CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ปลายจวักครองใจ - ตอนที่ 103 เสียชีพได้ แต่มิยอมเสียศักดิ์

  1. Home
  2. ปลายจวักครองใจ
  3. ตอนที่ 103 เสียชีพได้ แต่มิยอมเสียศักดิ์
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ตอนที่ 103 เสียชีพได้ แต่มิยอมเสียศักดิ์

ยามที่คุณชายกลุ่มนั้นยังตะลึงงัน เงาร่างสายหนึ่งก็พุ่งพรวดเข้ามาปานสายฟ้า

สือเยี่ยนขัดขาใครคนหนึ่งให้ล้มลง จากนั้นจึงส่งหมัดและลูกเตะตามไปในทันที

น่าหงุดหงิดนัก ใช้ให้เขาขัดถังส้วม!

น่าโมโหนัก ให้เขามาเลี้ยงห่าน!

น่าแค้นใจนัก บอกว่าเขาอัปลักษณ์!

ยิ่งคิดโทสะก็เดือดพล่าน พร้อมกับเสียงกรีดร้องของเหล่าเด็กหนุ่มที่ดังขึ้นเรื่อยๆ

สาวใช้ด้านข้างย่ำเท้าท่าทีลนลาน “อย่าตีนะ หยุดเดี๋ยวนี้!”

เด็กหนุ่มบางคนเจ็บปวดจนทุรนทุรายกลิ้งไปมาอยู่บนพื้น ดวงตาฉายแวววิงวอน

สือเยี่ยนชักมือกลับ ใบหน้าเย็นชาเอ่ย “เอาเปรียบเด็กเหลือขอเช่นพวกเจ้าแล้ว”

มิผิดที่การทุบตีนั้นเป็นหนทางที่ดีในการบันดาลโทสะ หากเด็กเหลือขอพวกนี้ไม่บอบบางจนเกินไป เขาคงทุบตีต่อได้อีกสักหนึ่งชั่วยาม

“ใครให้เจ้าตีพวกเขากัน” หงโต้วถลึงตาใส่สือเยี่ยนแล้วส่งกำปั้นใส่หนึ่งในคนหนึ่งที่ตะเกียกตะกายหยัดร่างลุกให้ลงไปกองกับพื้นเหมือนเดิมแล้วเอ่ยเสียงเขียว “ถึงตาเจ้าแล้วรึ มาแย่งของคนอื่นได้อย่างไร”

ตีคน ฉุดคนล้วนเป็นงานของนาง เจ้าคนเลี้ยงห่านนั้นมายุ่งอะไรด้วย

เด็กสาวคิดแล้วก็โมโห เตะเท้าแล้วส่งกำปั้นให้เด็กหนุ่มพวกนั้นอีกครั้งอยู่พักหนึ่ง

หลายคนเริ่มส่งเรียงร้องขอความช่วยเหลืออย่างอ่อนแรง “ช่วยด้วย…”

“ยังกล้าร้องหาคนช่วยอีกรึ!” หงโต้วหลิวเลิกคิ้ว “ไม่รู้ความเลยหรือไร เรื่องต่อยตีเช่นนี้จะไปฟ้องใครเล่า”

เด็กหนุ่มผู้มีนามว่าสวี่ชีดวงตาทอประกายวาบ

วาจานี้คุ้นหูยิ่ง เขาเคยได้ยินมันมาก่อนหลายครั้ง

นั่นคือสิ่งที่เจ้าสารเลวตรงหน้าบอกเขา แม้แต่น้องชายทั้งสองที่วัยยังไม่ย่างสิบปีก็ยังขอร้องไม่ให้เขาบอกบิดามารดาเมื่อครั้งที่พวกเขามีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกัน

เด็กน้อยต่อยตีกันจะไปฟ้องผู้ใหญ่ได้อย่างไร เช่นนั้นก็น่าขายหน้ายิ่ง

เด็กสาวเอ่ยออกมาเช่นนี้ ย่อมหมายความว่ามิให้ผู้ใหญ่รู้ก็นับว่าถูกแล้ว…

เด็กหนุ่มเหม่อลอยครุ่นคิดไปไกลครู่หนึ่ง

“เหตุใดพวกเขาถึงตีเจ้า” เสียงกังวานเยือกเย็นสายหนึ่งดังขึ้น

สวี่ชีตื่นจากภวังค์ ได้ยินแล้วว่าเด็กสาวกำลังเอ่ยถามเขา แต่เขาไม่ได้ตอบกลับ มุมปากยกโค้งขึ้นอย่างเย็นชา

ลั่วเซิงเห็นภาพนั้นใจก็เดือดดาลระคนเจ็บปวด มองไปทางเด็กหนุ่มพวกนั้นด้วยใบหน้าเย็นชา “เช่นนั้นพวกเจ้าบอกข้ามาเหตุใดถึงต้องทุบตีเขา”

“หาใช่เรื่องของเจ้าไม่ หรือเจ้าเป็นเมียของมัน…” เด็กหนุ่มผู้มีท่าทางคึกคะนองที่สุดในกลุ่ม อ้าปากโต้กลับอย่างไร้ความกลัว

หากแต่น่าเสียดาย เพราะก่อนที่เขาจะพ่นคำผรุสวาทออกมาจนจบก็โดนรองเท้าปักของหงโต้วอุดปากไว้เสียก่อนแล้ว

หลังจากโดนอุดปาก หงโต้วก็เอ่ยเสียงกร้าว “ขืนยังพูดจาเหลวไหล ข้าจะเตะปากเจ้าให้เละ!”

ลั่วเซิงเอ่ยเสียงเรียบ “อย่าหยุดมือ ตีต่อไป”

เด็กหนุ่มที่ถูกทุบตีจนเนื้อตัวชาไปหมดแล้วต่างตกตะลึง

นี่มัน นี่มันโหดเหี้ยมอำมหิตเกินไปแล้ว!

ดวงตาหงโต้วทอแสงวาบแล้วหมัดของนางก็ตกลงมาราวกับหยาดฝนใส่ร่างของคนพวกนั้น

“ช่วยด้วย…” เด็กหนุ่มคนหนึ่งพยายามรวบรวมเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายส่งเสียงกรีดร้อง

ฉับพลันแสงเย็นวาบสายหนึ่งก็วาบผ่านใบหน้าเขา

ลั่วเซิงพลิกกริชในมือ เสียงเย็นชาเอ่ย “เจ้าคิดจะเรียกให้พวกบ่าวมาที่นี่อย่างนั้นหรือ”

พวกเด็กหนุ่มที่เหลือไม่กล้าเอ่ยวาจาเหลวไหล ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ชัดเจนว่ากำลังรอให้พวกบ่าวมาถึงแล้วมอบบทเรียนอันสาสมให้แก่เด็กสาวที่เหมือนกันปีศาจคนนี้

ลั่วเซิงแค่นยิ้ม “เมื่อครู่พวกเจ้าเพิ่งจะต้อนเขาให้จนมุมแล้วรุมทุบตี คราวนี้กลับกลายเป็นฝ่ายถูกทุบตีเสียเองก็คิดจะเรียกให้คนมาช่วย มันจะง่ายเช่นนั้นได้อย่างไรเล่า”

เอ่ยถึงตรงนี้ นางก็โบกกริชในมือไปมา น้ำเสียงราบเรียบประกาศกร้าว “หากพวกเจ้ากล้าร้องขอความช่วยเหลืออีก ข้าจะเอากริชนี้เจาะรูบนร่างพวกเจ้าทุกคน วางใจเถอะ ข้าหาได้เลือกที่รักมักที่ชังไม่ จะทำให้เท่าเทียมกัน”

“เจ้า เจ้ากล้าดียังไง!” เด็กหนุ่มคนหนึ่งตะโกนออกมาด้วยความโกรธ

ลั่วเซิงเหลือบมองเขาแล้วผุดยิ้ม “เหตุใดจะไม่กล้า พวกเจ้าไร้มารยาทกับข้า ข้าจะต่อสู้เพื่อปกป้องตัวเองไม่ได้เลยหรือ”

เด็กหนุ่มกลุ่มนั้นตะลึงงัน

มีสตรีที่ไร้ยางอายเช่นนี้อยู่ด้วยหรือ

เด็กหนุ่มผู้หนึ่งพลันตระหนักบางอย่างขึ้นมาได้ โพล่ขึ้นว่า “เจ้าคือคุณหนูลั่วรึ”

ใบหน้าลั่วเซิงฉายแววผ่อนคลาย “ถูกแล้ว แต่หามีรางวัลไม่ หากเจ้าตอบคำถามไม่ถูกใจข้า ก็จะโดนทุบตีต่อไป”

เมื่อได้รู้ว่าผู้ที่อยู่ตรงหน้ายามนี้คือลั่วเซิง เด็กหนุ่มเหล่านั้นก็ตกตะลึง

ได้ยินมาว่าคุณหนูลั่วใจกล้าถึงขั้นฉุดอ๋องไคหยางด้วยซ้ำ…

“เอาล่ะ ตอนนี้พวกเจ้าบอกมาได้แล้วว่าเหตุใดถึงทุบตีเขา จำไว้ หากไม่บอกก็จะถูกตีต่อไป ตีจนกว่าจะยอมพูดออกมาหรือจนกว่าจะตาย อย่าคิดว่าจะได้มีความหวังอย่างอื่น”

หากวาจาเหล่านี้เอ่ยขึ้นก่อนที่ตัวตนของลั่วเซิงจะเผยออกมา เด็กหนุ่มกลุ่มนี้ย่อมเงียบปากต่อได้อีกสักพัก หากแต่สถานการณ์พลิกผัน พวกเขาไม่สามารถใช้วิธีคิดนี้ได้อีกแล้ว

เด็กหนุ่มคนหนึ่งพยายามหยัดกายลุก ปาดเลือดที่มุมปาก “พวกเราเข้ากันไม่ได้มาโดยตลอด ต่อยตีกันก็เป็นเรื่องธรรมดา”

“พวกเจ้าหาได้ต่อยตีกันไม่ แต่เป็นการทุบตีอยู่ฝ่ายเดียว” ลั่วเซิงกล่าวตรงประเด็นไม่อ้อมค้อม

หากบังเอิญพบว่าหลานชายของนางกำลังต่อสู้กับอยู่กับคนอื่นตามลำพังจริงๆ ลั่วเซิงอาจรับชมความสำราญใจตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชาก็เป็นได้

เด็กหนุ่มจะไม่ทะเลาะเบาะแว้งกันได้อย่างไรเล่า แพ้ชนะหาใช่เรื่องใหญ่ หากแพ้ครั้งนี้กลับเรือนไปฝึกซ้อมให้หนักกว่าเก่าแล้วคว้าชัยในคราวหลังก็ได้แล้ว

หากแต่นางไม่อาจทนมองได้ที่คนหลายคนกำลังรุมกลุ้มทุบตีหลานชายเพียงคนเดียว

ในฐานะน้าหญิงแล้วจะให้ยืนทื่ออยู่ได้อย่างไรกัน

เด็กหนุ่มเหลือบมองสวี่ชีแวบหนึ่ง รีบโต้แย้ง “เขาทุบตีสหายของพวกข้าเมื่อไม่กี่วันก่อน…”

น้ำเสียงของลั่วเซิงคล้ายเย็นชายิ่งกว่าเดิม “หึ เขาเรียกสหายมาร่วมตีด้วยหรือไม่”

เด็กหนุ่มตกตะลึงกับคำถามนี้

“ดูแล้วคงจะสู้คนเดียวมากกว่า” ลั่วเซิงคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม

เด็กหนุ่มกลุ่มนั้นเงียบเสียง ถือเป็นการยอมรับในคำพูดของลั่วเซิง

เสียงปรบมือเปาะแปะดังขึ้น รอยยิ้มเย้ยหยันประดับอยู่บนริมฝีปากของนาง

“ย่อมมีอนาคตสดใสเป็นแน่ คนหลายคนรุมตีคนๆ เดียวจนเขาพ่ายแพ้ ”

สีหน้าของเด็กหนุ่มกลุ่มนั้นมองแล้วอัปลักษณ์ยิ่งกว่าเดิม พวกเขาอยากจะโต้แย้ง แต่ก็ปราศจากคำพูด ทั้งยังไม่กล้าแม้แต่จะแสดงท่าทางเย่อหยิ่งเพื่อกลบซ่อนความอับอาย

ลั่วเซิงผินหน้าแล้วหันไปกำชับสวี่ชี “วันหน้าอยู่ให้ห่างจากคนเหล่านี้ อยู่ใกล้น้ำหมึกเท่าไรก็รังแต่จะกลายเป็นคนขลาดเขลาเช่นนั้น”

น้ำเสียงนั้นคล้ายกับผู้อาวุโสกำลังสอนสั่งผู้เยาว์ หากแต่สวี่ชีมิได้รู้สึกยินดีมากนักเมื่อได้ยิน อย่างไรเสียเมื่อเห็นสีหน้าทรมานของศัตรูตรงหน้าก็พลันรู้สึกยินดีขึ้นทันที พยักหน้าส่งเสียงตอบรับแผ่วเบา

ลั่วเซิงกวาดสายตามองพวกเด็กหนุ่มแล้วเชิดคางขึ้น “โชคดีที่ข้าอารมณ์ดีไม่น้อย ครั้งนี้จะไม่เอาความพวกเจ้า แต่หากวันหน้ายังกระทำเลวทรามเช่นนี้อีก ก็อย่าหาว่าข้ารังแกคน”

พวกเด็กหนุ่มถอนหายใจด้วยความโล่งอก

หนึ่งในคนกลุ่มนั้นมองไปที่สวี่ชี เอ่ยถามอย่างไม่เต็มใจ “คุณหนูลั่ว เหตุใดท่านถึงช่วยสวี่ชีกัน”

พวกเขาจำไม่ได้เลยว่าระหว่างจวนแม่ทัพใหญ่และจวนฉางชุนโหวมีความสัมพันธ์ใดต่อกัน

หากมีความสัมพันธ์ต่อกันก็มิใช่เรื่องน่ากลัว ผู้ที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อจวนฉางชุนโหวนั้นมีมากมาย แต่ใครใช้ให้ฮูหยินของฉางชุนโหวในยามนี้มิใช่มารดาแท้ๆ ของสวี่ชีกันเล่า

อีกทั้งสวี่ชียังเป็นเด็กโง่ไม่รู้ความเอาแต่เงียบไปฟ้องใครไม่เป็นอีก

หงโต้วทำทีตกใจ “เหตุผลง่ายปานนี้ พวกเจ้ายังต้องมาถามคุณหนูของข้าอีกหรือ”

“ง่าย…อย่างนั้นหรือ” พวกเด็กหนุ่มคล้ายลืมวิธีการพูดจาไปแล้ว ดวงตาเต็มไปด้วยความสับสน

ตรงไหนที่ง่ายกันเล่า

หงโต้วเท้าสะเอว แค่นยิ้มเยาะ “ย่อมเป็นเพราะพวกเจ้าน่าเกลียดยิ่งกว่าคุณชายสวี่ หากมิช่วยคุณชายสวี่แล้วจะให้ช่วยพวกเจ้าแทนรึ”

“เจ้า…” หากมิใช่เพิ่งจะได้รับบทเรียนแสนโหดร้ายมา เด็กหนุ่มกลุ่มนี้คงลุกขึ้นสู้กับหงโต้วไปแล้ว

นังหญิงชั้นต่ำผู้นี้ น่าโมโหนัก

แต่อยู่ใต้ชายคาบ้านคนอื่น จำต้องก้มหัว อดทน!

เด็กหนุ่มช่วยกันพยุงร่างเดินออกไปจากตรอกมืดแห่งนี้ ก่อนจะหลั่งน้ำตาออกมาเมื่อเงยหน้าพบกับแสงอาทิตย์เจิดจ้าเผชิญกับแสงแดดอันสดใส

รักษาชีวิตไว้ได้ก็นับว่าดีมากแล้ว

ผ่านไปพักใหญ่ เด็กหนุ่มคนหนึ่งก็เอ่ยคำถามที่กระทบจิตใจของหลายๆ คนขึ้นมา “พวกเราน่าเกลียดกว่าสวี่ชีจริงหรือ”

ภายในตรอกนั้น ลั่วเซิงเหลือบมองสวี่ชีแวบหนึ่ง กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ตามข้ามา”

สวี่ชีไม่ขยับ

ลั่วเซิงขมวดคิ้วแล้วมองเขา

เด็กหนุ่มถอยหลังไปก้าวหนึ่ง เอ่ยวาจาดุร้าย “ข้า ข้าขอเตือนเจ้า บุรุษนั้นเสียชีพได้ แต่หายอมเสียศักดิ์ศรีไม่!”

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 103 เสียชีพได้ แต่มิยอมเสียศักดิ์"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์