ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 105 ตกตะลึง
หนิงเหยี่ยนขมวดคิ้วถามว่า “เขาเป็นใคร ทำไมนายต้องประหลาดใจมากขนาดนั้น”
“นายพลเห่า!” หยางมู่คุนจ้องมองตามร่างชายคนนั้นด้วยความตกใจ ขณะกระซิบกระซาบ “ท่านเป็นผู้บัญชาการกองกำลังพิเศษ!”
บุรุษผู้นี้มักจะอยู่ในเมืองหลวง และเป็นที่นับถือด้วยตำแหน่งสูงในกองทัพ แม้แต่ปู่ของเขาก็ยังเป็นนายพลที่มีตำแหน่งต่ำกว่าคนผู้นี้ ทำไมบุคคลแบบนี้ ที่เคยเห็นแต่ในทีวี จึงมาปรากฏตัวที่เมือง A และยังมาที่โรงพยาบาลหลินอันอีกด้วย! เขามาเยี่ยมคนป่วยใช่ไหม
คนระดับนี้ มีชื่อเสียงเช่นนี้ คงไม่ได้มาพบแพทย์ แต่ในเมื่อเขามาที่นี่แบบนี้ เขาต้องมาเยี่ยมคนป่วยแน่ๆ!
ทุกคนประหลาดใจ รวมถึงเฮ่อหว่านหนิงด้วย เขาถามว่า “คุณแน่ใจหรือว่าเป็นท่าน ถ้าท่านจะมาเยี่ยมคนป่วยสักคน ก็น่าจะเยี่ยมที่เมืองหลวง ทำไมท่านถึงมาที่นี่”
หยางมู่คุนส่ายศีรษะตอบว่า “ฉันไม่รู้ แต่ที่ฉันรู้คือผู้ชายคนนี้คือนายพลเห่าจริงๆ พลเอกเห่าหง ฉันแน่ใจว่าเป็นท่าน!”
“ท่านมาทำอะไรที่นี่” หยางมู่คุนขมวดคิ้วพูดกับตัวเอง “แม้แต่ตอนที่คุณปู่ป่วย ท่านยังไม่เคยมาเยี่ยมเลย”
เซียวส่ากับเซียวจิ่งมองหน้ากัน และคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ท่านนายพลจะมาเยี่ยมเซียวเหยา นายพันตรีเล็กๆ คนหนึ่งอย่างนั้นหรือ
หยางมู่คุนถามว่า “เฮ้ น้องๆ ทั้งสอง มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงมารักษาตัวในโรงพยาบาลของนายหรือ”
เซียวส่ากล่าวอย่างไม่พอใจ “นายคงไม่คิดหรอกนะว่าเราจะต้องรู้ ว่ามีผู้ป่วยแบบนั้นในโรงพยาบาลของเราหรือเปล่า”
“แปลกมาก… แปลกจริงๆ …” หยางมู่คุนส่ายศีรษะ “เดี๋ยวกลับบ้านฉันจะถามคุณปู่ว่ามีนายพลคนไหนมาใช้ชีวิตอยู่ในเมือง A บ้างหรือเปล่า”
เฮ่อหว่านโจวหัวเราะกล่าวว่า “คุณปู่นายเกษียณแล้ว ท่านอาจไม่รู้ นายกลับไปถามพ่อนายก็ได้นี่”
หยางมู่คุนส่งเสียงออกทางจมูกเบาๆ แล้วกล่าวว่า “ฮื่อ พี่น้องฉันทั้งผู้ชายผู้หญิง ทุกคนเป็นทหารในกองทัพ ยกเว้นฉัน เพราะเหตุนี้พ่อฉันก็เลยไม่ชอบฉัน และไม่ค่อยยิ้มให้ฉันซักเท่าไร แต่ทำไมเราทุกคนต้องเข้าร่วมในกองทัพด้วยล่ะ ฉันรับใช้กองทัพเป็นเวลาสองปีตามที่พวกท่านต้องการแล้ว จะมาขอให้ฉันอยู่ในกองทัพตลอดชีวิตได้อย่างไร”
เฮ่อหว่านโจวส่ายศีรษะ “นายไม่รู้หรอก ว่านายโชคดีแค่ไหน!”
เซียวส่าอยากรีบไปดูว่านายพลเห่ามาเยี่ยมพี่ชายเขาจริงๆ หรือเปล่า เขาจึงอยากรีบส่งคนเหล่านี้กลับไป “เฮ้ พวกเราอย่ามายืนอยู่ที่ทางเข้าโรงพยาบาลแบบนี้เลย เป็นจุดสนใจหมดแล้ว ถึงเวลาที่พวกนายทุกคนจะกลับไปได้แล้ว”
หนิงเหยี่ยนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เมื่อมีรถอีกคันหนึ่งมาจอดลงตรงหน้าพวกเขา ชายสองคนสวมชุดขาวลงจากรถ ถือแล็ปท็อปไว้ในมือ นายแพทย์คนหนึ่งพูดถึงสภาพของผู้ป่วยกับนายแพทย์อีกคนหนึ่งขณะลงจากรถ “จากประวัติทางการแพทย์ของผู้ป่วย ผมมองไม่เห็นปัญหาอะไรเลย ผมคิดว่าเซลล์สมองของเธอจะต้องเสียหายร้ายแรง คุณคิดว่ายังไง”
นายแพทย์อีกคนดูท่าทางกังวล “ต้องเป็นเรื่องเร่งด่วนมาก พวกเขาถึงได้รีบขอให้เรานั่งเครื่องบินจากเมืองหลวงมาที่นี่”
นายแพทย์ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรอีก และเดินเข้าไปในโรงพยาบาล
ด้วยความร้อนรนจากความวิตกกังวล เซียวส่ากับเซียวจิ่งพยายามส่งแขกให้รีบกลับไป “รีบกลับได้แล้ว”
เซียวจิ่งมองหน้าเฮ่อหว่านอีและกล่าวว่า “เฮ้ ซุปเปอร์สตาร์ ไม่มีงานทำหรือไง ได้ข่าวว่ามีงานแสดงต้องไปถ่ายไม่ใช่หรือ ไปได้แล้ว เราก็ต้องไปแล้วเหมือนกัน”
หนิงเหยี่ยนสุนัขจิ้งจอกผู้เจนสังเวียน สังเกตเห็นพี่น้องทั้งสองดูวิตกกังวลมาครู่ใหญ่แล้ว ขณะมองตามหลังคนทั้งสองเขาหรี่ตาลง กล่าวด้วยรอยยิ้มจางๆ “พวกนายสังเกตไหม ว่าสองคนนี้ปิดบังอะไรบางอย่างจากพวกเรา”
หยางมู่คุนก็รู้สึกเช่นกัน เขาพยักหน้าเห็นด้วย “ดูเหมือนทั้งสองคนอยากให้เราออกไปโดยเร็วที่สุด”
เฮ่อหว่านอีกล่าวว่า “ถ้าเราอยากรู้ว่าพวกเขาซ่อนอะไรบางอย่างจากเราหรือเปล่า เราก็ควรกลับขึ้นไปชั้นบน และไปดูกันหน่อย”
ทุกคนตัดสินใจขึ้นไปชั้นบนอีกครั้ง ยกเว้นเฮ่อหว่านหนิง เฮ่อหว่านโจวมองหน้าน้องชายแล้วเดินเข้าไปตบไหล่กล่าวว่า “น้องชาย นายไม่คิดว่าหมอพวกนั้นจะมาดูอาการเซียวโหรวหรือ นายไม่อยากรู้หรือว่าอาการจริงๆ ของเธอเป็นยังไง”
เฮ่อหว่านหนิงถูกเกลี้ยกล่อมด้วยเหตุผลนี้และพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นเราขึ้นไปดูกัน”
ทุกคนรีบขึ้นไปที่ชั้นวีไอพีอีกครั้ง เป็นไปตามที่พวกเขาคาดคิด นายแพทย์ที่พวกเขาเห็นด้านล่างเข้าไปในห้องพักคนไข้ของเซียวโหรว หยางมู่คุนยักคิ้วให้เฮ่อหว่านหนิงพร้อมกับกล่าวว่า “เห็นไหมล่ะ”
“พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ถูกเชิญตัวมาจากเมืองหลวงอย่างนั้นหรือ”
“และพวกเขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทั่วไป” หยางมู่คุนกล่าวพร้อมกับเม้มริมฝีปาก “ทั้งสองคนดูไม่เหมือนหมอธรรมดา ฉันคิดว่าพวกเขาเป็นหมอทหาร”
ทุกคนรู้สึกประหลาดใจ “ฮะ? หมอทหาร!”
หยางมู่คุนยกมือขึ้นส่งสัญญาณให้พวกเขาเงียบเสียง “ตอนที่ฉันเข้ารับราชการในกองทัพ คุณพ่อส่งฉันไปที่ฐานการฝึกในเมืองหลวง ฉันอยู่ที่นั่นสองสามเดือน มีหมอทหารจำนวนมากมาศึกษาหลักสูตรพิเศษ ภายใต้การคุ้มครองและการสนับสนุนของรัฐ หมอสองคนนี้ดูเหมือนหมอพวกนั้น”
ทันใดนั้นนายพลเห่าก็เดินออกมาจากห้องพักของเซียวเหยา และสนทนากับหยางจิ้งเสียนด้วยท่าทางอารมณ์ดี ดูไม่ขึงขังอย่างที่พวกเขาเพิ่งเห็นที่ชั้นล่าง หยางมู่คุนถอยหลังไปพิงฝาผนังร้องออกมาอย่างไม่อยากเชื่อ “นี่ฉันไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม”
หนิงเหยี่ยนพึมพำ “ตานายไม่ได้ฝาดหรอก นายพลเห่า คนเดียวกับที่เราเห็นในทีวี มาเยี่ยมเซียวเหยาด้วยตัวเอง”
เฮ่อหว่านโจวกระทุ้งสีข้างหยางมู่คุน ถามเสียงเบาว่า “นายพลเห่าคนนี้มาเยี่ยมลูกพี่ลูกน้องนาย เพราะคุณอานายหรือ”
หยางมู่คุนทำเสียงหงุดหงิด “เป็นไปได้ยังไง” เขาเพิ่งบอกทุกคนไปว่า แม้แต่คุณปู่ของเขาป่วย ก็ยังไม่มีโอกาสพิเศษอย่างการที่นายพลเห่ามาเยี่ยมด้วยตัวเองเลย!
แม้ว่าเมือง A จะสามารถเปรียบเทียบกับเมืองหลวงได้ในเรื่องความเจริญมั่งคั่ง แต่ก็ไม่อาจเทียบได้ในแง่มุมอื่นๆ
เฮ่อหว่านหนิงที่นิ่งเงียบมาตลอด ขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “ถึงยังไงท่านก็เป็นคนมีชื่อเสียง ท่านมาทำอะไรที่เมืองนี้ ถ้าพวกคุณมีคำถาม ก็เดินเข้าไปถามสิ!” จากนั้นเขาก็มุ่งหน้าไปยังห้องพักคนไข้
สายเกินไปที่ทุกคนจะห้ามเขาทัน พวกเขาจึงได้แต่รีบตามไป โชคดีที่นายพลเห่าออกไปแล้ว
เซียวส่ากับเซียวจิ่งกำลังรอผลการตรวจของแพทย์อยู่นอกห้องเซียวโหรว เมื่อเห็นกลุ่มคนเหล่านี้เดินกลับมาทั้งสองก็เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ แล้ววางแผนว่าจะทำเป็นแกล้งไม่รู้อะไรเลย
หยางมู่คุนเดินเข้ามาตบไหล่เซียวจิ่งพร้อมกับหัวเราะ “น้องเล็ก นายมีอะไรปิดบังซ่อนเร้นพวกเราอยู่หรือเปล่า นั่นน่ะคือนายพลเห่า ตาฉันไม่ฝาดใช่ไหม”
เซียวจิ่งขมวดคิ้ว “ฉันไม่รู้ว่าตานายฝาดหรือเปล่า ฉันไม่ใช่ตาของนาย”
เซียวส่าพยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่เซียวจิ่งพูด
ทันใดนั้นหยางจิ้งเสียนก็ออกมาจากห้องเซียวเหยา เมื่อเธอเห็นทุกคนชุมนุมกันอยู่ดวงตาเธอก็มีร่องรอยความประหลาดใจทันที และถามว่า “อ้าว นี่ยังไม่ได้กลับกันไปหรือ”
“คุณน้าหยางครับ พวกเรารู้สึกเป็นห่วงโหรวโหรว พวกเราบังเอิญเห็นมีหมอมาจากเมืองหลวงที่ชั้นล่าง เราก็เลยกลับมา”
เฮ่อหว่านอีอธิบายด้วยรอยยิ้ม “เดี๋ยวพอคุณหมอออกมาและแจ้งผลการตรวจ พวกเราก็จะกลับค่ะ”