ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 86
บทที่ 86 คือน้ำผลไม้หรือเป็นยาอื่น
เฟิงเฉินนอนไม่หลับเลยทั้งคืน เมื่อแสงแรกของยามเช้าตกกระทบ เขาโน้มลงบรรจงจุมพิตเบาๆบนหน้าผากมนของคนที่อยู่ในอ้อมอก ก่อนที่จะลุกออกจากที่นอนมุ่งไปปิดม่านตรงหน้าต่าง
ภายในความมืดมิด เขายืนอยู่ที่ข้างเตียงอยู่นาน
ลั่วมั่นหลับลึกไม่รู้ความ คิ้วที่อ่อนโยนทั้งสองข้างของเธอในตอนนี้ ไร้ความโอหังของเมื่อคืนแม้สักนิด
เขาอดที่จะคิดไม่ได้ หากเธอเป็นแบบนี้ไปตลอดคงจะดีไม่น้อย
ผ่านไปอยู่นาน กว่าที่เสียงเปิดประตูจะดังขึ้น ภายในห้องนอนกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง
ลั่วมั่นลืมตาขึ้นช้าๆ จับจ้องไปยังประตูที่ไม่ไหวติง
อันที่จริงเธอตื่นตั้งนานแล้ว เธอรู้ว่าเฟิงเฉินจุมพิตตน รู้ว่าเขาเดินไปปิดม่าน รู้ว่าเขาเดินไปเปลี่ยนชุดที่ตู้เสื้อผ้า ตอนเขาออกจากห้องเธอรู้ว่าเขาตั้งใจวางฝีเท้าอย่างแผ่วเบาที่สุด แต่ในใจกลับขมขื่นอย่างบอกไม่ถูก
หลังตื่นจากความมึนเมา ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนลอยเข้ามาเป็นฉากๆอย่างระงับไม่อยู่
สิ่งที่เธอนึกขึ้นได้มีแต่ความเจ็บปวด
ไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นที่ข้างเตียง น้ำเสียงของเล่อสวี้แล่นผ่านมาตามสาย
“ประธานลั่ว โรงแรมที่ซีหลี่เกิดปัญญาใหญ่แล้ว”
ลั่วมั่นทนความเหนื่อยล้า เอ่ยถามออกไปด้วยความอ่อนแรง “มีอะไร?
“เฟอร์นิเจอร์ทางโรงแรมมีปัญญาด้านความปลอดภัย ผู้จัดการทางนี้มีเหตุผลบางอย่างที่ไม่ยอมให้ผมจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น ฉันต้องรบกวนคุณไปดำเนินการที่สำนักงานใหญ่ด้วย ดิฉันต้องการเปลี่ยนผู้จัดการ”
เล่อสวี้รับรู้ถึงความลำบากใจของเธอ จึงเอ่ยเสริม “หากคุณไม่ว่าง ฉันแก้ไขปัญหาเองก็ได้ แต่อาจจะช้าหน่อย”
“ไม่จำเป็น” ลั่วมั่นลุกออกจากเตียง เธอระงับเสียงอันแหบแห้งในลำคอ “ซีหลี่ใช่ไหม? ฉันจะไปด้วยตนเอง”
หลังตัดสายทิ้ง ลั่วมั่นเปลี่ยนชุดที่ห้องแต่งตัวก่อนที่จะเดินลงไปรับประทานอาหารเช้า
สาวใช้กำลังปั่นน้ำผลไม้อยู่อีกทาง เธอกวาดสายตาผ่านสาวใช้ เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของหญิงสาว หัวใจเธอหม่นหมองลงทันที พร้อมนึกย้อนไปยังภาพเหตุการณ์ที่อยู่ในห้องแต่งตัวเมื่อไม่นานมานี้
“คุณผู้หญิง นี่น้ำผลไม้” คนใช้เอ่ยขึ้นอย่างระแวดระวัง
ลั่วมั่นหลุดออกจากภวังค์ เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“เป็นน้ำผลไม้หรือมียาอย่างอื่นอยู่?”
สาวใช้เอ่ยตอบอย่างติดๆขัดๆ “อะ….. ยาอะไร?”
“ฉันไม่เคยกลั่นแกล้งคนใช้”ลั่วมั่นสีหน้าเคร่งขรึม “หากเฟิงเฉินสั่งให้คุณใส่ยาอะไรไม่จำเป็นต้องสร้างสถานการณ์ บอกมาเลยตามตรง”
แม่บ้านหลีที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องครัว เธอนิ่งแข็งไปเช่นเดียวกันเมื่อเห็นสีหน้าที่เขียวปั้ดของลั่วมั่น
นึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน เธอคงอารมณ์ไม่ดี จึงเอ่ยถามด้วยความห่วงใย
“คุณผู้หญิง มีอะไรหรือ? หลิงหลิงขาดตกบกพร้องตรงไหนหรือคะ?”
ลั่วมั่นไม่สบอารมณ์ แม่บ้านหลีเป็นคนของแม่ของเฟิงเฉิน เธออยากได้หลานใจจะขาด หากเธอรู้ว่าเฟิงเฉินสั่งให้สาวใช้บังคับให้เธอดื่มยาขับเลือด คงได้มาถามหาจากเธอแน่ ถึงตอนนั้นเธอคงได้รับศึกรอบด้าน นี่เป็นสาเหตุที่เธอไม่แม้แต่เอ่ยถึงเมื่อเกิดเกตุการณ์นั้นขึ้น
เมื่อเห็นว่าลั่วมั่นเงียบไป แม่บ้านหลีจึงถลึงตาโตใส่คนใช้สาว
“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงได้ทำให้คุณผู้หญิงเสียอารมณ์แต่เช้า เธอไม่อยากทำงานที่นี่ต่อแล้วใช่ไหม?”
ได้ยินประโยค หลิงหลิงฟุบลงคุกเข่ากับพื้นข้างโต๊ะอาหาร ด้วยสีหน้าขาวซีดไร้เลือดฝาด
“พี่หลี ฉันผิดไปแล้ว อย่าได้ไล่ฉันออกเลย”
ทีท่าเช่นนี้ เหมือนคนที่ทำผิดเล็กๆน้อยๆที่ไหนกัน?
สีหน้าของแม่บ้านหลีเปลี่ยนไปทันที
สาวใช้ที่รู้สึกผิด จนไม่สามารถนอนหลับได้เลยสักคืน เมื่อได้ยินคำถามของลั่วมั่น ทำให้เธอตระหนกยิ่งกว่าเก่า เธอสารภาพทุกอย่างออกมา ด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ พร้อมกับน้ำตาที่ไหลเอ่อ
“พี่หลี ฉันไม่ได้บังคับให้คุณผู้หญิงกินยานั่น หลัวแมนจีเธอเป็นคนบังคับฉัน ตอนนั้นเธอได้รับความเอ็นดูมาก เธอบอกว่าหากฉันไม่ยอมเชื่อฟังเธอ เธอจะไล่ฉันออก ถึงตอนนั้นฉันจะเสียงานนี้ไป”