ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 39
บทที่ 39 ตบหน้ามาอย่างรวดเร็ว
ก่อนอาหารเย็น เสียงเครื่องยนต์ในสวนดังขึ้น จากที่แม่บ้านหลีรู้ว่าเฟิงเฉินพาหลัวแมนจีออกไปข้างนอก ประมาณว่าไปพบโปรดิวเซอร์ที่หลัวแมนจีกล่าวไว้ก่อนหน้านี้
แม่บ้านหลีอธิบายว่า “คุณชายเฟิงดูแลผู้หญิงคนนั้นก็เพราะเรื่องงานเท่านั้น ผู้หญิงแบบนั้นไม่ว่ายังไงก็ไม่เหมาะสม คุณนายอย่าได้สนใจ กินเยอะๆ สองวันมานี้ดูผอมไปนะค่ะ”
เมื่อก่อนแม่บ้านหลีเป็นคนข้างกายของลู่จิ่งจูแม่ของเฟิงเฉิน นิสัยคล้ายกับลู่จิ่งจู ถึงได้ดูถูกครอบครัวหลัวแมนจีอย่างนั้น
สีหน้าลั่วมั่นนิ่งเฉย แต่ในใจกลับรู้สึกขมขื่นอย่างมาก กินข้าวไปได้สองคำผลักชามออกไป กินไม่ลงอีก
ตกกลางคืน ฝันแปลกประหลาด ฝันถึงภาพเหตุการณ์เมื่อสามปีก่อน ฝันไปฝันมาทำให้เหงื่อแตกพลัก
เช้าวันรุ่งขึ้น ลั่วมั่นออกไปทำงานแต่เช้าตรู่ แต่กลับพบเฟิงเฉินที่ไม่ได้กลับบ้านทั้งคืนมาอยู่ในที่จอดรถ
อารมณ์ยังดูปกติ
คิดถึงเขาที่ไม่กลับบ้าน ลั่วมั่นรู้สึกตื่นเต้น จนเล็บจิกเข้าไปในฝ่ามือ ความรู้สึกเจ็บปวดที่เกิดขึ้นทำให้เธอต้องบังคับกักเก็บความเงียบสงบไว้
“ประธานลั่วทำไมถึงมาทำงานแต่เช้า?”
เฟิงเฉินเริ่มกล่าวทักทายก่อน ซึ่งก็มีคำพูดติดตลกอยู่บ้าง “เรื่องเซ็นสัญญาคุณจะอธิบายกับแผนกว่าอย่างไร?”
ลั่วมั่นสงบนิ่งมาก
“แน่นอนควรจะอธิบายอย่างไรก็อย่างนั้น”
เฟิงเฉินยื่นกดลิฟต์ พูดแบบลอยๆ “คนที่อยู่ในตำแหน่งสูงแต่ไม่ทำงานเลยมีเยอะ ไม่เห็นมีใครจะต้องมานั่งอธิบายอะไรให้ผู้ใต้บังคับบัญชาฟัง”
ลั่วมั่นตะลึงเล็กน้อย มือกำกระเป๋าที่เอามาด้วยจนแน่น กำลังคิดจะถามอะไรมากมาย มีคนเข้ามาในลิฟต์มากแล้ว ควรทักทายพวกเขาตามลำดับ ไม่ควรพูดคุยอะไรมากมาย
ถึงแผนกขายสินค้า
ส้งชิงหรูเดินออกมาต้อนรับ สายตาของพนักงานในสำนักงานจ้องมองด้วยความ “ปลอบโยน”
“ประธานลั่ว คุณไม่เป็นไรนะ?”
ลั่วมั่นมองไปที่เธอด้วยสายตาตะลึง “ไม่เป็นไร ทำไมรึ?”
ส้งชิงหรูเดินสีหน้าลำบากใจ แต่ยังคงมีน้ำเสียงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
“อย่าเสียใจไปเลย เรื่องประธานหวังฉันเองก็เพิ่งจะรู้เรื่อง ไม่เป็นไร ไม่มีใครเจรจรทำสัญญาสำเร็จเป็นครั้งแรก ฉันจะหาทางแก้ไข”
ภายในสำนักงานเงียบเชียบ แต่ดวงตาอันงดงามตกอยู่ในสายตาลั่วมั่น
ทันใดนั้นมีเสียงของเฟิงเฉินดังกึกก้องขึ้นมาในหู
‘คนอยู่ในตำแหน่งสูงแต่ไม่ทำงานมีมาก ไม่เห็นมีใครจะต้องมานั่งอธิบายอะไรให้ผู้ใต้บังคับบัญชาฟัง’
คิดมาถึงตรงนี้ สีหน้าของลั่วมั่นเปลี่ยนไปเล็กน้อย ตอนที่หันกลับไปมองส้งชิงหรูอีกครั้ง สายตาจมดิ่งลงไป
การพูดคุยเรื่องสัญญากับ บริษัทอู้เหม่ย ไม่ควรให้คนอื่นรู้ แต่เรื่องความล้มเหลวในการเจรจาเรื่องนี้ทั้งในและนอกแผนกใครควรรับผิดชอบ ข้อเท็จจริงปรากฏชัด
เมื่อมองดูใบหน้าของส้งชิงหรูที่เต็มไปด้วย ‘ความกังวล’ ลั่วมั่นจึงหัวเราะและเข้าใจทุกอย่างดี
“รองประธานซ้ง ใครบอกคุณว่าฉันเจรจาไม่สำเร็จ ทำไมคุณยังไม่ได้รับแจ้งข่าวดี”
ในตอนเช้าเธอไปที่โรงพยาบาล หลังจากโดนบังคับข่มขู่ ประธานหวังที่เมื่อได้เจอหน้าเธอด้วยความกลัวจึงหยิบสัญญาของ บริษัทอู้เหม่ยให้
ความราบรื่นในการทำสัญญาต้องยกให้แม่สามีของเธอลู่จิ่งจูที่กล่าวถึง แม้ว่าจะถูกฉีกหน้า ก็ไม่ต้องถือว่าเป็นโชคดีอะไร ที่จริงถูกกดดันอีกก็ถือว่าคุ้มค่า
เมื่อได้เห็นสัญญาที่เซ็นเรียบร้อยแล้ว มีเสียงซุบซิบภายในสำนักงาน
“สัญญาปีก่อนฉันเป็นคนเซ็น ฉันใช้ตรากตรำทำงานอยู่หนึ่งเดือนกับประธานหวัง…..”
“…….”
ลั่วมั่นมองไปรอบๆ ส่งเสียงสูงเล็กน้อยเหมือนเสียงนกร้อง
“ดังนั้นเพื่อเป็นการฉลองความราบรื่นในการเซ็นสัญญาครั้งนี้ เลิกงานคืนนี้ฉันขอเชิญทุกคนกินข้าว ทุกคนอยากกินอะไร สามารถคิดไว้ก่อนล่วงหน้าได้เลย”