ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 52
บทที่ 52 คุณจะให้ผมกินอันนี้เหรอ
“ค่ะ” ลั่วมั่นไม่สามารถปกปิดเสียงที่น่ายินดี “ฉันพบทองคำชิ้นหนึ่งแล้ว”
เฟิงเฉินยกมุมปากของเขา
“เล่อสวี้?”
“คุณรู้จักเหรอคะ?” ลั่วมั่นมองดูเขาด้วยความงุนงง “คุณรู้จักเล่อสวี้ด้วยเหรอคะ?”
แน่นอนว่ารู้ ก็เป็นคนที่ผมส่งไปให้คุณไง
เฟิงเฉินหัวเราะเบาๆ อย่างพึงพอใจ แต่กลับพูดเสียงเรียบๆ
“ถ้าใช้ถูกก็เป็นทองคำ แต่ถ้าใช้ไม่ถูกก็เป็นก้อนหิน”
ลั่วมั่นแก้ต่าง
“ความสามารถของเธอดีมาก โครงการหลานกวงเป็นแบบแผนการขายที่โดดเด่นที่สุดของบริษัทH.Y.”
“โครงการหลานกวงนั้นดี แต่คุณรู้ไหมว่าทำไมประสิทธิภาพการทำงานของเธอถึงลดลงหลังโครงการหลานกวง? สองปีเต็ม ประสิทธิภาพการทำงานของเล่อสวี้อยู่ต่ำสุดของแผนก และเดือนนี้ เธอก็ยังอยู่ในรายชื่อปลดพนักงานอีก”
ลั่วมั่นพูดไม่ออก
เธอวิเคราะห์อยู่เหมือนกัน ว่าในช่วงสองปีที่ผ่านมา ประสิทธิภาพการทำงานของเล่อสวี้ไม่มีอะไรที่โดดเด่นเลย เหมือนกับอยู่ที่แผนกไปวันๆ ถ้าไม่มีผู้อำนวยการแผนกที่เป็นรุ่นพี่จากโรงเรียนเดียวกัน ก็สงสัยว่าเธอคงไม่ได้อยู่ในบริษัทได้นานขนาดนี้โดยไม่ทำอะไรเลย
การตรวจสอบบุคลากรของบริษัทH.Y.นั้นเข้มงวดมาก และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสนับสนุนคนขี้เกียจ
“ทำไมเหรอคะ?”
“อยากรู้เหรอ?” มุมปากของเฟิงเฉินยิ้มขึ้น
ทุกครั้งที่เฟิงเฉินทำหน้าตาแบบนี้ ถ้ามีหลุมอยู่ ลั่วมั่นก็รู้สึกอยากจะกระโดดลงไป แม้ว่าเธอจะกระโดดไปแล้วหลายครั้ง แต่ครั้งนี้จะต้องฉลาดขึ้นมาหน่อย และถามกลับว่า
“ดูแล้วประธานเฟิงรู้เกี่ยวกับข้อมูลของพนักงานฝ่ายขายของบริษัทมากจังเลยนะคะ?”
เฟิงเฉินโต้กลับ
“ถ้าคุณมั่นใจและสามารถเอาข้อมูลเกี่ยวกับ เล่อสวี้จาก จ้าวเฟิง ได้ และยังหาข้อมูลของคนทั้งบริษัทได้ คุณก็คงไม่ต้องหาวิธีที่จะให้เล่อสวี้ช่วยคุณหรอก”
เมื่อได้ยินอย่างนี้ ลั่วมั่นก็หัวเราะออกมา
เธอรู้ว่าเฟิงเฉินไม่ได้พูดเล่น
ข้อมูลของเล่อสวี้นั้นแปลกจริงๆ คนคนหนึ่งจะละทิ้งอนาคตอันยิ่งใหญ่โดยไม่มีเหตุผล และกลายเป็นคนธรรมดาในชั่วข้ามคืนได้อย่างไร จะต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ
เธอจ้องมาที่เขาอย่างระแวดระวัง
“คุณรู้จริงๆ เหรอคะ?”
เฟิงเฉินไม่ตอบ
ลั่วมั่นเปลี่ยนคำถาม “จะต้องทำยังไงคุณถึงจะบอกฉัน?”
เฟิงเฉินมองไปที่เธอ และพูดออกมาสามคำอย่างใจเย็น
“ผมหิวแล้ว”
สิบนาทีต่อมา รถที่มีมูลค่ากว่าหลายล้านจอดลงที่ข้างถนน ลั่วมั่นเดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อ ถือกล่องโอเด้งส่งให้เฟิงเฉิน
เฟิงเฉินอ้าปากเล็กน้อยอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“คุณจะให้ผมกินอันนี้เหรอ?”
“เวลานี้แล้ว นอกจากอาหารริมถนนนี้ ร้านอาหารก็ปิดหมดแล้วค่ะ” ลั่วมั่นรู้สึกผิดเล็กน้อย
เฟิงเฉินยังอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเห็นความรู้สึกผิดเล็กน้อยในสายตาของเธอ ก็เปลี่ยนคำพูด และถามกลับไป
“คุณกินบ่อยเหรอ?”
เธอเป็นลูกผู้หญิงคนโตของบริษัทลั่วซื่อและหลังแต่งงานกับเขา ก็มีของหรูหรามากมายนับไม่ถ้วน ดูยังไงก็ไม่เหมือนคนที่ชอบอาหารริมถนน
ลั่วมั่นส่ายหัวอย่างเชื่องช้า “เมื่อตอนยังเด็ก ฉันเคยอยากกินค่ะ แต่พ่อและแม่บอกว่ามันไม่สะอาด”
พ่อและแม่ของเธอดูแลเกี่ยวกับการกินของเธอ กลัวว่าเธอจะกินอะไรผิดไป หลังจากนั้นเธอก็เรียนที่ต่างประเทศทั้งตอนมัธยมและวิทยาลัย ในต่างประเทศไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็น อย่าพูดถึงจะกินเลย หลังจากกลับมา ในแวดวงเพื่อนๆ ก็ไม่มีใครสนใจสิ่งเหล่านี้ เธอก็ไม่เคยมีโอกาสลอง แต่ก็อยากรู้มาโดยตลอด
สภาพแวดล้อมการเติบโตของเฟิงเฉินและเธอไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ในตอนที่เธอจ่ายเงินก็เห็นหม้อโอเด้ง และเธอก็สงสัยว่าเขาจะสนใจอาหารแบบนี้เหมือนเธอรึเปล่า เธอเลยซื้อมา
เมื่อได้ยินคำว่า “ไม่สะอาด” สามคำนี้ ใบหน้าของเฟิงเฉินก็แข็งชะงัก
“คุณก็รู้ว่าไม่สะอาด แต่ก็ส่งให้ผมกินเหรอ?