ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 82
บทที่ 82 มีสิทธิ์อะไรมากล่าวโทษฉัน
ลั่วมั่นสลัดมือหนาออกอย่างรังเกียจ
พ่อบ้านที่นั่งอยู่อีกด้านเด้งลุกขึ้น ก่อนโบกมือให้กับบอดี้การ์ดสองคนข้างหลัง ให้ยืนขั้นกลางระหว่างทั้งคู่
“ไสหัวออกไป” เฟิงเฉินนิ่งขรึม ชายหนุ่มเหวี่ยงหมัดออกไป บอดี้การ์ดหนึ่งในนั้นพุ่งชนเข้ากับโต๊ะด้านขวา กวาดอาหารบนโต๊ะของหญิงสาวและชายหนุ่มที่กำลังจัดปาร์ตี้ให้เปิดออกเป็นทาง “เพ้ง” เสียงเครื่องเซรามิกและแก้วน้ำตกแตกละเอียดที่พื้น แอลกอฮอล์เละเทะเปรอะเปื้อนไปทั่ว
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่เสียงดนตรีเงียบสงบลง แทนที่ด้วยเสียงโกลาหลและความวุ่นวายในที่เกิดเหตุ
เฟิงเฉินเพ่งสายตาไปที่หญิงสาวที่อยู่ด้านหลังบอดี้การ์ด ก่อนออกคำสั่ง
“ลั่วมั่น กลับไปกับผมเดี๋ยวนี้ ผมจะไม่ถือโทษที่คุณปิดบังผมมาก่อความวุ่นวายในที่แบบนี้ก็ได้”
เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วมั่นหัวเราะออกมาเสียงดัง
“ช่วยอธิบายให้ชัดเจนด้วย ฉันก่อความวุ่นวายยังไง?”
“มาจัดงานวันเกิดในที่แบบนี้ รับของขวัญจากผู้ชายหลายต่อหลายคน เคยนึกถึงสถานะของตัวเองบ้างไหม? นางหญิงเฟิง!”
นางหญิงเฟิง คำส่งท้ายที่เสียงดังชัดเจน ราวกับตั้งใจเตือนอะไรบางอย่างกับเธอ
“ของขวัญเหรอ?” ลั่วมั่นกำหมัดแน่น ก่อนที่จะหยิบกล่องของขวัญบนโต๊ะขึ้นมา พร้อมสวมใส่ต่างหูคู่หนึ่งต่อหน้าเฟิงเฉิน ด้วยสายตาเย็นชา
“ก่อนที่คุณจะมาฉันไม่คิดที่จะรับเอาไว้ แต่ตอนนี้ ฉันเปลี่ยนใจแล้ว”
ทีท่าบีบบังคับทุกวิถีทาง ไร้ทีท่าที่จะอ่อนข้อต่อชายหนุ่มแม้แต่น้อย
สายตาของเฟิงเฉินเต็มไปด้วยไฟโกรธ เขาตวาดกร้าว “ลั่วมั่น เธอกินยาลืมเขย่าขวดใช่ไหม?”
“ฉันกินยาลืมเขย่าขวด?” ความเจ็บปวดฉายแววในดวงตาเธอ เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์เธอจึงตะโกนออกมาด้วยความกล้า “คุณมีสติดีสินะ คุณสติดีแต่กลับพาผู้หญิงเข้าโรงแรม? คุณมีสิทธิ์อะไรที่จะกล่าวโทษฉัน?”
เมื่อได้ยินประโยค เฟิงเฉินนิ่งแข็งไป
เธอรู้เรื่องที่ตนพาเวินน๋อนไปที่โรงแรมได้อย่างไร?
อันดับแรกที่เขานึกถึงคือข้อความของหลัวแมนจี เมื่อนึกขึ้นได้ชายหนุ่มโกรธจนใบหน้าบิดเบี้ยว
เมื่อเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของชายหนุ่ม
ลั่วมั่นรู้สึกขันมากกว่าเก่า เธอหยิบกระเป๋าที่อยู่บนโซฟาขึ้น “คุณเฟิง ฉันไม่มีอารมณ์ที่จะทำอะไรขายขี้หน้าไปพร้อมกับคุณ คุณจะขึ้นโรงแรมกับใครเป็นเรื่องของคุณ แต่หวังว่าวันหลังคุณจะเลิกก้าวก่ายฉัน คุณรู้แก่ใจดี”
เธอทิ้งท้ายประโยคก่อนที่มุ่งไปทางประตูของบาร์ ความมึนเมาและความโกรธทำให้เงาร่างของหญิงสาวดูวู่วามมากกว่าเดิม
พ่อบ้านหนุ่มเร่งฝีเท้าตามออกไปติดๆ
เฟิงเฉินยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม สายตากวาดผ่านก้อนเค้กและของขวัญบนโต๊ะ
ด้วยไฟโกรธที่สุมอยู่กลางอก เรื่องของเวินน๋อนเขาสามารถอธิบายได้ แต่สิ่งของพวกนี้ เธอจะอธิบายกับเขายังไง?
เพื่อนจากที่ไหนที่จะให้ของของมูลค่ามหาศาลเช่นนี้ ถึงขนาดเพียงแค่อารมณ์ไม่ดีเล็กน้อยก็แจ้นมาจัดปาร์ตี้ให้เลยทันที ช่วงนี้ มันมีตัวตนมากเกินไปจนเขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป
บนถนนสายหลักในเมืองเจียง ภายในรถปอร์เช่
“คุณลั่วปวดหัวใช่ไหม เดี๋ยวกินยาสักหน่อยก็หายแล้ว”
พ่อบ้านที่นั่งข้างคนขับรถหันกลับไป พร้อมจับจ้องหญิงสาวที่อยู่เบาะหลังด้วยความห่วงใย
“ทิ้งฉันไว้ที่โรงแรมแถวนี้แหละ” เรื่องราวมากมายตีกันวุ่นไปหมดในหัวของลั่วมั่น ขมับทั้งสองข้างเต้นตุ้บตั้บไม่หยุด ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ หรือเพราะร่างกายที่ร้อนๆหนาวๆ ไม่สบายเอาเสียเลย
พ่อบ้านพยักหน้ารับ “เตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้วครับ”
จบคำ บนถนนดังเอี๊ยดด้วยเสียงเบรกกะทันหัน ทำให้ผู้คนแทบกระเด็นออกจากที่ ลั่วมั่นกระแทกกับเบาะข้างคนขับเข้าให้อย่างจัง เธอหัวหมุนติ้วด้วยความมึน
“เกิดอะไรขึ้น?” พ่อบ้านอุทานขึ้น
“คุณ ดูนั่นสิครับ นี่มัน…..”
ภายนอกกระจกรถ รถหรูเรียงรายกันข้างหน้าเป็นแถวหน้ากระดาน ไฟจากหน้ารถส่องแทงไปที่รถปอร์เช่ แสงไฟที่จ้าจรัสทำให้คนบนรถแหงนหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ