ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว - ตอนที่ 93
บทที่ 93 ต้องการความช่วยเหลือไหม
หลังจากที่เฟิงเฉินอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเขาออกจากคฤหาสน์เฟิงเดินทางไปที่สนามบินโดยทันที
เขาไม่ได้บอกที่บ้านว่าการเดินทางของตนในครั้งนี้จุดมุ่งหมายคือซีหลี่ แต่สันนิษฐานจากที่มารดาต้มยาบำรุงมาให้ คงรับรู้อะไรบ้างเล็กน้อย
ระหว่างทางไปที่สนามบิน โทรศัพท์เด้งข้อความหนึ่งขึ้นมา จากเวินน๋อน
“ระหว่างทางมาไม่ต้องรีบ ขับรถดีๆ”
เฟิงเฉินขมวดคิ้วแน่น เพ่งไปยังหน้าจอนิ่ง ก่อนที่จะโทรศัพท์หาผู้ช่วยคนสนิท
“ช่วยเช็คข้อความทั้งหมดในโทรศัพท์ผมในครึ่งชั่วโมงนี้ที”
ปลายสายส่งข้อมูลกลับมาด้วยระยะเวลาอันสั้น เมื่อเห็นภาพข้อมูลในโทรศัพท์ เฟิงเฉินแสยะยิ้มมุมปากด้วยความเย็นชา เรื่องนี้น่าสนใจขึ้นมาทุกที
วันหยุดที่โรงแรมซีหลี่
ลั่วมั่นที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จยืนอยู่ที่ขอบเตียง พร้อมด้วยสองมือที่กำโทรศัพท์เอาไว้ กำลังจับจ้องไปที่รายละเอียดของเบอร์โทรศัพท์ เธอลังเลมาสิบนาทีแล้วว่าจะโทรหาเฟิงเฉินดีไหม
โทรไปแล้วจะพูดว่าอะไร? ถามว่าทานอะไรรึยัง? หรือนอนรึยัง? จะดูตั้งใจเกินไปไหม?
เธอลังเลอยู่อีกห้านาที
ช่างเถอะ ไม่โทรแล้ว นอนดีกว่า!
เธอสะบัดผมที่ยังไม่แห้งด้วยความเบื่อหน่าย ก่อนพลิกกลับไปปิดไฟที่อยู่หัวเตียง พร้อมโยนโทรศัพท์เอาไว้อีกด้าน ก่อนที่ปลายนิ้วจะลากผ่านปุ่มบางอย่าง
“กริ๊ก” ความมืดมนเข้าปกคลุมภายในห้อง
ทันทีที่เธอห่มผ้า เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เธอกดรับสายด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
“อืม?”
ลั่วมั่นตัวนิ่งแข็ง คิดว่าตนเองฟังผิดไป
“ฮัลโหล? ลั่วมั่น?”
เสียงที่ชัดเจนกว่าเดิม
เธอนิ่งไปสักพัก ก่อนที่จะพลิกตัวกลับไปดูที่หน้าจอที่ถูกโยนไว้อีกทาง สว่างอยู่จริงด้วย ไม่รู้ว่าตอนไหนที่เธอกดไปถูกปุ่มโทรออก แถมตอนนี้อีกฝ่ายรับสายแล้วด้วย
ขณะที่เธอเปิดไฟด้วยมือไม้ที่พันกันวุ่น ตุ้บ’ มือของหญิงสาวชนเข้ากับขอบเตียง หญิงสาวอุทานออกมาด้วยความเจ็บปวด
“เป็นอะไร?” น้ำเสียงปลายสายของเฟิงเฉินทุ้มต่ำ
“ไม่…..ไม่เป็นไร” เธอกำโทรศัพท์เอาไว้แน่น เพื่อระงับความตื่นตูมที่เกิดขึ้นในใจ พร้อมกับอธิบาย “แค่มือชนกับขอบไม้นิดหน่อย”
“ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“ไม่เป็นไร”
ปลายสายไตร่ตรองอยู่สักพัก ก่อนเอ่ยอย่างจริงจัง
“อยู่ข้างนอกคนเดียวระวังตัวไว้ให้ดี ตอนนอนเปิดไฟทิ้งไว้ด้วย”
ได้ยินประโยค ลั่วมั่นรู้สึกถึงความอบอุ่นพัดผ่านแก้วหูไปสู่ทั่วร่างกาย เธอยกมุมปากขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ มุมปากยกขึ้นทำองศาที่งดงาม
จนลืมปัญหาที่ลังเลว่าจะโทรหาเขาหรือไม่เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนสิ้น
“อืม โอเค”
เธอเปลี่ยนสลับมือที่กุมโทรศัพท์ เช็ดเหงื่อที่ไหลออกมาตามฝ่ามือ พยายามทำให้น้ำเสียงของตนดูเป็นปกติที่สุด “เรื่องของฉันทางนี้อาจจะยากสักหน่อย คงต้องอีกสองวันกว่าจะกลับไปได้ ฉันเลยอยากบอกคุณไว้ก่อนล่วงหน้า”
“ต้องการความช่วยเหลือไหม?”
“ท่านประธานเฟิง แหล่งน้ำที่อยู่ไกลออกไปดับกระหายไม่ได้หลอกนะ เมืองเจียงอยู่ห่างจากซีหลี่มาก เรื่องนี้คงต้องเป็นหน้าที่ของฉันกับเล่อสวี้แล้ว”
“โครงการผันน้ำใต้ขึ้นเหนือไม่เคยไม่ยินหรือไง?”
“อะไรนะ? ถ้างั้นฉันก็โครงการท่อส่งก๊าซสู่ภาคตะวันออกแล้วล่ะ!”
เสียงหัวเราะดังขึ้นจากปลายสาย ลั่วมั่นนึกว่าเขาหัวเราะตนเสียอีก จึงกล่าวอย่างประชดประชัน “ฉันไม่คุยกับนายแล้ว ดึกมากแล้ว นอนก่อน”
“ถ้างั้น ฝันดีนะ”
ปลายสาย น้ำเสียงที่ทุ้มต่ำของเฟิงเฉินเต็มไปด้วยแรงดึงดูดเฉพาะของผู้ชาย ในเวลานี้เหมือนว่าเขาแนบชิดอยู่ที่ใบหูของตน ลั่วมั่นหน้าแดงก่ำขึ้นมาอย่างประหลาด เกิดร้อนผ่าวและตื่นตูม ผ่านไปสักครู่เธอถึงได้ควบคุมกล่องเสียงของตนได้สำเร็จ ก่อนเอ่ยเสียงแผ่ว “คุณก็ด้วย”
ราตรีอันงดงาม
ในสนามบินเมืองเจียงที่ห่างไกลหมื่นแสนกับซีหลี่ หลังจากที่ใครบางคนตัดสายทิ้งไป รอยยิ้มอย่างอารมณ์ดีฉายแววบนใบหน้าอย่างชัดเจน เมื่อได้ยินประกาศขึ้นเครื่องของทางสายการบิน เขาสาวเท้าขึ้นเครื่องไปอย่างเร่งด่วน
การตัดสินไปซีหลี่ในครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด