ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 91
บทที่ 91 ไร้ประโยชน์สิ้นดี
ห้องทำงานของท่านประธานบริษัทHYแห่งเมืองเจียง
เฟิงเฉินที่เพิ่งออกจากห้องประชุม เมื่อเห็นสายเรียกเข้าที่ไม่ได้รับหลายสาย เขาขมวดคิ้วอย่างฉงน ก่อนที่จะต่อสายกลับไป
“มีเรื่องอะไร?”
เสียงอันนุ่มนวลแล่นผ่านมาตามสาย “ครั้งก่อนคุณช่วยไปส่งฉันกับเฮ่าเฮ่ากลับโรงแรม ฉันมาคิดดูแล้วควรจะขอบคุณคุณสักหน่อย คุณมีเวลาว่างรึเปล่า คืนนี้ทานอาหารด้วยกันไหม?”
“ไม่เป็นไร ผมผ่านพอดี”
เฟิงเฉินตอบกลับอย่างเรียบเฉยๆ
“คงไม่ดีเท่าไหร่ ยังไงซะฉันก็รบกวนคุณ วันนั้นทำคุณเสียธุระด้วยนี่ใช่ไหม?” คำถามของหญิงสาวซึ่งปะปนไปด้วยการหยั่งเชิง “ฉันรู้สึกผิดจริงๆ คงไม่ได้ทำให้คุณและภรรยามีปากเสียงกันหลอกใช่ไหม?”
เมื่อเอ่ยถึงลั่วมั่น เฟิงเฉินมีทีท่าที่สงบนิ่งไป เขาหยุดชะงักไปครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบคำถาม
“ไม่”
“งั้น…..งั้นก็ดี ใช่สิ คุณจะมีเวลาว่างเมื่อไหร่?”
“รองานในมือของผมเสร็จแล้วกัน” ฟิงเฉินดูเวลา “ช่วงบ่ายผมมีประชุม”
เขาไร้กะจิตกะใจในการรับประทานอาหารเพื่อขอบคุณกับเวินน๋อน
แต่สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อสามปีที่แล้ว เขาต้องการคำอธิบายที่สมเหตุสมผล เพื่อคลายปมในใจของตน และเขารู้สึกว่าการกลับมาของเวินน๋อนในครั้งนี้ไม่ง่ายอย่างแน่นอน
“หลี่สู้ จองตั๋วไปซีหลี่หรือยัง?”
“เรียบร้อยแล้วครับ คืนนี้สี่ทุ่มครึ่ง ต้องการให้ผมแจ้งทางซีหลี่ก่อนไหม…..”
“ไม่ต้อง” เฟิงเฉินตัดประโยคของเขา “การเดินทางไปซีหลี่ของผมในครั้งนี้ ห้ามบอกใครทั้งนั้น หากคนในบริษัทถาม ก็บอกว่าผมลาพัก”
หลี่สู้หยักหน้ารับ ก่อนที่จะกลับหลังหันเดินออกจากห้องทำงาน
เฟิงเฉินจับจ้องเอกสารที่จัดการเรียบร้อยล่วงหน้าที่วางกองเต็มโต๊ะ ด้วยความเหม่อลอย ไม่นานเขาหยิบภาพถ่ายใบหนึ่งออกมาจากลิ้นชักด้านซ้ายมือ ที่ด้านหลังมีรอยฉีกขาดชัดเจน แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด สุดท้ายภาพถ่ายนั้นกลับถูกติดประกอบเข้าด้วยกันอีกครั้ง
ด้านหน้าเป็นภาพถ่ายย้อนแสง ที่สามารถมองเห็นร่างอันอ่อนโยนของหญิงสาว ที่ไม่เจนมากนัก ภายใต้แสงตะวันตกดิน หญิงสาวนั่งเท้าเปล่าบนผืนทราย เธอเอียงหัวเล็กน้อย มือข้างหนึ่งสอดเข้าไปในเส้นผมสลวยประบ่าเพื่อเซตผม เผยให้เห็นลำคอที่สง่างาม ที่ดูไร้เดียงสาบริสุทธิ์แต่ยังคงความเซ็กซี่เอาไว้
โรงแรมโจวจี้ในเมืองเจียง
เวินน๋อนถือโทรศัพท์เอาไว้ในมือ ด้วยสีหน้าเขียวปั้ด
หลังแยกกับเขาที่สนามบิน เฟิงเฉินไม่เคยติดต่อเธออีกเลย ไม่มีแม้สายเรียกเข้าสักสาย ที่เกินความคาดหมายมากกว่านั้น ผู้ชายคนนั้นได้เจอเฮ่าเฮ่าแล้วยังสามารถนิ่งเฉยอยู่ได้ สมแล้วที่เป็นคนที่เธอหมายปองในอดีตเสียงของอะไรบางอย่างตกหล่นที่พื้นทางด้านหลัง แม้ไม่สำคัญ แต่ภายใต้ความเงียบสงบนั้นได้ยินเสียงดังชัดเจน
เธอหันกลับไปตามต้นตอของเสียง เมื่อเห็นบนพื้นมีเพียงแก้วน้ำพลาสติกของเด็กเล็ก เธอถลึงตาโตไปทางโซฟา “ฉันเคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอ? ว่าอย่าหยิบจับข้าวของ ทำไมแกทำตัวไม่น่ารักเลย?”
เด็กชายน้อยจับจ้องไปที่น้ำบนโต๊ะ พร้อมกลืนน้ำลายอึก ก่อนเอ่ยเสียงแผ่ว “เฮ่าเฮ่าไม่ได้ไม่น่ารักซะหน่อย”
“ยังจะเถียงอีก?”
เวินน๋อนสีหน้าดุดัน
เด็กชายน้อยสะดุ้งโหยง เขาถอยหลังชิดติดกับมุมโซฟาโดยอัตโนมัติ
“มานี่”
เวินน๋อนขมวดคิ้วเข้าหากัน ด้วยใบหน้าที่ไม่สบอารมณ์
“คำพูดที่ฉันสอนแกเมื่อครั้งก่อนจำได้หรือยัง?”
เด็กชายน้อยถูกจับออกมาจากโซฟา บริเวณแขนที่ถูกบีบเกิดรอยฟกช้ำ เด็กชายทนความเจ็บปวดพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “คุณแม่…..คุณแม่บอกว่า ไม่ใช่คุณพ่อไม่อยากได้ผม แต่…..แต่เพราะคุณพ่อไม่รู้ว่ามีผมอยู่ คุณพ่อ…..”
“มีอะไรอีก?”
“ยังมี…..” เด็กชายน้อยมีสีหน้าขาวซีด พร้อมน้ำตาที่สามารถไหลออกมาได้ทุกเมื่อ “แม่ฮะ ผมเจ็บ…..”
เวินน๋อนดึงเด็กชายน้อยอย่างแรง ก่อนที่จะผลักเด็กชายน้อยให้ล้มลงกับโซฟา พร้อมตะคอกเสียงดัง
“ไร้ประโยชน์สิ้นดี”
เด็กชายน้อยนั่งร่ำไห้อยู่บนโซฟา พร้อมไอไม่หยุด
เมื่อเห็นทีท่าที่ทรมานของเด็กน้อย สายตาของเวินน๋อนเปลี่ยนไปเล็กน้อย ซึ่งฉาบด้วยความเยือกเย็น