกลับไม่มีใครสักคน ต้องขับรถมาตัวคนเดียว เมื่อได้ข่าวแล้ว ผมตกใจมาก”
“ฉันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน” ลั่วมั่นหลบสายตาของเขา “รู้สึกว่าเจ็บท้อง ไม่ค่อยสบาย ก็เลยรีบมาโรงพยาบาล”
ขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น ด้านนอกห้องผู้ป่วยมีเสียงโกลาหลดังขึ้น
“คุณผู้ชาย คุณจะเข้าไปไม่ได้นะ”
“หลีกไป ให้ผมเข้าไป”
“คุณผู้ชาย…..”
เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย ใบหน้าลั่วมั่นก็ตกใจชะงักขึ้น
คนข้างนอกไม่สามารถขัดขวางไว้ได้ เฟิงเฉินบุกเข้ามาแล้ว เมื่อเข้ามาแววตาก็พุ่งตรงมาที่ตัวลั่วมั่น จากนั้นเดินเข้ามาที่เตียงของเธอโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความเป็นห่วง “ลั่วมั่น คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม”
ลั่วมั่นขมวดคิ้วขึ้น “ฉันไม่เป็นไร คุณมาได้ไง”
“ผมได้ข่าวว่าคุณนอนโรงพยาบาลจึงได้รีบมา” เฟิงเฉินกุมมือของเธอไว้ ด้วยสีหน้าที่กังวล “เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
“ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ” ลั่วมั่นเบือนสายตาไปมองเตียงที่อยู่ข้างๆ และดึงมือตัวเองออกมาจากมือเฟิงเฉินด้วยใบหน้าที่เย็นชา “ฉันบอกแล้วว่าพวกเราไม่มีอะไรข้องเกี่ยวกันอีก และคุณก็ไม่ต้องมาหาฉันแล้วด้วย”
“ลั่วมั่น ผมมีเรื่องที่ต้องการคุยกับคุณ” เฟิงเฉินเหลือบมองซือโม่อย่างเยือกเย็นแวบหนึ่ง “รบกวนคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปก่อน”
“เฟิงเฉิน มีอะไรที่ไม่สามารถพูดต่อหน้าคนอื่นได้ ถ้าหากคุณไม่อยากพูดก็ไปซะ ที่นี่คนที่ไม่เกี่ยวข้องก็มีเพียงคุณคนเดียวเท่านั้น”
คำพูดของลั่วมั่นช่างเย็นชาไร้เยื่อใย ใบหน้าของเฟิงเฉินขาวซีดขึ้น แต่กลับไม่ได้ตอบโต้ เพียงเงียบไปชั่วครู่ จากนั้นก็นำเอกสารที่นำมาด้วยออกมา
“ผมได้นำเอกสารใบหย่าที่ทำขึ้นมาใหม่มาด้วย แต่ว่ามันพัวพันกับการแบ่งทรัพย์สินของตระกูลเฟิง ผมมีคำพูดบางอย่างที่ต้องคุยกับคุณตามลำพัง คุณซืออยู่ด้วยจะไม่สะดวก”
เห็นได้ชัดว่าคำพูดนี้ตั้งใจพูดให้ซือโม่ฟัง
“ได้ ผมออกไป ลั่วมั่น คุณค่อยๆคุยกับเขาแล้วกัน เรื่องหย่าก็ควรจะจัดการสะสางกันให้เสร็จเนิ่นๆได้แล้ว”
เมื่อพูดจบ ซือโม่ก็ลุกออกจากเก้าอี้ ก่อนออกไปได้กำชับว่า “ถ้าหากมีเรื่องอะไรก็เรียกผมได้เลย ผมอยู่ที่นอกประตู”
ลั่วมั่นพยักหน้า
‘เอี๊ยด’ เสียงปิดประตูดังขึ้น ในห้องผู้ป่วยก็กลับสู่ความเงียบ
เมื่อแน่ใจว่าที่ประตูไม่มีคนแล้ว เฟิงเฉินจึงได้พูดขึ้นอย่างเคร่งขรึม
“ลั่วมั่น เรื่องที่คุณจู่ๆมานอนที่โรงพยาบาลมันเกี่ยวข้องกับซือโม่ ดังนั้นคุณต้องไปกับผม”
“คุณคิดมากไปแล้ว ฉันอยู่สุขสบายดีมาก”
“เขาวางยาคุณ” เฟิงเฉินคิ้วขมวดขึ้น“ผมให้คนไปถามนักโภชนาการที่รับผิดชอบดูแลอาหารการกินของคุณแล้ว ซือโม่สั่งให้เขาใส่ยาทำแท้งในอาหารของคุณ เขาคิดไม่ดีต่อลูกของเรา”
“ฉันบอกแล้วว่าคุณนั้นคิดมากไป”
ลั่วมั่นกัดฟันแล้วพูดอย่างเย็นชา “ฉันเป็นคนกินยาเข้าไปเอง ฉันไม่ต้องการลูกคนนี้อีกแล้ว”
“คุณพูดว่าอะไรนะ” เฟิงเฉินสีหน้าหมองเศร้าขึ้น แล้วจับข้อมือของเธอขึ้น “คุณรู้ไหมว่ากำลังพูดอะไรออกมา”
“ฉันรู้” ลั่วมั่นค่อยๆเงยหน้าขึ้น ใบหน้าที่ไม่มีเยื่อใยอาลัยต่อเขาสักนิดเดียว
“พวกเราจบกันแล้ว เฟิงเฉิน เก็บลูกของคุณกับฉันคนนี้ไว้ก็เป็นมารหัวขน ฉันไม่อยากได้อีกแล้ว เพราะฉะนั้นฉันก็เลยกินยา แต่ว่าเขาดวงแข็งรอดมาได้ ส่วนฉันตอนนี้ก็รู้สึกเสียใจ ฉันรู้สึกว่าเก็บเขาไว้ก็ดีเหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้คุณได้ส่งข้อความมาบอกฉันไม่ใช่เหรอ ว่าคุณจะโอนทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลเฟิงไปยังชื่อของเขา”