ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 107 ฉันอยากกลับบ้าน
หลายวันผ่านไปเซียวโหรวก็ยังไม่ฟื้น แต่เฮ่อหว่านหนิงยืนกรานที่จะรอเซียวโหรวอีกหนึ่งสัปดาห์ ตอนนี้เซียวเหยาลุกจากเตียงได้แล้ว และคอยเฝ้าอยู่ข้างเตียงถังซีเกือบทั้งวันทุกวัน เซียวส่ากับเซียวจิ่งอยู่เฝ้าที่โรงพยาบาลหลายวัน ก่อนจะกลับไปทำงานเมื่อเพื่อนร่วมงานโทรมาขอร้อง
หยางจิ้งเสียนมาทุกวัน นำอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการมาให้เซียวเหยา และมาเช็ดตัวให้เซียวโหรว หลังจากหลินหรูรู้ว่าลูกสาวตกบันไดและเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เธอก็รีบวิ่งมาที่โรงพยาบาลทั้งน้ำตา และอยู่ที่นั่นโดยไม่สนใจการงาน
เซียวหงอี้ไม่สามารถเปลี่ยนใจภรรยา ทำได้แค่ขอให้เซียวเจี่ยนเข้าไปดูแลบริษัทบันเทิงของพวกเขาแทน เซียวเจี่ยนยินดีอย่างยิ่งในเรื่องนี้เพราะเขาเป็นคนบ้างาน เขาไม่ชอบทำอะไรเลยนอกจากทำงาน เขารู้สึกว่าการพักผ่อนและการหาความบันเทิงเป็นเพียงเรื่องไร้สาระไม่มีคุณค่าแก่ชีวิต
แต่เขาก็ยังหาเวลาไปเยี่ยมน้องสาวที่โรงพยาบาล แม้จะไปเพียงครั้งเดียวก็ตาม
เพราะเขาคิดว่าเขาไม่ใช่หมอ เซียวโหรวจะไม่ฟื้นขึ้นมาได้จากการที่เขาไปอยู่ที่โรงพยาบาลทุกวัน เขาควรกลับไปทำงานดีกว่า อย่างไรก็ตาม ถ้าหากเขาสามารถปลุกให้เซียวโหรวตื่นขึ้นมาได้ด้วยการนั่งเฝ้าเธอที่โรงพยาบาล เขาก็ยินดีที่จะทำเช่นนั้น
ช่วงเวลานี้หลินหรูและหยางจิ้งเสียนเข้ากันได้ดี ในขณะที่หลินหรูคิดว่าพวกเขาดูแลเซียวโหรวไม่ดีพอ เป็นสาเหตุให้เธอตกบันได เธอก็รู้ว่าเธอจะบ่นว่าไม่ได้ เธอจึงไม่พูดอะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพียงแค่มาอยู่คอยดูแลเซียวโหรวร่วมกับหยางจิ้งเสียนทุกวันเท่านั้น
หลังจากเช็ดตัวให้เซียวโหรวแล้ว หยางจิ้งเสียนก็นำน้ำที่ซักผ้าเช็ดตัวไปเททิ้งที่ห้องน้ำ จากนั้นก็มานั่งลงที่โซฟาใกล้ๆ ขณะมองดูหลินหรูซึ่งนั่งอยู่ข้างเตียงเซียวโหรว จับมือลูกสาวเธอไว้ เธอก็ถามเบาๆ ว่า “อาหรู ไม่เป็นไรจริงๆ หรือ ที่เธอไม่ไปทำงาน”
เธอไม่เข้าใจว่าทำไมหลินหรูซึ่งทำงานหนักมาตลอดชีวิต จู่ๆ ก็หยุดทำงานได้อย่างกะทันหัน และมานั่งอยู่ที่นี่ทุกวัน เพื่อคอยเฝ้าลูกสาวซึ่งครั้งหนึ่งเธอเคยเกลียดมาก
หลินหรูมองเซียวโหรวที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย เธอยิ้มอย่างรังเกียจตัวเองขณะกล่าวว่า “ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฉันคิดว่ามีเพียงงานเท่านั้นที่ทำให้ฉันมีความสุขได้ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าความทะเยอทะยานของฉันเป็นสิ่งที่ผิด ฉันทำงานหนักขนาดนั้นเพื่ออะไร เพื่อชีวิตที่ดีกว่าหรือ แต่ชีวิตของฉันก็ดีพอแล้วนี่ เพื่อให้ลูกๆ ของฉันมีชีวิตที่ดีขึ้นหรือ แต่ในขณะเดียวกันฉันกลับเมินเฉยต่อลูกสาวแท้ๆ ของตัวเอง เมื่อถึงเวลาที่ฉันคิดได้ และอยากชดใช้ทุกอย่างให้เธอ ลูกสาวฉันกลับต้องมานอนป่วยหนักอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าจะทำงานหนักและหาเงินทั้งหมดนั้นมาเพื่ออะไร!”
สามีเธอเป็นคนร่ำรวย ลูกชายเธอก็สามารถหารายได้ด้วยตัวเอง ทั้งสองไม่ได้ต้องการเงินของเธอ เธอเคยลงทุนทั้งเงินและแรงทั้งหมดให้กับผู้ได้ชื่อว่าเป็น ‘ลูกสาว’ แต่แล้วก็พบว่า… ท้ายที่สุดเมื่อเธอตัดสินใจจะชดเชยทุกสิ่งทุกอย่างให้กับลูกสาวที่เธอให้กำเนิด ลูกสาวกลับไม่ให้โอกาสเธอ
หยางจิ้งเสียนเม้มริมฝีปากและถอนหายใจ “ในเมื่อโหรวโหรวเคยฟื้นขึ้นมาจากการบาดเจ็บสาหัสในครั้งนั้นได้ เธอก็ต้องฟื้นขึ้นมาได้ในครั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญพวกนั้นบอกว่าร่างกายโหรวโหรวอ่อนล้าเกินกว่าจะฟื้นขึ้นมาได้ในตอนนี้ บางทีอาจเป็นการดีที่เธอจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่”
ใช่แล้ว ผู้เชี่ยวชาญจากเมืองหลวงตรวจร่างกายเซียวโหรวและสรุปว่าเธอกำลังนอนหลับ
นอนหลับอย่างนั้นหรือ ใครกันจะนอนหลับนานเป็นสัปดาห์อย่างนี้ พวกเขาบอกด้วยว่าเธออาจไม่ตื่นตลอดกาล นั่นไม่เหมือนกับสมองตายใช่ไหม! อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นบอกว่าแตกต่างจากอาการสมองตาย เพราะผู้ป่วยสมองตายจะเหมือนกับต้นพืชที่เ**่ยวแห้งไปแล้ว แทบไม่มีโอกาสฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาได้เลย นอกจากจะมีปาฏิหาริย์เท่านั้น แต่สำหรับเซียวโหรว เธอสามารถตื่นขึ้นมาได้ตลอดเวลา เพียงแต่พวกเขาบอกไม่ได้ว่าเมื่อไร
หลินหรูมองดูเด็กสาวที่นอนอยู่บนเตียงไม่วางตา และกล่าวเบาๆ ว่า “จิ้งเสียน เธอสัญญาอะไรกับฉันอย่างหนึ่งได้ไหม”
หยางจิ้งเสียนขมวดคิ้ว ถามกลับว่า “สัญญาอะไรหรือ”
“เธอให้โหรวโหรวไปๆ มาๆ ใช้ชีวิตอยู่ทั้งที่บ้านเธอและที่บ้านฉันได้ไหม หลังจากโหรวโหรวฟื้นขึ้นมาแล้ว” หลินหรูรู้ว่าเธอขอมากเกินไป แต่เธออยากอยู่กับลูกสาวจริงๆ เมื่อเห็นหยางจิ้งเสียนขมวดคิ้วเธอก็รีบบอกว่า “ฉันรู้ว่าฉันขอมากเกินไป แต่ฉันไม่รู้จริงๆ นะว่าเหยาจิ้นหนิงโกหก ถ้ารู้ฉันจะไม่ทำแบบนั้นกับโหรวโหรวเลย ฉันสาบานว่าจากนี้ไปฉันจะทำทุกอย่างเพื่อโหรวโหรว ถ้าใครกล้ามาทำร้ายโหรวโหรว ฉันจะไม่มีวันปล่อยคนๆ นั้น! ฉันขอแค่นี้ได้ไหม”
หยางจิ้งเสียนเม้มริมฝีปากแทนคำตอบ ในเวลานั้นเซียวเหยาเดินเข้าประตูมาพอดี เขากล่าวเสียงเรียบว่า “เอาไว้คุยเรื่องนี้กันอีกครั้งเมื่อโหรวโหรวฟื้นแล้วนะครับ เราจะขอความเห็นจากโหรวโหรว ถ้าเธอเห็นด้วยเราจะไม่ห้าม”
…
ถังซีใช้เวลาหลายวันในลองบีช อยู่กับเฉียวเหลียงตลอดเวลาทุกวัน เธอเฝ้าดูกลุ่มคนที่เฉียวเหลียงส่งออกไปตามหาเธอกลับมาโดยไม่ประสบความสำเร็จ เฝ้าดูเฉียวเหลียงเดือดดาลด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด เฝ้าดูภาพหลอนของเฉียวเหลียงพัฒนาความรุนแรงยิ่งขึ้น เฝ้าดูอาการนอนไม่หลับของเฉียวเหลียงที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ และเฝ้าดูเขาพูดคุยกับเธอตลอดค่ำคืนอันยาวนาน ขณะถือกล่องน้ำแข็งที่มีนิ้วมือเธออยู่ในนั้น
ยิ่งเฝ้าดูนานเท่าไร เธอก็ยิ่งรู้สึกเสียใจ และยิ่งอยากตบหน้าตัวเองมากขึ้นเท่านั้น
เป็นไงล่ะ ถังซี เธอทรมานเฉียวเหลียงขนาดนี้ได้อย่างไร
เมื่อคิดเช่นนี้ ถังซีก็พยายามอย่างหนักที่จะกลับคืนสู่ร่าง อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะใช้วิธีใด แบบไหน เธอก็ไม่สามารถออกจากลองบีช ไม่สามารถกลับไปเมือง A หรือเมืองหลวงได้ เธอทำได้แค่เฝ้ามองเฉียวเหลียงทรมานตัวเอง ไม่สามารถทำอะไรเพื่อหยุดยั้งเขาได้
ขณะที่ถังซีกำลังจมดิ่งลงสู่ห้วงลึกของความสิ้นหวังและความรู้สึกผิด อาหกก็วิ่งขึ้นมาชั้นบน ในมือถือแล็ปท็อปมาด้วย และกล่าวกับเฉียวเหลียงที่นั่งอยู่บนพื้น “เจ้านายครับ ผมหาเจอแล้วครับ ที่อยู่ของพื้นที่เชื่อมต่อเครือข่ายนั้นเป็นเท็จ เป็นที่อยู่ปลอมที่ถูกสร้างขึ้นครับ ที่อยู่จริงอยู่ในประเทศจีน ซึ่งไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับลองบีชเลย แต่ผมระบุพื้นที่แน่นอนไม่ได้ แผนกอื่นที่เก่งคอมพิวเตอร์กว่าผมจะสามารถหาตำแหน่งที่แน่นอนที่ผมหาไม่เจอได้ครับ”
ถังซีเม้มริมฝีปาก หากรู้ความจริงข้อนี้แต่แรก เธอจะไม่ใช้ทักษะการแฮ็คของ 008 เธอคิดไม่ถึงว่าแม้แต่แฮ็กเกอร์มืออาชีพก็ไม่สามารถติดตามเธอได้
ตอนนี้เธอตั้งความหวังอย่างจริงจังว่าพวกเขาจะหาพบโดยเร็วว่าเธออยู่ส่วนไหนในประเทศจีน หรือแม้แต่หาตัวเธอพบ เพื่อที่เฉียวเหลียงจะได้ไม่ต้องเจ็บปวดอยู่ทุกวันอย่างนี้ หัวใจเธอปวดร้าวเหลือเกินเมื่อเห็นเฉียวเหลียงต้องเป็นแบบนี้ไม่มีวันสิ้นสุด
ถังซีมองดูเฉียวเหลียงด้วยความเศร้า เขานั่งนิ่งอยู่บนพื้นอย่างเลื่อนลอย ความเสียใจท่วมท้นในใจเธอ เธอรู้ว่าเขากลับสู่ภาพหลอนอีกแล้ว
อาหกเรียกเฉียวเหลียง แต่เขาไม่ตอบ อาหกจึงตะโกนว่า “คุณถัง!”
เมื่อได้ยินอย่างนี้เฉียวเหลียงก็มีปฏิกิริยาตอบสนองทันที เขาหันกลับไปมองอาหก และฝ่ายหลังกล่าวซ้ำอย่างรวดเร็วในสิ่งที่เพิ่งพูดไป เฉียวเหลียงขมวดคิ้ว “ประเทศจีนหรือ อยู่ในเมืองหลวงหรือเปล่า”
อาหกส่ายศีรษะ “ผมไม่แน่ใจครับ สิ่งที่ผมแน่ใจก็คืออยู่ในประเทศจีนจริงๆ เป็นที่อยู่ปลอมที่ใช้ปกปิดตำแหน่งที่แท้จริงครับ”
เฉียวเหลียงผุดลุกขึ้นจากพื้น กล่าวอย่างจริงจัง “เตรียมตัวกลับบ้าน!”
อาหกไม่รีรอ เขาพยักหน้าแล้วรีบลงไปชั้นล่าง แจ้งอาห้าและคนอื่นๆ ให้กลับมาที่ที่พัก และเตรียมตัวเดินทางกลับประเทศจีน
เมื่อเห็นเช่นนั้นถังซีก็รู้สึกวิตกกังวลอย่างมาก ถ้าพวกเขากลับไปประเทศจีนจะเกิดอะไรขึ้นหากเธอไม่สามารถกลับไปได้ เมื่อคิดอย่างนี้ถังซีก็ตะโกนออกมาด้วยความหวาดวิตก “ศูนย์ ศูนย์ แปด ฉันอยากกลับบ้าน!”