ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 317
“ลั่วมั่น” เฟิงเฉินตะคอกขึ้นที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ
“ทำไม ทำไมต้องใช้สายตาแบบนี้มองฉัน” ลั่วมั่นที่ใบหน้าเยือกเย็น “รู้สึกเสียใจแล้วใช่ไหม”
“คุณก็รู้ว่าผมไม่สนเรื่องพวกนี้ และก็ไม่เชื่อคำที่คุณพูดในตอนนี้ด้วย” เฟิงเฉินจับมือเธอแรงขึ้นจนแทบจะบีบให้กระดูกแหลก “คุณต้องการอะไรผมก็สามารถให้คุณได้ แต่ผมขอให้คุณกลับมาหาผม มาอยู่ข้างกายผม ไม่ต้องปิดบังผมเพื่อแอบสืบอะไรอีก”
“ฉันจะปิดบังคุณแอบสืบอะไรได้” ลั่วมั่นใบหน้าที่อดกลั้น ต่อให้ข้อมือจะเจ็บทะลุหัวใจ ก็ไม่ยอมเปล่งเสียงใดๆ “ตอนนี้ฉันมีชีวิตที่สบายดี รบกวนคุณได้โปรดอย่ามารบกวนฉันอีก ปล่อยมือ”
“ซือโม่นั้นไม่ได้ดีกับคุณจริงๆ”
เฟิงเฉินถูกกระตุ้นต่อมโกรธ ใบหน้าจึงลุกดังเปลวไฟ “เขาดีกับคุณก็เพราะคุณมีหน้าตาเหมือนกับผู้หญิงที่ชื่อจู้ซิน คุณกำลังจะทำอะไรกันแน่ ลั่วมั่น”
“คุณพูดว่าอะไร”
ลั่วมั่นสีหน้าตกใจ หางตาชำเลืองไปมองที่ประตูห้องผู้ป่วย แล้วขรึมขึ้น
“หลายปีที่เขาคอยปกป้องคุณ ก็เพราะคุณนั้นมีหน้าตาเหมือนกับผู้หญิงที่ชื่อจู้ซิน ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับคุณเลย ลั่วมั่นคุณต้องไปกับผม”
“คุณ…..คุณปล่อยฉันนะ”
ลั่วมั่นดึงสติคืนจากความ‘ตกใจ’ ในแววตาเห็นร่างรางๆเคลื่อนไหวที่ประตู จึงได้ง้างมือขึ้นทันที ‘เพี๊ยะ’เสียงกระทบลงที่ใบหน้าของเฟิงเฉิน จากนั้นพูดขึ้นด้วยท่าทางแข็งนอกแต่อ่อนใน
“คุณออกไปซะ”
“ลั่วมั่น คุณเป็นอะไรไป” เวลานี้ที่ประตูห้องผู้ป่วยก็ถูกผลักออก ซือโม่รีบเข้ามา จ้องมองเฟิงเฉินด้วยใบหน้าสุดเย็นชาเยือกเย็น “คุณกำลังทำอะไร”
ใบหน้าของเฟิงเฉินที่สักพักก็ปรากฏรอยฝ่ามือแดงๆขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่เขากลับไม่สนใจ แล้วจ้องเขม็งซือโม่อย่างเย็บเยียบ “วันนี้ผมจะพาเธอไป”
“เรื่องที่มั่นมั่นไม่อยากทำ ใครก็ไม่สามารถบังคับฝืนเธอได้” สีหน้าของซือโม่ก็เคร่งขรึมขึ้น กวักมือเรียกบอดี้การ์ดสองคนที่อยู่นอกประตูเข้ามา
เฟิงเฉินยิ้มแสยะขึ้น “เป็นมั่นมั่นหรือซินซิน ในใจของคุณแยกแยะออกได้จริงหรือ ซือโม่คุณสามารถหลอกตัวเองได้ แต่อย่าลากผู้บริสุทธิ์เข้าไปเกี่ยวข้อง ลั่วมั่นก็คือลั่วมั่น ไม่ใช่ซินซินอะไรของคุณนั่น”
ได้ยินดังนั้น แววตาของซือโม่ก็ขรึมดุดันขึ้น แล้วสะบัดมือ
“นำตัวเขาออกไป”
บอดี้การ์ดสองคนที่อยู่ด้านหลังจึงได้ลงมือ ลากตัวเฟิงเฉินออกไปจากห้องผู้ป่วย
ด้านนอกประตูห้องผู้ป่วยมีเสียงตุ๊บๆตั๊บๆดังขึ้น ชายหนุ่มที่ถูกล็อกตัวจับมือไขว้หลังไว้ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด ลั่วมั่นได้ยินแล้วถึงกับหัวใจเต้นกระตุก กำผ้าห่มแน่นอย่างไม่รู้ตัว
“มั่นมั่น ไม่เป็นไรแล้วนะ” ซือโม่นั่งลงข้างเตียง แล้วปัดปอยผมที่หน้าผากของเธอออก “ไม่ต้องเป็นห่วง พวกเขาลงมือไม่หนักหรอก เพียงแค่สั่งสอนเท่านั้น เพราะถึงอย่างไรเขาก็เป็นถึงประธานบริษัทH.Y. เรื่องหน้าตาเกียรติยศยังคงต้องเหลือไว้ให้เขา”
“ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับฉัน” ลั่วมั่นเบือนหน้าหนีด้วยใบหน้าที่ไร้เยื่อใย “ฉันได้จบกับเขาแล้ว”
“เหรอ” ซือโม่ครุ่นคิดครู่หนึ่ง “คุณเชื่อคำพูดที่เขาบอกกับคุณเมื่อสักครู่ไหม”
ลั่วมั่นคาดไม่ถึงว่าซือโม่จะพูดเรื่องนี้ขึ้นมาตรงๆ จึงชะงักอยู่สักพัก
“พี่หมายถึงจู้ซินเหรอ”
“อืม”
ลั่วมั่นเม้มปากแล้วพูดขึ้น “ตั้งแต่อายุสิบห้าปี ฉันก็จากเมืองเจียงไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา ระหว่างนั้นก็ได้พี่ที่คอยดูแล สำหรับฉันแล้ว พี่ก็เหมือนพี่ชาย เหมือนคนในครอบครัว ไม่ว่าพี่จะดีกับฉันด้วยเหตุผลใด ดีก็คือดี ใครถูกใครดีต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ”
ซือโม่สีหน้าอุ่นใจขึ้น แต่ก็กะพริบตาขึ้น
“ดูเหมือนคุณจะไม่ประหลาดใจเลย”
“วันนั้นฉันได้เห็นรูปถ่ายของเธอในคอมพิวเตอร์แล้ว”
ลั่วมั่นขมวดคิ้ว “ขออภัยที่ไม่ได้บอกพี่ในตอนนั้น ตอนแรกฉันคิดว่าผู้หญิงคนนั้นคือฉัน แต่ต่อมาคิดๆดูแล้วก็รู้สึกว่าไม่ใช่”
ชายหาดแบบนั้นเธอก็เคยไป และก็เคยถ่ายภาพแบบนั้นด้วย วันนั้นตอนที่เห็นภาพจากพื้นหลังในหน้าจอคอมพิวเตอร์นั้น เธอก็คิดว่าเป็นตัวเองจริงๆ และก็ไม่ได้รู้สึกสงสัยว่าไม่ใช่ตัวเอง จนกระทั่งเมื่อสักครู่ที่เฟิงเฉินเอ่ยชื่อจู้ซินขึ้น