ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 51
บทที่ 51 ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่
ลั่วมั่นสัมผัสใบหน้าของตัวเอง พยายามควบคุมน้ำเสียงตัวเองไม่ให้สั่น
“ค่ะ”
จิตใจที่ยุ่งเหยิงโดยไม่มีเวลาพิจารณาว่าทำไมเฟิงเฉินถึงรู้ดีเกี่ยวกับการซ่อมแซมวงจรไฟฟ้าของบริษัท เธอก็รีบเก็บของอย่างรวดเร็ว และเดินออกจากห้องทำงาน
“ชั้นล่างมียามรักษาความปลอดภัย ปลอดภัยอยู่แล้วค่ะ”
ในระหว่างที่พูด ลั่วมั่นก็กดปุ่มลิฟต์
“คุณคิดว่าลิฟต์จะทำงานในตอนที่ไฟดับเหรอ?”
เสียงที่คุ้นเคยดังมาจากด้านหลัง ลั่วมั่นหันกลับมาด้วยความประหลาดใจ มองไปที่คนเดินเข้ามา
ร่างสูงเดินออกมาจากบันไดด้านหลัง ร่างสูงออกมาจากในความมืด แสงบนหน้าจอของโทรศัพท์มือถือส่องสว่างครึ่งใบหน้าของเขา ร่างนั้นดูอบอุ่นขึ้นมา
ลั่วมั่นจ้องมองไปที่เฟิงเฉิน และพูดอย่างติดๆ ขัดๆ
“คุณ……ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่?”
การแสดงออกของเฟิงเฉินนั้นเรียบง่าย “บริษัทของผม มันแปลกเหรอที่ผมอยู่ที่นี่?”
ไม่แปลกหรอก มันแปลกที่ว่านี่มันเวลาไหนแล้ว?
คงไม่ใช่เพราะรอเธอหรอกนะ?
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ลั่วมั่นก็นิ่งเงียบครู่หนึ่ง ร่างกายดูเหมือนจะอบอุ่น แต่ก็กลัวที่จะผิดหวัง ถึงไม่กล้าถามออกไป
“ลงบันได” เสียงเย็นๆ ดังเข้ามาในหู อยู่ที่หน้าลิฟต์
เธอได้สติขึ้นมา และพยักหน้าเบาๆ เดินตามเฟิงเฉินไป
บันไดนั้นมืดมาก ลั่วมั่นเดินไปไม่ถึงสองก้าวก็สะดุดเล็กน้อย อุทานอย่างตกใจ ร่างที่อยู่ด้านข้างเข้ามาใกล้ และจับข้อมือเธอ พูดเสียงเบาๆ อยู่บนหัวของเธอ
“ระวังหน่อย”
มือเล็กที่ถูกยึดไว้ เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่แพร่กระจายไปทั่วร่างกายอย่างรวดเร็ว
ลั่วมั่นพยักหน้าก่อน แต่ในไม่ช้าก็รู้ว่าเขามองไม่เห็น ดังนั้นจึงพูดกลับไป
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ”
ในความมืด เฟิงเฉินขมวดคิ้ว คำสองคำนี้เขาไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่
“ไปกันเถอะ”
เขาจับข้อมือของลั่วมั่นลงไปที่ชั้นล่าง และเดินไปที่โรงจอดรถชั้นหนึ่ง
ที่โรงจอดรถมืดสนิทเช่นกัน
“ฉันขอเปิดแสงในโทรศัพท์มือถือก่อนค่ะ” แขนของลั่วมั่นใช้แรงดึงอย่างไม่รู้ตัว
ขณะที่ข้อมือกำลังจะผละออกจากเฟิงเฉิน ก็ถูกกุมแน่นกว่าเดิม
ลั่วมั่นเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความประหลาดใจ
“ไม่ต้อง”
เมื่อพูดจบ เฟิงเฉินก็เปิดไฟฉายจากมือถือของเขาด้วยมืออีกข้างหนึ่ง แสงสีขาวส่องสว่างไปที่ถนนข้างหน้า เดินผ่านที่จอดรถ เดินวนอยู่นาน
ที่จอดรถนั้นว่างเปล่า เสียงฝีเท้าดังก้องตลอดเวลา มีเสียงแปลกๆ ดังเข้ามาในหู
ลั่วมั่นสั่นไหวในหัวใจ และเข้าใกล้เฟิงเฉินมากกว่าเดิม จนร่างเกือบครึ่งหนึ่งติดอยู่กับแขนของเขา และค่อยๆ เดินตามรอยเท้าของเขา
ความร้านบนแขนของเขาดูเหมือนจะขึ้นไปบนใบหน้าของเฟิงเฉิน อยู่ๆ นัยน์ตาก็อบอุ่น
“ทำไมถึงยังไม่ถึงอีกคะ?” เธอกระซิบ
“ใกล้แล้ว”.
เฟิงเฉินจ้องมองไปที่รถสีเทาเงินซึ่งอยู่ไม่ไกล และแสงในมือของเขาก็เปลี่ยนทิศทาง และส่องไปอีกด้านหนึ่ง
“ทางนี้”
เกือบครึ่งชั่วโมงในโรงจอดรถ ในที่สุดก็พบที่จอดรถ
ลั่วมั่นปล่อยแขนของเฟิงเฉิน และดึงประตูรถอย่างรวดเร็ว กำเข็มขัดนิรภัยและสูดลมหายใจยาวๆ
เมื่ออยู่ในโรงจอดรถที่มืดมิดมาเป็นเวลานาน ดูเหมือนกับถูกผีหลอกอย่างไรอย่างนั้น แต่ก็ไม่กล้าพูดกับเฟิงเฉิน ว่ามันน่ากลัวเกินไป
ดวงตาของเฟิงเฉินมองไปเล็กน้อย บนใบหน้าดูเหมือนจะไม่พอใจ แต่เขาไม่ได้เปิดเผยอะไร และเริ่มถอยรถอย่างช้าๆ ในความมืดนั้น
โคมไฟบนถนนของเมืองเจียง ในตอนกลางคืนเป็นภาพสะท้อนของความเจริญรุ่งเรืองของเมือง สายลมยามค่ำคืนพัดผ่านหน้าต่าง กระทบกับคนที่อยู่ในรถ
บรรยากาศภายในรถนั้น มีความลึกซึ้ง
ลั่วมั่นไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ก็เลยนำเอกสารออกมาจากกระเป๋าเพื่อดู
ตาของเฟิงเฉินกวาดไปที่บนตกของลั่วมั่น และเห็นชื่อของเล่อสวี้ ดวงตาของเขาครุ่นคิดเล็กน้อย
หลังจากไตร่ตรองสักครู่ เขาก็พูดขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ
“แบบแผนคืบหน้าบ้างรึยัง?”