ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ - บทที่441 จริงๆ แล้วเขาเสียสละเพื่อเธอมากมาย
ประธานเซิิินไม่ได้บังคับเมื่อเห็นว่าเขาไม่อยากพูดจริงๆ ถึงอย่างไรLatitude ก็เป็นบริษัทขนาดใหญ่ ดังนั้นจึงสามารถร่วมมือกันได้โดยไม่ต้องกังวล นอกจากนี้หันจื่ออี้ไม่ได้จงที่จะหักหน้าเขา ดังนั้นเหตุการณ์นี้จึงถูกปล่อยผ่าน
เขาหยิบถ้วยชาขึ้นมา “เอาล่ะ ถ้างั้นก็ดื่มชาแทนเหล้า ผมหวังว่าเราจะร่วมมือกันอย่างมีความสุข!”
ทุกคนพูดคุยกันอีกสองสามคำ หันจื่ออี้จึงพูดขึ้นว่า “ประธานเซิน ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำสักครู่นะครับ”
เมื่อฮั่วชิงชิงได้ยินแบบนี้ เธอกลัวมากจนต้องรีบหาที่ซ่อนตัวอยู่ที่มุมข้างๆ
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เธอก็ได้ยินเสียงประตูห้องวีไอพีถูกเปิดออก
จนกระทั่งหันจื่ออี้เดินออกไปเป็นเวลาหลายวินาทีเธอถึงค่อยๆ ออกมาจากที่ซ่อนตัว เห็นเพียงด้านหลังของเขากำลังเลี้ยวไปตรงหัวมุมเพื่อเข้าห้องน้ำ
หลังจากผ่านช่วงอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ฮั่วชิงชิงก็ไม่กล้าที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป เธอจึงถือกระเป๋าเดินออกไปจากที่นี่
จู่ๆ ก็มีเสียงพูดคุยดังขึ้นมาในห้อง “ผู้ช่วยพิเศษหวัง ประธานหันได้รับการผ่าตัดอะไรเหรอ? แม้แต่ดื่มเหล้านิดเดียวยังไม่ได้เหรอ? และดูเหมือนว่าตอนนี้เขาจะเลิกสูบบุหรี่แล้ว”
ผู้ช่วยพิเศษหวังดื่มเหล้านิดหน่อย เดิมทีเขาไม่พอใจมากเป็นพิเศษกับการช่วยชีวิตฮั่วชิงชิงของหันจื่ออี้ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะบ่นว่า “ตอนนี้เขาไม่แตะเหล้ากับบุหรี่เลย ใช้ชีวิตแบบผู้ชายดีๆ คนหนึ่งเลย!”
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ?” ประธานเซินอยากซุบซิบ “ผมคิดว่าเขาดูไม่เต็มใจที่จะพูดถึงมัน”
“มันก็เกี่ยวกับการบริจาคไตให้กับผู้หญิงที่ทรยศ!” ผู้ช่วยพิเศษหวังหยุดพูดถึงตรงนี้ ก่อนหยิบเหล้าขึ้นมาดื่ม “บริจาคมาเกือบสองปีแล้ว! จริงๆ มันจะไม่เป็นแบบนี้ แต่บาดแผลของเขายังไม่หายดี ก็รีบไปหาผู้หญิงคนนั้นแล้วเป็นไข้สูง ต่อมาร่างกายก็อ่อนแอลง ปีที่แล้วไปพักฟื้นที่อังกฤษ! แต่เขากลับกลายเป็นคนบ้างานอีก ทั้งเพิ่งจะออกจากโรงพยาบาล เขาไปทำงานทุกวัน ส่งผลให้……”
“บริจาคไตให้กับผู้หญิงคนหนึ่ง?!” ประธานเซินขมวดคิ้ว “ผู้หญิงอะไร? ผมไม่เคยได้ยินว่าประธานหันแต่งงานหรือมีแฟนแล้ว?”
“ช่างมันไปเถอะ เขาไม่ให้พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นยังไม่รู้เหมือนกัน งั้นก็ปล่อยมันเป็นแบบนี้เถอะ!” ผู้ช่วยพิเศษหวังถอนหายใจ “ยังไงก็ตามนะประธานเซิน ประธานหันของพวกเราดื่มเหล้าไม่ได้ ถ้ามีโอกาสดื่มเหล้ากันที่ไหนก็ตามผมจะดื่มแทนเขาเอง ขอโทษด้วยนะครับ!”
“ไม่เป็นไร ผมเข้าใจแล้ว!” ประธานเซินพูด
เมื่อฮั่วชิงชิงได้ยินการสนทนาระหว่างทั้งสองจากด้านนอก ทำเอาเธอแทบทรุดลงกับพื้น!
ผู้ช่วยพิเศษหวังพูดว่าหันจื่ออี้บริจาคไตให้กับผู้หญิงคนหนึ่งเมื่อเกือบสองปีที่แล้ว!
ในเวลานั้นเธอเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพราะถูกแทงที่เอว และวันรุ่งขึ้นหลังจากที่เธอตื่นขึ้นมาเขาก็ไปเยี่ยมเธอ ใบหน้าของเขาซีดเผือด……
และหลังจากที่เขาออกจากห้องพักฟื้นของเธอ เธอก็ได้ยินพยาบาลข้างนอกร้องเรียกชื่อเขาว่ามีคนเป็นลม
หลังจากนั้นเธอก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย!
ราวกับว่าความลับบางอย่างกำลังจะเปิดเผย ฮั่วชิงชิงรู้สึกว่าการหายใจของเธอเริ่มยากขึ้น เธอกลัวว่าหันจื่ออี้จะกลับมาจากห้องน้ำดังนั้นเธอจึงรีบไปที่ลิฟต์
จนกระทั่งเธอออกไปข้างนอกและลมเย็นพัดมาที่แก้มเธอ ทำให้เธอได้สติในทันที
เธอกวักมือเรียกแท็กซี่คันหนึ่ง เมื่อเธอขึ้นรถเธอเริ่มค้นหาข้อมูลทันทีเพื่อค้นหาอาการไตวายและกระบวนการปลูกถ่ายไต
ยิ่งดูยิ่งหน้าซีด
อาการข้างต้นพวกนั้นไม่ใช่อย่างที่เธอเคยเป็นมาก่อน? !
ไม่น่าแปลกใจที่หมอให้เธอกินยาพวกนั้นไปตลอดชีวิต และแม้กระทั่งตอนนี้ก็กำหนดการส่งยาให้เธอเป็นประจำ เพราะกลัวว่าเธอจะรู้ผลที่แท้จริงของยาพวกนั้น! มันจะมีเนื้องอกชนิดใดที่ต้องกินยาไปตลอดชีวิต? !
ในขณะนี้เธอเกือบจะแน่ใจแล้วว่าเธอไม่เคยตั้งครรภ์เลย และเนื้องอกก็เช่นกัน แต่มีภาวะไตวายต่างหาก!
และเขาเป็นคนที่ช่วยเธอถึงสองครั้ง!
น้ำตาของเธอร่วงหล่นลงมาจนไม่สามารถควบคุมได้ ดูเหมือนคนขับจะสังเกตเห็นว่าฮั่วชิงชิงอารมณ์ไม่ดี และอดไม่ได้ที่จะถามว่า “คุณผู้หญิง เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?”
“ไม่ไปที่โรงแรมแล้วค่ะ เปลี่ยนไปไปโรงพยาบาลแทนนะคะ!”
คนขับรถแท็กซี่คิดว่าการแสดงออกของฮั่วชิงชิงผิดปกติในตอนแรกเพราะเธอรู้สึกไม่สบาย ดังนั้นเขาจึงรีบขับรถตรงไปที่โรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว
หลังจากลงจากรถฮั่วชิงชิงรีบไปที่อาคารที่คุ้นเคยโดยไม่รับเงินทอน
เธอนอนอยู่ที่นั่นนานกว่าครึ่งเดือน ต่อมาเพราะเธอคิดว่าจะรับช่วงต่อธุรกิจของHuo Group เธอจึงเรียนรู้ธุรกิจระหว่างที่พักฟื้นในโรงพยาบาล
เธอออกจากโรงพยาบาลหลังจากอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเวลาหนึ่งเดือน เธอจึงคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมโดยรอบเป็นอย่างดี
ฮั่วชิงชิงเดินเข้าไปในลิฟต์และกดไปแผนกผู้ป่วยในชั้น16
ในลิฟต์คนเยอะมาก เธอเห็นคนไข้นั่งรถเข็นขึ้นไปหลายคน สักพักเธอก็อารมณ์หดหู่ลง
บางทีในโลกนี้สิ่งเดียวที่เงินซื้อไม่ได้ก็คือร่างกายที่แข็งแรงใช่ไหม?
ในที่สุดลิฟต์ก็หยุดที่ชั้น16 และทันทีที่ฮั่วชิงชิงเดินออกไปก็เหมือนตกอยู่ในภวังค์
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินไปที่ห้องพักฟื้นที่คุ้นเคย
เธอเห็นคนหลายครอบครัวพยุงผู้ป่วยเดินพูดคุยกันที่ทางเดิน เมื่อฮั่วชิงชิงเดินผ่านเธอได้ยินคำว่า การเปลี่ยนไต
แม้ว่าของเธอจะคาดคิดไว้อยู่แล้ว แต่หัวใจของเธอกลับสั่นสะท้านอย่างรุนแรง!
เมื่อเห็นพยาบาลเดินผ่านมา ฮั่วชิงชิงก็รีบหยุดพยาบาลคนหนึ่งแล้วถามว่า “สวัสดีค่ะ ขอรบกวนนิดหนึ่งนะคะที่นี่แผนกอะไรคะ?”
“ห้องทำงานหมอไม่ใช่มีเขียนไว้หรือ?” พยาบาลมีความอดทนต่ำ
ฮั่วชิงชิงพยักหน้าแล้วเดินไปอย่างรวดเร็ว
ในห้องทำงานยังเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย เป็นหมอที่รักษาเธอ!
ฮั่วชิงชิงเงยหน้าขึ้นมองป้ายแผนกที่แขวนอยู่ก็ต้องตกตะลึง!
เธอจำได้ว่าก่อนหน้านี้ไม่มีชื่ออะไรติดไว้เลย แต่ในขณะนี้ติดป้ายไว้ว่าระบบทางเดินปัสสาวะด้วยตัวอักษรขนาดใหญ่…
เธอมีความสงสัยอยู่ในใจ เธอกำลังจะถามคนอื่นๆ แต่หมอก็เห็นเธอเข้าพอดี!
ฮั่วชิงชิงหยุดชะงัก จากนั้นก็รวบรวมความกล้าเดินเข้าไป
“คุณฮั่ว คุณมาทำอะไรที่นี่?” หมอยังคงจำเธอได้อย่างแม่นยำ
ฮั่วชิงชิงจ้องมองไปที่ดวงตาของหมอ “หมอบอกฉันทีว่าฉันเป็นโรคไตวายเฉียบพลันใช่หรือไม่?”
หมอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่เมื่อฮั่วชิงชิงถามคำถามนี้ เธอคงรู้ทุกอย่างแล้วเลยพยักหน้า “ใช่ครับ”
ฮั่วชิงชิงก้าวถอยหลังสองก้าวแล้วถามว่า “แล้วการผ่าตัดของฉันในเวลานั้นคือการผ่าตัดปลูกถ่ายไตใช่ไหมคะ?”
หมอพยักหน้า
ไม่แปลกใจเลยที่อาการจะเหมือนกับที่อธิบายไว้ในอินเทอร์เน็ตทุกประการ ไม่แปลกใจเลยที่เธอรู้สึกไม่สบายตัวในตอนนั้น และเข้าห้องน้ำทุกวันก่อนการผ่าตัด……
“แล้วที่มาของไต” ฮั่วชิงชิงหยุดพูด แล้วมองตรงเข้าไปในดวงตาของหมอ “คือหันจื่ออี้ใช่หรือไม่คะ?”
หมอมองมาที่เธอแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย “ในเมื่อรู้แล้วจะถามไปทำไมครับ?”
ฮั่วชิงชิงตัวสั่น “หมอคะ ขอฉันดูหนังสือบริจาคในตอนนั้นได้ไหมคะ?”
หมอหรี่ตาลง“คุณฮั่ว ผู้บริจาคขอให้เราเก็บเป็นความลับ แต่ในเมื่อคุณเดาถูก ผมก็ไม่มีอะไรที่ต้องปิดบัง อย่างไรก็ตามการเปิดดูหนังสือการบริจาคนั้นไม่ถูกต้องตามกฎ”
“ฉันขอร้องล่ะ ฉันขอดูหน่อยได้ไหม?” ฮั่วชิงชิงกลั้นน้ำตา นึกถึงที่หันจื่ออี้ไปพบเธอด้วยใบหน้าซีดเซียวในวันนั้น
“ให้เธอดูเถอะ” ในขณะนั้นหัวหน้าแผนกก็เข้ามาแล้วพูดว่า “มันคือความพยายามอันอุตสาหะของสามีของเธอ”
“งั้นก็ได้ครับ” หมอพูดกับฮั่วชิงชิง “คุณตามผมไปที่ห้องเก็บเอกสารนะครับ”
เมื่อทั้งสองมาถึงห้องเก็บเอกสารฮั่วชิงชิงรออยู่ที่ประตู หลังจากนั้นไม่กี่นาทีหมอก็พบเอกสารลายเซ็นต้นฉบับแล้วส่งให้ฮั่วชิงชิง
ฮั่วชิงชิงรับเอกสารแล้วเปิดไปที่หน้าสุดท้ายทันที
ลายเซ็นในเอกสารเป็นลายเซ็นที่สง่างาม และลายเซ็นก็เหมือนกับลายเซ็นในหนังสือโอนหุ้นที่หันจื่ออี้ขอให้เธอเซ็นร่วม!
หันจื่ออี้
เมื่อเห็นชื่อนี้ความสงสัยในตอนนั้นก็หายไปในควัน!
เขาบริจาคไตให้กับเธอจริงๆ และช่วยชีวิตเธอได้อีกครั้ง!
ฮั่วชิงชิงตัวสั่นอย่างรุนแรงขณะถือเอกสารไว้ในมือ
หมอที่อยู่ด้านข้างเห็นท่าทางของเธอก็นึกถึงตอนจุดเริ่มต้น แต่ก็ยังรู้สึกโกรธเล็กน้อย “คุณรู้ไหมว่าพยาบาลทั่วทั้งแผนกของเราอิจฉาคุณมากแค่ไหน? สามีที่หล่อเหลา อ่อนโยน พิถีพิถันและมีน้ำใจ ใช้เวลาดูแลคุณอย่างดี!”
“แต่คุณยังคงเฉยเมยต่อเขา”
“เมื่อเราเห็นเขาคุยกับคุณ คุณแทบไม่มองหน้าเขา รู้ไหมผมอยากเข้าไปเตือนสติคุณแค่ไหน!”
แถมเขายังบอกอีกว่าขอโทษกับสิ่งที่เคยทำพลาดต่อคุณไปก่อนหน้านี้ จริงๆ แล้วคุณดีมาก ให้เราดูแลคุณเมื่อเขาไม่อยู่! ”
หมอชี้ไปที่หมายเลขประตูนอกแผนก “เขาบอกว่าคุณอารมณ์ไม่ดีและคิดเล็กคิดน้อย จึงเกลี้ยกล่อมให้บอกว่าคุณท้อง อยากให้คุณมีชีวิตที่แข็งแกร่งเพื่อลูกในท้องของคุณ”
“ดังนั้นป้ายทั้งหมดที่แขวนอยู่ทั้งหมดของเราจึงถูกถอดออก ไม่มีคำไหนที่เกี่ยวกับไตเลย”
“หมอและพยาบาลของเราถูกเขาควบคุมไว้หมดแล้ว ไม่สามารถบอกคุณเกี่ยวกับภาวะไตวายเฉียบพลันของคุณได้!”
หลังจากนั้นก็พบว่าการจับคู่ของเขาสามารถจับคู่กับคุณได้ เขาจึงเซ็นชื่อทันทีโดยไม่พูดอะไรเลย การแสดงออกของเขาดูมีความสุขมาก
จริงอยู่ว่าถึงแม้จะมีไตอีกข้างจะทำให้คนคนหนึ่งสามารถมีชีวิตอยู่ได้ดีมาก แต่ร่างกายของเขาจะดูอ่อนแอง่ายกว่าเมื่อก่อนหลังจากที่บริจาคไตไปแล้ว คุณรู้ไหม? ! ”
เมื่อฮั่วชิงชิงได้ยินสิ่งนี้ เธอก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่
เป็นเธอเองที่ผิด เธอไม่รู้อะไรเลย พูดทำร้ายจิตใจเขามากมายหลังจากที่เขาฟื้นจากการผ่าตัด!
เขาเป็นลมข้างนอก และได้ยินผู้ช่วยพิเศษหวังพูดว่าเขายังไม่หายไข้ ตอนนี้เขาไม่กล้าแม้แต่จะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว!
ยิ่งไปกว่านั้นวันนี้เธอเห็นจากด้านหลังของเขา เขาดูผอมลงกว่าเมื่อก่อนจริงๆ
จำได้ว่าตอนที่เขาอุ้มเธอ เธอยังคงคิดว่าไหล่ของเขากว้างมาก และกล้ามเนื้อหน้าอกของเขาก็แน่นมากเช่นกัน เธอพิงหน้าอกของเขาเธอรู้สึกเหมือนกับว่าเธอพบที่พักพิงในที่สุด!
เห็นได้ชัดว่าหมอยังคงบ่นไม่หยุดแบบไม่สามารถควบคุมได้ “การผ่าตัดในวันนั้นอยู่ในห้องผ่าตัดสองห้องที่เชื่อมต่อกัน เขาผ่าตัดออกและนำไปใส่ในร่างกายของคุณทันที หลังจากนั้นเขาตื่นขึ้นมาประโยคแรกที่ถามคือคุณเป็นอย่างไรบ้าง แต่รู้ไหมว่าตอนเขาอยู่ในอาการโคม่านั้นไม่มีใครถามเขาเลยสักคำ!”
“ฉันไม่รู้……” ฮั่วชิงชิงพูดพึมพำ “มันเป็นความผิดของฉันเอง ฉันไม่รู้อะไรเลย……”