ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 47
บทที่ 47 ฉันไม่ชอบเหลือทางไว้แก้ปัญหา
เมื่อเผชิญหน้ากับเวินน๋อนใกล้ๆ อย่างฉับพลัน เฟิงเฉินอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว แม้ว่าเมื่อก่อนเขาจะไม่ได้ผล่ะออกจากเธอโดยตรง แต่ก็รู้สึกไม่สบายใจ
หลังจากที่เธอทักทาย เขาก็รู้สึกอย่างลึกลับว่ามีสายตาจ้องมองเขาจากด้านหลัง ถึงได้สะบัดมือของเวินน๋อนออกจากลำคอตัวเอง ด้วยท่าทางห่างเหิน
“ไม่เป็นอะไรหรอกครับ แค่บาดแผลเล็กน้อย”
เมื่อหันกลับไป ก็ไม่เห็นร่างที่คิดไว้ มีเพียงพยาบาลและผู้ป่วยเดินไปเดินมา ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่กลับมา
เขาเหลือบดูที่ข้อมือ รู้สึกงงงวยเล็กน้อย
ถังขยะก็อยู่ที่สุดปลายทางเดินไม่ใช่เหรอ?
“เวินน๋อนผมยังมีธุระต่อ ขอตัวก่อนนะครับ” เฟิงเฉินยกคิ้วขึ้น และตัดสินใจจบคำทักทาย
เวินน๋อนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ในใจดูเหมือนว่าอยากจะพูดอะไรอีก ปลายสายตาเหลือบไปด้านหน้า เห็นร่างที่คุ้นเคย เป็นคุณหมอประจำตัวเธอ และคุณหมอก็เห็นเธอ ก่อนทำท่าทางทักทาย
หัวใจของเธอบีบแน่น และพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
“งั้นไว้เจอกันใหม่คราวหน้านะคะ”
เมื่อพูดจบ ก็เดินตรงไปทางที่คุณหมอประจำตัวเธอ เดินไปด้วยและภาวนาให้เฟิงเฉินไม่ต้องตามมา
เฟิงเฉินไม่ได้มีความคิดนี้ เขาโล่งใจพร้อมกับมองหาลั่วมั่น เพียงก้าวมาเขาก็เห็นลั่วมั่นออกมาจากมุมทางเดิน ท่าทางเหมือนว่าเพิ่งกลับมา
“ทำไมถึงไปนานขนาดนั้น?”
“อ่อ ฉันหาไม่เจอหน่ะ เลยใช้เวลานาน” เธอก้มหัวลงแล้วปรับสายข้อมือ สีหน้าราบเรียบ
เฟิงเฉินก็ไม่ได้ถามรายละเอียด และกดลิฟต์อีกครั้ง “เลยเวลามามากแล้ว จะกลับไปที่บริษัทหรือว่าทานอาหารก่อน?”
ลั่วมั่นเม้มริมฝีปาก
“กลับไปที่บริษัทค่ะ” เธอพูดขึ้นตัดบท นัยน์ตายากที่จะเข้าใจ
เฟิงเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย และกลืนคำพูดที่ว่า “มีร้านอาหารดีๆ อยู่ใกล้ๆ นี้”
ตลอดทางบรรยากาศในรถนั้นดูอึมครึมอย่างลึกลับ
“ถ้าคุณรู้สึกว่ามีเวลาไม่เพียงพอสำหรับการทำแบบแผน ผมสามารถเพิ่มให้คุณได้อีกสองวัน”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
ลั่วมั่นกำนิ้วมือ นิ้วมือในฝ่ามือของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง
เฟิงเฉินขมวดคิ้ว จ้องที่เธอ และพูดเตือน
“มีความมั่นใจเป็นสิ่งที่ดี แต่การเหลือทางไว้แก้ปัญหาก็เป็นวิธีที่เขาทำกัน”
“ฉันไม่ชอบเหลือทางไว้แก้ปัญหา” ลั่วมั่นเงยหน้าขึ้นและจ้องที่เฟิงเฉิน
โดยเฉพาะเรื่องของความรู้สึก
ท่าทางของลั่วมั่นเปลี่ยนไปอย่างน่าประหลาดเกินไป และคำพูดนั้นก็แปลก
หรือว่าเธอเห็นเวินน๋อน?
เฟิงเฉินมองเธออย่างสงสัย และไตร่ตรองอยู่สักครู่ แล้วถามว่า “เมื่อครู่คุณเห็นอะไรรึเปล่า?”
“อะไรนะคะ?” ลั่วมั่นมองเขาอย่างสบายๆ “ฉันควรเห็นอะไรเหรอคะ?”
เฟิงเฉินรู้สึกว่าคิ้วของเขากระตุก และปฏิเสธมัน
“ไม่มีอะไร แค่ถามไปเรื่อยเปื่อย”
ความเงียบปกคลุมในรถอีกครั้ง
เฟิงเฉินจับพวงมาลัยแน่น นัยน์ตาฉายภาพเมื่อ 3 ปีก่อน คืนฝนตกที่เวินน๋อนไปต่างประเทศ ในหูเหมือนยังมีเสียงของเด็กผู้หญิงดังก้องอยู่ข้างใน
“ไม่ว่าพ่อและแม่จะปิดกั้นอย่างไร ถ้าเป็นคนที่เขาชอบ ต่อให้ทั้งโลกจะต่อต้านก็ไร้ประโยชน์ ของของเขายังไงก็เป็นของของเขา! ถึงจะแย่งมาก็เป็นของของเขา!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็มีความอบอุ่นในดวงตา และหัวเราะเบาๆ
ภายในรถที่เงียบมาโดยตลอด เมื่อมีเสียงหัวเราะเบาๆ ก็ได้ยินอย่างชัดเจน กระทบเข้ามาในหูของลั่วมั่น เธอชะงักอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่ใบหน้าของเธอจะเปลี่ยนเป็นเยาะเย้ย
คนที่อยู่ในใจของเขาคงไม่ใช่ผู้หญิงที่อ่อนหวาน หลังจากเมื่อสามปีก่อน หัวใจของเขาก็ได้เปลี่ยนไปแล้ว เมื่อพูดถึงปลายทางของตัวเอง ก็แค่จัดอยู่ในอันดับเท่านั้น
ถ้าผู้หญิงคนนั้นกลับมาจริงๆ ความมั่นใจเริ่มแรกก็ควรกำจัดให้หมดไป!