CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ปลายจวักครองใจ - ตอนที่ 55 เชิญแม่นางเข้าไปได้

  1. Home
  2. ปลายจวักครองใจ
  3. ตอนที่ 55 เชิญแม่นางเข้าไปได้
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ตอนที่ 55 เชิญแม่นางเข้าไปได้

เด็กเฝ้าประตูยื่นมือขวางไว้ด้วยใบหน้าเย็นชา “คุณหนูกลุ่มนี้ ช้าก่อน”

“นี่หมายความว่าอย่างไรกัน” ลั่วเซิงน้ำเสียงราบเรียบ ปราศจากความขุ่นเคืองแม้แต่น้อย

เด็กเฝ้าประตูชี้นิ้วไปยังป้ายหมายเลขที่อยู่ในมือนาง มุมปากเผยยิ้มหยัน “เมื่อครู่ข้าเห็นแล้วว่า ป้ายหมายเลขในมือของคุณหนูเอามาจากผู้อื่น”

“แล้วอย่างไรหรือ”

“หมายความว่าพวกท่านเข้าไปไม่ได้ เพราะป้ายหมายเลขนี้มิได้รับไปจากมือข้า” เด็กเฝ้าประตูตีหน้าขรึมตอบกลับ

ลั่วเย่ว์ถลึงตามองเด็กเฝ้าประตูด้วยความโกรธ “เจ้ารังแกคน!”

เด็กสาวอายุสิบสี่สิบห้าปี ด้วยเสียงหวานใสกังวานนี้ เกรงว่าแม้จะโกรธเกรี้ยวเพียงใดก็ไม่สามารถทำใครตกใจได้

เด็กเฝ้าประตูโต้กลับปราศจากความหวั่นเกรงแม้แต่น้อย “ข้าเป็นเพียงคนเฝ้าประตู ไหนเลยจะกล้ารังแกคุณหนู เพียงปฏิบัติตามกฎของหมอเทวดาก็เท่านั้น คุณหนูอย่าทำให้คนเฝ้าประตูเช่นข้าลำบากใจเลย”

“เจ้า!” ลั่วเย่ว์โมโหจนควันออกจากทวารทั้งเจ็ด ริมฝีปากสั่นเทาไม่รู้จะโต้ตอบอย่างไร

มีหลายสายตาจับจ้องอยู่เช่นนี้ หากนางยังคงโต้เถียงต่อก็จะดูเหมือนคนของจวนแม่ทัพใหญ่รังแกคน

เสียงหัวเราะเยาะดังมาจากกลุ่มคนด้านหลัง เด็กสาวพลันได้ยินเช่นนั้น น้ำตาก็อดคลอเบ้าไม่ได้

“ไปยืนอยู่ข้างหลังข้า” กระแสเสียงเย็นชาสายหนึ่งพลันดังขึ้น

ลั่วเย่ว์ผินหน้ามองก็พบใบหน้าหนึ่งที่ราวกับฉาบไว้ด้วยน้ำค้างแข็ง

“พี่สาม…” ลั่วเย่ว์เอ่ยเรียกออกมาโดยไม่รู้ตัว คำว่า ‘พี่สาม’ ในครั้งนี้ ได้ยินแล้วรื่นหูยิ่ง

ลั่วเซิงหาได้มีทีท่าร้อนใจที่จะโต้เถียงกับเด็กเฝ้าประตูไม่ กลับขมวดคิ้วแล้วผงกศีรษะให้ลั่วเย่ว์ แล้วกล่าว “เถียงไม่ได้ก็พูดให้น้อย”

ใบหน้าลั่วเย่ว์แดงซ่าน แต่ครั้งนี้ไม่ได้โต้กลับ กระทั่งเห็นว่าลั่วเซิงกวาดสายตามองไปทางเด็กเฝ้าประตู ร่องรอยความหวังก็พลันก่อสายขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

ตั้งแต่ลั่วเซิงกลับมาจากจินซา นางก็เปลี่ยนเป็นคนที่มีฝีปากดุร้ายคมคาย เจ้าเด็กเฝ้าประตูน่ารำคาญนี่ ย่อมมิใช่คู่ต่อสู้แน่นอน!

สายตาสงบเงียบดุจผืนน้ำของลั่วเซิงคล้ายถ่วงร่างของเด็กเฝ้าประตูเอาไว้ ก่อนเขาจะตื่นตัวขึ้นในพริบตา “พวกคุณหนูกลับไปเถิด อย่าให้ผู้อื่นที่มาขอรับการรักษาล่าช้าเลย”

คุณหนูผู้นี้ใจกล้ายิ่งกว่าคุณหนูเมื่อครู่หลายส่วน เป็นนางที่กล้าร้องขอป้ายหมายเลขจากไคหยางอ๋อง

แม้เด็กเฝ้าประตูจะยังเยาว์วัย แต่กลับแยกแยกได้หลักแหลมยิ่งว่าผู้ใดรับมือยาก อย่างไรเสียการเฝ้าประตูให้หมอเทวดาก็หาใช่งานเรียบง่าย ทุกวันนี้เขาต้องประสบกับผู้คนหลายประเภทนัก

ลั่วเซิงมองเด็กเฝ้าประตูด้วยสีหน้าราบเรียบ กระทั่งอีกฝ่ายเริ่มหลบตาก่อน จากนั้นจึงกล่าวออกมา “เมื่อครู่เจ้าเห็นหรือว่าป้ายหมายเลขในมือของข้าได้มาจากผู้อื่น”

“เป็นคุณหนูที่ร้องขอป้ายนี้จากไคหยางอ๋อง ทุกคนในที่แห่งนี้สามารถเป็นพยานได้” เด็กเฝ้าประตูคิดว่าลั่วเซิงจะปฏิเสธความจริงที่ว่านางขอป้ายหมายเลขนี้มาจากมือของเว่ยหาน นัยน์ตาจึงฉายแววเหยียดหยาม

แม้คุณหนูคนนี้จะกล้าหาญ แต่กลับเขลานัก คิดจะปฏิเสธสิ่งที่ตนเพิ่งกระทำต่อหน้าทุกคน นี่คงเรียกได้ว่าใจกล้าแต่โง่เขลากระมัง

“ใช่ ข้าสามารถเป็นพยานให้ได้” จูหานซวงแค่นเสียงเย็น

เดิมทีนางไม่ควรออกหน้าเช่นนี้ แต่การที่ลั่วเซิงใกล้ชิดไคหยางอ๋องต่อหน้านาง นั่นทำให้นางเหลืออดจริงๆ

นี่มิใช่การซ้ำเติม แต่เป็นการขจัดภัยร้ายต่อปวงชนต่างหาก!

คิดถึงเรื่องนี้ จูหานซวงก็อดยืดกายขึ้นไม่ได้

หากลั่วเซิงกลับไม่ปรายตามองนางเลยแม้แต่นิด ยกริมฝีปากน้อยๆ ให้เด็กเฝ้าประตูที่แสดงให้เห็นชัดว่าไม่กริ่งเกรงผู้เหนือกว่า “หมอเทวดาได้ตั้งกฎไว้จริงๆ สามสิบป้ายหมายเลขที่แจกในทุกวันให้เฉพาะบุคคลเฉพาะหมายเลข ไม่อนุญาตให้ส่งต่อใช่หรือไม่”

ความสนใจของเด็กเฝ้าประตูมุ่งเน้นไปยังคำสี่คำนั้น ‘เฉพาะบุคคลเฉพาะหมายเลข’ เขาลังเลชั่วขณะ แล้วพยักหน้ารับ “ใช่!”

หากเขายืนกรานเช่นนี้แล้ว อีกฝ่ายจะทำอย่างไรได้เล่า

อย่างไรก็ตาม มีสิ่งหนึ่งที่แน่นอนนั่นก็คือหมอเทวดารังเกียจคนของจวนแม่ทัพใหญ่ลั่ว

แม้แต่ฮ่องเต้ก็ยังทรงเกรงใจหมอเทวดา ตราบใดที่เขามีหมอเทวดาคอยหนุนหลังก็ไม่มีอะไรต้องกลัว

“แน่ใจหรือ”

“ข้าแน่ใจ” สีหน้าของเด็กเฝ้าประตูฉายแววหงุดหงิด

ลั่วเซิงยกป้ายหมายเลขในมือขึ้นมา “ถ้าอย่างนั้น เจ้าบอกข้าหน่อยสิว่าว่าป้ายหมายเลขที่เจ้ามอบให้ไคหยางอ๋องเป็นเลขอะไร”

เด็กเฝ้าประตูหน้าเปลี่ยนสี ท่าทางอ้ำอึ้งอับจนคำพูด

ในเวลานั้น เขาเพียงแค่หยิบป้ายหมายเลขยื่นให้ไปส่งๆ ไหนเลยจะทันสังเกตว่าป้ายหมายเลขของไคหยางอ๋องเป็นเลขใด

เพราะความจริงแล้วเรื่องที่ว่าเฉพาะบุคคลเฉพาะหมายเลขนี้ก็เป็นเพียงข้ออ้างเพื่อเอาชนะจวนลั่วให้ไม่ได้เข้ารับการรักษาเท่านั้น หาได้ทำเช่นนั้นจริงไม่

“หากจำป้ายหมายเลขที่มอบให้ไคหยางอ๋องไม่ได้ ถ้าเช่นนั้นป้ายหมายเลขของคุณหนูจูเล่า”

“หา…” เด็กเฝ้าประตูท่าทางลนลาน เหงื่อกาฬเริ่มผุดพรายบนหน้าผาก

จูหานซวงเหลือบมองป้ายหมายเลขอย่างรวดเร็วแล้วตอบกลับ “เป็นหมายเลขสิบแปด”

เด็กเฝ้าประตูถอนใจด้วยความโล่งอก “ใช่ เป็นเลขสิบแปด!”

“เห็นได้ชัดว่าเจ้าไม่รู้…” ลั่วเย่ว์อดสอดปากขึ้นมาไม่ได้

คราวนี้ลั่วเซิงไม่ได้กล่าวอะไร เป็นลั่วฉิงที่ห้ามนางไว้ เอ่ยเสียงเบา “น้องสี่ พวกเราให้น้องสามจัดการเถอะ”

จนปัญญา เรื่องทะเลาะตบตีกับคนอื่นนี้ พวกนางไม่ถนัดเอาเสียเลย

ลั่วเซิงราวกับไม่แยแสการกระทำกลโกงอันโจ่งแจ้งนี้เลยแม้แต่น้อย กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงสบายๆ “ถ้าเช่นนั้น ป้ายหมายเลขของไคหยางอ๋องคือ…”

“สิบเก้า!” เด็กเฝ้าประตูโพล่งออกมา

เขาจำได้แม่นว่าคุณหนูจูและไคหยางอ๋องมาถึงไล่เลี่ยกัน ในเมื่อป้ายหมายเลขของคุณหนูจูเป็นสิบแปด ถ้าอย่างนั้นป้ายหมายเลขของไคหยางอ๋องย่อมเป็นสิบเก้า

ลั่วเซิงปรบมือ “ถูกต้อง”

เด็กเฝ้าประตูมึนงงไปชั่วขณะ

เหตุใดคุณหนูลั่วถึงเห็นด้วยกับเขาง่ายดายนักเล่า

เด็กเฝ้าประตูเริ่มกลัดกลุ้ม เมื่อเห็นว่าหญิงสาวผู้มีสีหน้าสงบราบเรียบ ฉับพลันก็ดึงแส้ยาวที่พันรอบเอวออกมาแล้วฟาดลงบนพื้น

เสียงใสกังวานของแส้ที่ดังกระทบพื้นราวกับเรียกสติของทุกคนโดยพลัน ไม่ว่าใครก็ตามที่เฝ้าดูด้วยความตื่นเต้น หรือผู้ที่หยิบป้ายหมายเลขแล้วเดินเข้าไปแล้วก็ต้องหยุดเคลื่อนไหว

เด็กเฝ้าประตูใบหน้าซีดเผือด แต่ยังพยายามแสร้งถามด้วยเสียงแข็งกร้าว “ต่อหน้าหมอเทวดา คุณหนูยังคิดจะทุบตีคนอีกรึ”

ใบหน้าของลั่วเซิงคล้ายฉาบด้วยน้ำค้างแข็ง ถามกลับ “หมอเทวดาออกป้ายหมายเลขสามสิบอันต่อวัน และวันนี้รถม้าของจวนลั่วก็อยู่หลังไคหยางอ๋องเพียงก้าวเดียว เช่นนั้นข้าถามเจ้าหน่อยเถอะ ในเมื่อป้ายหมายเลขของไคหยางอ๋องคือสิบเก้า เหตุใดพวกข้ากลับไม่ได้รับป้ายหมายเลข มิใช่ว่าคนเฝ้าประตูเช่นเจ้าจงใจสร้างความยุ่งยากให้พวกข้าหรอกรึ”

เด็กเฝ้าประตูลนลานโต้แย้ง “ข้าไม่มี…”

“ไม่มีอย่างนั้นหรือ แล้วเหตุใดเจ้าจึงยึดป้ายหมายเลขที่เหลือเอาไว้ไม่มอบให้พวกข้า ซ้ำยังหาข้ออ้างว่าป้ายหมายเลขไม่สามารถส่งต่อได้ หากเฉพาะบุคคลจริงๆ แต่เจ้ากลับจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าใครได้เลขอะไร แล้วจะทำอย่างที่ว่าเฉพาะบุคคลเฉพาะเลขอย่างไรกัน”

เด็กสาวกล่าวอย่างฉับไว เหตุผลก็กระจ่างแจ้ง จนเด็กเฝ้าประตูหัวใสที่โดนถามเช่นนี้จนปัญญาไร้ข้อโต้แย้ง

ลั่วเซิงก้าวไปข้างหน้าพร้อมแส้ยาวในมือ น้ำเสียงดุร้ายยิ่งกว่าเก่า “เจ้าบอกข้าสิ ว่ากฎที่หมอเทวดาตั้งไว้นั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในชั่วข้ามคืน หรือเป็นเจ้าที่จงใจทำให้เรื่องยากขึ้น”

ใบหน้าของเด็กเฝ้าประตูพลันเปลี่ยนสี “กฎที่ตั้งโดยหมอเทวดาย่อมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้!”

ผู้ที่มาขอรับการรักษาส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ร่ำรวยมีฐานะดีสูงส่ง การให้คนกลุ่มหนึ่งปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ในตอนแรกย่อมประสบปัญหาบ้าง จนถึงยามนี้ก็มิใช่เรื่องง่ายที่ทุกคนจะยินยอมทำตามโดยไม่โต้แย้ง ไหนเลยจะสามารถเปลี่ยนได้ตามอำเภอใจ

หากเป็นเช่นนี้ กฎเกณฑ์ก็ไม่นับว่าเป็นกฎเกณฑ์แล้ว

หากหมอเทวดารู้เข้าว่าเขาทำผิดกฎอันเคร่งครัด จะต้องถูกไล่ออกเป็นแน่!

เด็กเฝ้าประตูพลันตื่นตระหนกครั้งใหญ่

ลั่วเซิงเหวี่ยงแส้เบาๆ ราวกับคุณหนูธรรมดาคนหนึ่งกำลังโบกผ้าเช็ดหน้า กล่าวอย่างใจเย็น “ข้าและพี่น้องมีความตั้งใจจริง มาที่นี่ก็เพื่อขอรับการรักษาให้บิดา ในเมื่อกฎของหมอเทวดาที่กำหนดไว้มิได้เปลี่ยนแปลง เช่นนั้นเจ้าโปรดบอกข้าต่อหน้าทุกคนด้วยเถิด แท้จริงแล้วกฎมีอะไรบ้าง”

ใบหน้าของเด็กเฝ้าประตูซีดเผือด ริมฝีปากสั่นเทา สุดท้ายจึงค้อมกายลง ก้มศีรษะไปทางด้านข้าง “เป็นข้าน้อยเองที่เลอะเลือนไปชั่วครู่ เชิญคุณหนูเข้าไปได้”

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 55 เชิญแม่นางเข้าไปได้"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์