ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ - บทที่ 448 เมื่อคืน เกิดเรื่องอะไรที่ไม่สามารถบรรยายด้วยคำพูดได้เป็นแน่!
- Home
- ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ
- บทที่ 448 เมื่อคืน เกิดเรื่องอะไรที่ไม่สามารถบรรยายด้วยคำพูดได้เป็นแน่!
ฮั่วชิงชิงตอบตกลง วางสายแล้วเดินกลับมา จากนั้นก็เห็นมือถือของหันจื่ออี้ที่อยู่บนพื้นสว่างขึ้น
เดิมทีเธอไม่ได้คิดที่จะดู แต่เมื่อเห็นเสื้อผ้าของพวกเขากระจัดกระจายอยู่บนพื้น ด้วยเหตุนี้ จึงก้มลงไปเก็บเสื้อผ้าขึ้นมา
แต่เมื่อเธอหยิบมือถือของหันจื่ออี้ ไม่ทันระวังมือจึงไปสัมผัสกับปุ่มสแกนลายนิ้วมือของเขา ชั่วขณะหน้าจอก็สว่างขึ้น
ระหว่างนั้น ด้านบนก็มีข้อความวีแชตข้อความหนึ่ง คนที่ส่งมาคือเซียวหลิน
ฮั่วชิงชิงรู้ว่าการแอบดูข้อความของคนอื่นไม่ใช่เรื่องดี แต่เธอก็ยังคงชำเลืองไปมองอย่างรวดเร็ว ชั่วขณะสายตาก็แข็งค้าง!
เซียวหลินบอกว่า : “พี่จื่ออี้ ฉันว่าเราเหมาะที่จะเป็นเพื่อนกันมากกว่า ฉะนั้นเราเลิกกันเถอะ! ถ้ามีเวลาก็ออกมานั่งคุยเรื่องนี้กันนะ!”
ฮั่วชิงชิงอ่านเนื้อหาในวีแชตอยู่หลายรอบ หลังจากนั้น ก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาอย่างฉับพลัน
เดิมทีเธอยังกลัวการทำลายของเขา แต่ตอนนี้ดูเหมือนอุปสรรคทุกสิ่งทุกอย่าง ได้หายไปหมดแล้ว!
มุมปากของเธอยกยิ้มขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะมองไปยังหันจื่ออี้ที่ยังคงหลับใหลอยู่
ใช่สิ เมื่อคืนเขาน่าจะไม่ได้ทานอะไรเลย เช้านี้ตื่นขึ้นมา จะต้องหิวมากแน่ๆ
ตอนที่ฮั่วชิงชิงใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันกับหันจื่ออี้ก็รู้ดีว่า เขาไม่ชอบทานอาหารบุฟเฟ่ต์ของโรงแรม ชอบทานอาหารพื้นบ้านทั่วๆไปอย่างเช่น น้ำเต้าหู้ โจ๊กฟักทอง โรตีต้นหอม
แต่ที่โรงแรมไม่มีห้องครัว ดังนั้นเมื่อฮั่วชิงชิงอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ก็หยิบคีย์การ์ดประตูห้องของหันจื่ออี้ แล้วออกไปซื้ออาหารให้เขา
เธอเรียกแท็กซี่ตรงทางเข้าของโรงแรม ไปที่ร้านอาหารเช้าร้านหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ สั่งของที่หันจื่ออี้ชอบ และซื้อให้ตัวเองอีกชุดหนึ่ง
นึกถึงว่าอีกสักครู่จะได้ทานอาหารเช้ากับเขา เธอก็รู้สึกมีความสุข
ฮั่วชิงชิงถึงขั้นกับคิดจินตนาการไปว่า อีกสักครู่หลังจากที่ได้เจอเขา เธอก็จะบอกเขาว่า จริงๆแล้วที่ผ่านมาเธอไม่เคยลืมเขาเลย แล้วก็ไม่อยากหย่ากับเขาด้วย ขอเพียงแค่เขายินดี ต่อไปนี้พวกเขาจะละทิ้งเรื่องราวในอดีต แล้วเริ่มต้นใหม่กันอีกครั้ง
รอหลังจากที่พวกเขาคืนดีกันแล้ว เธอจะบอกกับเขาอีกครั้ง อันที่จริงเธอรู้เรื่องที่เขาบริจาคไตให้เธอแล้ว
แต่เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะให้เขารู้สึกว่าตนเองกลับมาเพื่อตอบแทนบุญคุณ และไม่ใช่เพราะความรัก ฉะนั้นวันนี้เธอจึงไม่อยากพูดเรื่องนี้ออกไป
ทุกๆอย่าง วางแผนการไว้เกือบจะสมบูรณ์แบบแล้ว
ฮั่วชิงชิงถืออาหารออกมาจากในร้าน กำลังจะเรียกรถแท็กซี่ ฉับพลันก็ได้กลิ่นน้ำมันที่รุนแรงออกมาจากรถคันหนึ่ง
เธอรู้สึกคลื่นไส้ทันที จนอยากจะอาเจียนออกมา
แต่เพราะว่าไม่ได้ทานอะไรเลย ฉะนั้นเวลาอาเจียนจึงไม่มีอะไรออกมา
แต่จู่ๆฮั่วชิงชิงก็หยุดฝีเท้าลง
เธอฉุกคิดขึ้นได้ว่า ตั้งแต่เมื่อคืนจนกระทั่งถึงตอนนี้ เธอไม่ได้เข้าห้องน้ำเลย หรือว่า……
ราวกับถูกน้ำแข็งหนึ่งอ่างเทรดลงมาอย่างฉับพลัน ฮั่วชิงชิงนึกถึงตอนนั้น เธอปัสสาวะน้อย หลังจากนั้นก็เบื่ออาหาร สุดท้ายก็อาเจียน ปัสสาวะที่ออกมาก็เป็นสีชา และได้ถูกวินิจฉัยว่าเป็นภาวะไตวาย
เมื่อกี้ที่เธออยากจะอาเจียน หรือว่าจะมีปัญหาจริงๆ?
นึกถึงตรงนี้ หัวใจของเธอก็เหมือนกับถูกขุดเป็นหลุมขนาดใหญ่ เธอยืนใจลอยอยู่กับที่ เดิมทีก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี!
บังเอิญว่ามีรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งขับมาอย่างรวดเร็วมาก ฮั่วชิงชิงจึงหลบไปข้างๆ แต่ถุงอาหารในมือถูกเกี่ยวเข้ากับรถมอเตอร์ไซค์ ทันใดนั้นถุงพลาสติกถูกฉีกขาด และอาหารเช้าก็หกเต็มพื้นถนน!
แต่มอเตอร์ไซค์กลับไม่ได้สนใจเลย ยังคงขับออกไปอย่างองอาจ
ฮั่วชิงชิงเห็นของเหล่านั้นสกปรกไปหมดแล้ว จึงเก็บพวกมันขึ้นมาแล้วโยนทิ้งถังขยะไป
กำลังคิดว่าจะกลับไปซื้ออีกชุดดีไหม แต่ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมา
ถ้าหากว่าภาวะไตวายของเธอกำเริบขึ้นมาอีกครั้ง เช่นนั้นควรจะทำอย่างไรดี?
หรือว่าจะให้หันจื่ออี้ทนรับความเจ็บปวดจากการที่ต้องดูเธอตายอีกครั้ง แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้เลย?
ถึงอย่างไรเขาก็มีไตแค่สองข้าง บริจาคให้เธอหนึ่งข้าง ถ้าเธอไม่สามารถเก็บรักษาสิ่งนั้นที่เขาให้เธอไว้ได้ เขาเห็นแล้วจะต้องทุกข์ใจมากๆเลยใช่ไหม?
ฮั่วชิงชิงรู้สึกกังวล จนเกือบจะสิ้นหวัง จากนั้นก็เรียกรถแท็กซี่ไปที่โรงพยาบาล
เธอไปที่แผนกระบบทางเดินปัสสาวะ ทำการเจาะเลือด และนั่งรอผลอยู่ตรงนั้น
กำลังรอผลอยู่ จู่ๆมือถือของเธอก็ดังขึ้นมา ฮั่วชิงชิงหยิบมาดู ก็เห็นว่าเป็นหันจื่ออี้โทรมา
หัวใจของเธอเต้นรัวขึ้นมาอีกครั้ง จนกระทั่งเธอปรับอารมณ์ได้แล้ว จึงแสร้งทำเป็นรับสายอย่างสงบนิ่ง
หันจื่ออี้ก็เพิ่งจะตื่นได้ไม่นาน
ภาพในความทรงจำยังคงเป็นการไปดื่มเหล้าที่บาร์เมื่อคืนนี้ เพราะเรื่องของแม่เขาจึงรู้สึกเศร้าเสียใจอย่างมาก ดื่มเหล้าจนท้ายที่สุดก็ไม่ได้สติ
ฉะนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าตนเองกลับมาที่โรงแรมมาได้อย่างไร เขาจำได้แค่ว่า เขาเหมือนจะฝันเห็นฮั่วชิงชิง
อีกทั้งเขายังฝันเห็นเขากับฮั่วชิงชิงมีอะไรกัน และทำไปด้วยความรัก อีกอย่าง ในระหว่างนั้นไม่เพียงแต่เธอไม่ต่อต้านแล้ว ยังตอบสนองเขาอย่างเร่าร้อนอีกด้วย
ฉะนั้น ความรู้สึกเช่นนั้นมันจึงผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มันทำให้เขามีความสุขมาก และนอนหลับสบายตลอดทั้งคืน
แต่เมื่อเขาตื่นขึ้นมา เขาก็เข้าใจในทันทีเลยว่า นั่นเป็นเพียงแค่ความฝัน
เพราะว่าถึงแม้เธอจะไม่ได้เกลียดเขาแล้ว แต่จะสามารถตอบสนองเขากลับได้อย่างไร?
เขารู้จักเธอดี บางครั้งเธอก็ดื้อรั้น มีหลักการของตนเอง แต่กลับเป็นคนขี้อายอย่างมาก
ทุกครั้งที่เขาจูบเธอ เธอมักจะเขินอายหลบหลีกตลอด แต่ทำไมถึงสามารถตอบรับเขาบนเตียงแบบนั้นได้ล่ะ?
เพียงแต่ เมื่อหันจื่ออี้ไปอาบน้ำกลับมา ตอนที่สายตามองไปยังผ้าปูที่นอน ก็เห็นร่องรอยบางอย่าง
ร่องรอยสีขาวเหล่านั้นที่เหือดแห้งไปแล้ว เตือนสติเขาได้อย่างชัดเจนว่า นั่นคือสิ่งที่เขาหลั่งออกมา
แต่เมื่อมองดูโดยรอบแล้ว กลับไม่มีร่องรอยของฮั่วชิงชิงเลย หรือว่า เรื่องที่เขาทำเมื่อคืนจะเป็นเพียงเรื่องที่เคยทำในวัยเด็ก? คาดไม่ถึงว่าเพราะฝันหวานชั่วขณะหนึ่งจะทำให้……..
เขามองมือถือมีไฟกะพริบข้อความที่ยังไม่ได้อ่าน ด้วยเหตุนี้ จึงหยิบขึ้นมาอ่านเล็กน้อย
ทันใดนั้น ข้อความที่เซียวหลินส่งเข้ามาก็ปรากฏต่อสายตาทันที
หันจื่ออี้อ่านจนจบด้วยสีหน้าที่สงบนิ่ง ด้วยเหตุนี้จึงเปิดบันทึกการโทร
ในนั้นมีสายของผู้ช่วยหวังโทรเข้ามาหลายสาย แล้วก็มีสายของเซียวหลินโทรเข้ามาสองสามสาย เขาโทรกลับไปหาเซียวหลินก่อน
เธอรับสายอย่างรวดเร็ว น้ำเสียงมีชีวิตชีวา: “พี่จื่ออี้!”
หันจื่ออี้กล่าว: “เซียวหลิน ฉันเห็นข้อความที่คุณส่งมาให้แล้ว”
“อืม” เสียงของเซียวหลินก็กลุ้มใจในทันที: “แล้วคุณคิดว่ายังไงล่ะคะ?”
หันจื่ออี้กล่าว: “ฉันเห็นด้วยกับการตัดสินใจของคุณ งั้นจากนี้ไปพวกเราก็จะเป็นเพื่อนกันปกติ”
ทางด้านคู่สาย เงียบไปสองสามวินาที จึงมีเสียงผู้หญิงดังเข้ามา แฝงไปด้วยอารมณ์หัวเราะเยาะ: “หรือว่าคุณไม่รู้ บางทีที่ผู้หญิงบอกว่าจะเลิก มันเป็นเพียงแค่อารมณ์โอดครวญหรือขอให้ปลอบใจ? ทำไมคุณถึงไม่ถามฉันบ้างล่ะว่าทำไม? หรือไม่ก็เหนี่ยวรั้งฉันสักสองสามคำ!”
หันจื่ออี้นิ่งอึ้งไปเล็กน้อย จึงพบว่าคาดไม่ถึงว่าตนเองไม่เคยคิดเรื่องที่จะเหนี่ยวรั้งโดยสิ้นเชิง
เหมือนกับว่า พอเธอบอกว่าจะไม่ไปต่อ งั้นก็ไม่ไปต่อ ถึงอย่างไร เขาจะไปต่อหรือไม่ไปต่อก็ได้ทั้งนั้น
เห็นหันจื่ออี้ไม่ตอบ เซียวหลินจึงกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง: “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันแค่ล้อเล่นกับคุณน่ะ! เอาล่ะ ฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ชอบฉัน ฉันเป็นพวกที่ชอบความสมบูรณ์แบบ คู่รักที่ฉันมองหา จะต้องเป็นคนที่ชอบฉันมากแน่ๆ!”
หันจื่ออี้จนปัญญาที่จะปฏิเสธความคิดของตนเองกับเซียวหลิน ด้วยเหตุนี้จึงกล่าวยอมรับว่า: “ขอโทษนะ จริงๆแล้วก่อนหน้านี้ฉันแค่อยากจะลองดู แต่ว่า…..”
“โอเค! พอ! ขืนพูดอีกก็จะเป็นการโจมตีฉัน!” เซียวหลินกล่าวอย่างหยอกล้อว่า: “งั้นต่อไปหากคุณหาคนที่ชอบเจอแล้ว จะต้องบอกฉันด้วยนะ ฉันอยากรู้จริงๆว่า สุดท้ายแล้วคนแบบไหนที่เข้าตาคุณ!”
“โอเค” หันจื่ออี้ก็ผ่อนคลายลงอย่างมาก
วางสายแล้ว เขาก็โทรกลับไปหาผู้ช่วยหวัง: “เมื่อคืนโทรหาฉันมีธุระอะไร?”
“ประธานหันของฉัน ในที่สุดคุณก็ตื่นแล้ว!” ผู้ช่วยหวังกล่าวอย่างทอดถอนใจ: “เมื่อคืนฉันตามหาคุณตั้งแต่ 6โมงกว่า โทรไปก็ไม่มีคนรับ ฉันเป็นห่วง ตามหาอยู่หลายที่ แล้วก็โทรศัพท์ไปหาเซียวหลินและคุณฮั่ว สุดท้ายก็เป็นคุณฮั่วที่หาคุณเจอ แล้วยังบอกอีกด้วยว่าคุณดื่มเหล้า……”
หันจื่ออี้หรี่ตาขึ้นมาทันที: “คุณฮั่วไหนกัน?!”
“นอกจากคุณฮั่วคนนั้นของคุณแล้วยังจะมีแซ่ฮั่วคนไหนอีกล่ะ!” ผู้ช่วยหวังพูดจบ จู่ๆก็นึกขึ้นได้ว่าน้ำเสียงของตนเองฮึกเหิมเกินไป จึงรีบกล่าวว่า: “ประธานหัน คุณฮั่วไปเจอคุณที่บาร์เหล้า จากนั้นก็พาคุณไปตรวจที่โรงพยาบาล หลังจากไม่เป็นอะไรแล้ว ก็ประคองคุณกลับมายังห้อง!”
พูดถึงตรงนี้ ผู้ช่วยหวังก็ไม่สบายใจเป็นพิเศษ
เมื่อคืน คงจะเกิดเรื่องอะไรที่ไม่สามารถบรรยายด้วยคำพูดได้เป็นแน่! เพียงแต่ ต่อให้เขาไม่สบายใจ ก็ไม่สามารถยุ่งเรื่องของเจ้านายตนเองได้ ดังนั้น เขาจึงบังคับตัวเองไม่ให้มาดูห้องข้างๆ!
“เธอมาส่งฉันเหรอ?” หันจื่ออี้คล้ายกับฟังแล้วไม่เข้าใจ จึงกล่าวถามอีกรอบหนึ่ง
“ใช่ครับ!” ผู้ช่วยหวังรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย: “ประธานหัน คุณจำไม่ได้เลยเหรอ?”
การตอบสนองนี้ทำให้ผู้ช่วยหวังดีใจเป็นพิเศษ ดูท่า เมื่อคืนน่าจะไม่เกิดอะไรขึ้น!
แต่หันจื่ออี้ไม่ได้ตอบกลับคำถามของผู้ช่วยหวังโดยสิ้นเชิง วางสายไปโดยตรง แล้วโทรไปหาฮั่วชิงชิง
เสียงสัญญาณดังอยู่หลายครั้ง เธอจึงรับสาย
หัวใจของหันจื่ออี้เป็นกังวลเล็กน้อย: “ชิงชิง เมื่อคืนคุณมาส่งฉันกลับโรงแรมเหรอ?”
ฮั่วชิงชิงยิ่งตึงเครียด เธอกำมือถือแน่น: “อืม”
“งั้นเมื่อคืนนี้….” หันจื่ออี้นึกถึงสัมผัสและอุณหภูมิที่เหมือนความจริงเหล่านั้น สายตามองลงไปยังร่องรอยนั้นที่อยู่บนผ้าปูที่นอน จึงกล่าวถามว่า: “เมื่อคืนพวกเรามี……..”
เขาถามเธอจริงๆ!
ฮั่วชิงชิงกำมือถือแน่น ไม่รู้จะตอบกลับอย่างไร
และเวลานี้ เธอก็ได้ยินแผนกการตรวจ กำลังเรียกชื่อของเธอ
“คุณรอสักครู่นะ เดี๋ยวมา” ฮั่วชิงชิงรีบพูดกับหันจื่ออี้ประโยคหนึ่ง จากนั้น ก็รีบก้าวเท้าไปยังแผนกตรวจ
“ใบรายงานผลของฮั่วชิงชิง” ช่องเคาน์เตอร์ส่งใบรายงานผลใบหนึ่งให้
ฮั่วชิงชิงรีบรับแล้วมองไปยังผลตรวจ
ทันใดนั้น ใบรายงานผลในมือก็ปลิวร่วงลงบนพื้น!
เป็นเวลานาน จนกระทั่งได้ยินเสียงแว่วๆว่ามีคนเรียกเธอ เธอจึงได้สติกลับมาว่า หันจื่ออี้กำลังคุยสายกับเธออยู่
เธอนำมือถือแนบเข้าที่หูอย่างทึ่มทื่อ: “อะไรนะ?”
“ชิงชิง เมื่อคืนคุณอยู่ที่นี่ พวกเราอยู่ด้วยกัน ใช่ไหม?” หันจื่ออี้กล่าวอย่างคล้ายๆกับแน่ใจ
ฮั่วชิงชิงรู้สึกเพียงว่า หัวใจถูกแบ่งแยกออกเป็นสองส่วนทันที เธออยากจะบอกเขาอย่างมากว่า เมื่อคืนคนที่ปลอบใจเขาก็คือเธอ แต่สายตาของเธอ ก็มองไปยังใบรายงานผลใบนั้น
ครั้งนี้ เธอจะต้องตายแน่ๆ
น้ำตาไหลรินลงมาทีละหยดๆ แต่เสียงของเธอ กลับสงบนิ่งเป็นพิเศษ: “จื่ออี้ คุณกำลังพูดอะไร ทำไมฉันไม่เข้าใจเลย? เมื่อคืนฉันส่งคุณกลับแล้ว ก็นั่งอยู่ครู่หนึ่ง เห็นว่าคุณน่าจะไม่เป็นอะไรแล้ว จึงออกไป!”