ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 144 นายได้รับอนุญาตจากฉันหรือยัง
เขาหงสืออยู่ในจุดชมวิวที่มีทัศนียภาพสวยงามในเขตชานเมือง A ขับรถไปประมาณสองชั่วโมงจากตัวเมือง ถังซีกับพี่น้องตระกูลเซียวออกจากบ้านเวลาเจ็ดนาฬิกาสิบนาที เซียวส่ามองดูนาฬิกาวาเชอรอง คอนสแตนตินที่ข้อมือ แล้วกล่าวว่า “เราควรไปถึงที่นั่นประมาณเก้าโมงครึ่ง ขับรถให้เร็วหน่อย เพราะหลังจากไปถึงเธออาจต้องลองเสื้อผ้า การถ่ายทำจะเริ่มประมาณสิบโมง โหรวโหรวมีปัญหาอะไรเรื่องการถ่ายทำบ้างหรือเปล่า”
ถังซีเดินตามพี่ชายออกจากประตู และตอบด้วยรอยยิ้ม “ไม่เลย ฉันเคยเป็นตัวแทนโฆษณาสินค้าให้เอ็มไพร์กรุปอยู่เหมือนกันค่ะ แล้วครั้งนี้ฉันเพิ่งไปทดลองบท ซึ่งก็ทำออกมาได้ดี”
เมื่อสังเกตเห็นว่าเธอไม่รู้สึกอะไรเลยกับการพูดถึงอดีตของตัวเองต่อหน้าพวกเขา เซียวจิ่งกับเซียวส่าก็ประหลาดใจ แต่รู้สึกประทับใจ เธอยินดีที่จะพูดถึงอดีตให้พวกเขาฟัง แสดงให้เห็นว่าในหัวใจเธอยอมรับพวกเขาเป็นครอบครัวที่เธอไว้วางใจ
เซียวจิ่งถามว่า “เอ็มไพร์กรุปจ่ายให้เธอเท่าไหร่ในการเป็นตัวแทนโฆษณาสินค้า”
ถังซียิ้มเจ้าเล่ห์ขณะมองหน้าเซียวจิ่ง “เอ็มไพร์กรุปเป็นของฉันทั้งหมด พี่คิดว่าฉันยังจะต้องการค่าจ้างในการเป็นตัวแทนโฆษณาสินค้าอีกเหรอ”
“นี่น้องสาว เธอกำลังอวดรวยใส่พี่ใช่ไหมเนี่ย” เซียวจิ่งพูดเย้าแหย่ถังซี ขณะทั้งหมดเดินออกไปที่ลานหน้าบ้าน จากนั้นเขาก็เปิดประตูรถให้ถังซี
ถังซียิ้ม ขยิบตาให้เซียวจิ่งและกล่าวว่า “อย่าเศร้าไปเลยค่ะพี่ชาย ตอนนี้ฉันจนกว่าพี่เยอะ”
เซียวส่าหัวเราะ บอกกับเธอว่า หลังจากถ่ายโฆษณาวันนี้เธอจะกลับมาร่ำรวยอีกครั้ง ถังซีหันหลังจะขึ้นรถ เซียวจิ่งนั่งประจำที่คนขับ เซียวส่าเปิดประตูรถและขึ้นนั่งบนที่นั่งข้างคนขับ เซียวจิ่งกำลังจะสตาร์ทรถเมื่อประตูด้านหลังเปิดออก เขาหันไปดูและเห็นเป็นเฉียวเหลียง เขาเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ พร้อมกับถามว่า “นายมาตั้งแต่เมื่อไร ไม่ใช่สิ นายมาทำอะไรที่นี่”
ถังซีเองก็มองเฉียวเหลียงที่อยู่ข้างๆ ด้วยความประหลาดใจ รวมทั้งอุทานด้วยเช่นกัน “คุณมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไร”
เฉียวเหลียงเข้าไปนั่งในรถ มองหน้าเซียวจิ่ง แสดงท่าทางให้เขาขับรถไป จากนั้นก็พยักหน้าทักทายเซียวส่า ก่อนจะหันมาหาถังซีและถามว่า “คุณขอให้ผมไปเขาหงสือกับคุณด้วยไม่ใช่หรือ ไปดูคุณถ่ายโฆษณาทีวีไงล่ะ” ความลังเลเหมือนไม่แน่ใจกะพริบอยู่ในดวงตาเขา แต่เห็นได้ชัดว่าเขาอารมณ์ดี “คุณลืมไปแล้วหรือ”
เมื่อถูกจ้องมองด้วยสายตาแบบนั้น ถังซีก็ส่ายศีรษะอย่างงุนงงขณะตอบว่า “เปล่าค่ะ ไม่ได้ลืม แต่ฉันคิดว่าคุณจะขับรถไปเอง และ… และไม่เหมาะหรือเปล่าที่คุณจะไปกับเรา ใช่ไหมคะ”
เซียวจิ่งพยักหน้าเห็นด้วยขณะขับรถ “ใช่! ไม่เหมาะจริงๆ สำหรับนาย ท่านประธานแห่งเฉียวอินเตอร์เนชันแนลกรุป บุคคลผู้เป็นที่รู้จักดีในประเทศจีน ที่จะนั่งรถไปกับผู้หญิงที่กำลังจะไปถ่ายโฆษณาโทรทัศน์ จะไม่เป็นการทำลายภาพพจน์อันดีงามของนายหรือ ถ้าข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป”
เฉียวเหลียงจ้องหน้าเซียวจิ่งให้เขาหุบปาก ก่อนจะเอนกายพิงเบาะรถ ขยี้หัวคิ้วตัวเองและกล่าวอย่างขึงขัง “ฉันทำงานล่วงเวลาจนถึงตีสามครึ่งเมื่อคืนนี้ หลังจากนั้นฉันก็นอนไม่หลับ ฉันง่วงนอน ขับรถไม่ไหวหรอก”
เซียวจิ่งเบิกตากว้างจ้องมองเขา ขณะบ่นในใจ กู้อวิ๋นเขาเต็มใจขับรถให้นาย! คนของนายทุกคนยินดีขับรถให้นาย! จำเป็นด้วยหรือที่นายจะมาที่นี่แต่เช้าตรู่ เพื่อมานั่งรถไปกับพวกเรา นายตื่นสายๆ แล้วให้พวกเขาไปส่งนายที่นั่นก็ได้! หรือถ้านายตื่นสิบโมง นายให้เฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวของนายไปส่งนายก็ยังได้!
อย่างไรก็ตาม ถังซีไม่ได้คิดแบบนี้ เธอรู้สึกกังวลขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเฉียวเหลียงบอกว่าเขานอนไม่หลับ เธอขมวดคิ้วมองเขา ถามเบาๆ ว่า “นี่คุณทานอาหารเช้าแล้วหรือยัง ไม่ต้องไปกับฉันก็ได้ กลับไปนอนเถอะค่ะ”
เซียวจิ่งกับเซียวส่ารีบพยักหน้าเห็นด้วยอย่างแรงกับคำพูดของเธอ เซียวส่าเสริมด้วยว่า “ใช่แล้ว เฉียวเหลียง นายไม่ได้นอนเลยทั้งคืน ไม่ต้องไปกับเราหรอก เราจะดูแลปกป้องโหรวโหรวเอง นายไม่ต้องเป็นห่วง”
เมื่อได้ยินคำพูดเป็นห่วงเป็นใยของถังซี เฉียวเหลียงก็ไม่สนใจความหมายในคำพูดของเซียวส่า เขาลูบผมถังซีด้วยความรักและกล่าวเสียงเรียบ “กลับไปนอนผมก็นอนไม่หลับหรอก ให้ผมไปดูคุณถ่ายโฆษณาดีกว่า”
ถังซีรู้ว่าเฉียวเหลียงยังไม่สามารถลืมเรื่องการตายของเธอได้ เมื่อใดที่หลับตาเขาจะมองเห็นภาพฉากการตายของเธอ หรือเห็นส่วนต่างๆ ของร่างกายเธอถูกพัดกระจัดกระจายไปกับน้ำ เวลาและการมีเธออยู่ด้วยเท่านั้นที่จะสามารถเยียวยารักษาเขาได้
เมื่อคิดเช่นนี้ถังซีก็กุมมือเขาไว้ แล้วกระซิบว่า “เอนพิงไหล่ฉันสิคะ แล้วนอนหลับให้สนิท”
เซียวส่ากับเซียวจิ่งดูเศร้ามาก น้องสาวของพี่! ถูกเขาหลอกง่ายดายอย่างนี้ได้อย่างไร เขาแค่อยากได้ความเห็นอกเห็นใจจากเธอ! เธอไม่เข้าใจหรือไง! พี่ชายทั้งสองมองตากันอย่างขมขื่น แต่ไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่เดือดดาลด้วยความหวงน้องสาว…
เฉียวเหลียงยิ้ม แต่ไม่เอนศีรษะพิงไหล่ถังซีนอนหลับอย่างที่เธอบอก เขากลับถามเธออย่างอ่อนโยน “คุณเอาอาหารมาบ้างหรือเปล่า เพราะว่าคุณยังไม่ได้ทานอาหารเช้าเลยไม่ใช่หรือ”
ถังซีขมวดคิ้ว เริ่มควานหาในกระเป๋า จากนั้นเธอก็หยิบขนมปังสองก้อนกับนมกล่องหนึ่งที่ตั้งใจจะนำมาทานบนรถออกมา ส่งให้เขาพร้อมกับกล่าวว่า “กระเพาะอาหารคุณไม่ดี ทำไมถึงไม่ทานอะไรก่อนออกจากบ้าน”
เฉียวเหลียงหยิบขนมปังมากัดกิน ดื่มนมอึกหนึ่ง ก่อนจะมองหน้าเธอแล้วตอบว่า “ผมกลัวว่าคุณจะไปก่อน”
ถังซีกะพริบตาปริบๆ เกือบจะร้องไห้ บางทีเซียวจิ่งกับเซียวส่าอาจไม่เข้าใจเขา แต่เธอเข้าใจ เมื่อเห็นเขาเป็นแบบนี้น้ำเสียงเธอก็แหบพร่า “ฉันจะไม่ทิ้งคุณไปไหน อาเหลียง ฉันสาบานว่าจะไม่มีวันไปจากคุณ เมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการฉัน ฉันจะอยู่กับคุณ คุณเข้าใจไหม”
เฉียวเหลียงหยุด ขณะมองตาเธอและยิ้ม “ผมรู้”
ผมไม่เคยรู้เลยว่าคุณจะไม่ทิ้งผมไป จนกระทั่งผมได้เจอคุณอีกครั้ง
หนุ่มโสดทั้งสองที่นั่งอยู่เบาะหน้ารู้สึกราวกับถูกยิงเข้าที่กลางหัวใจ ด้วยถ้อยคำหวานซึ้งของคนทั้งคู่ เซียวจิ่งกัดฟันแน่น จ้องมองเฉียวเหลียงและกล่าวว่า “ฉันจำได้ว่าโรคนอนไม่หลับของนายไม่ร้ายแรงขนาดนี้นี่นา นายอยากพบจิตแพทย์บ้างไหมล่ะ”
เฉียวเหลียงค่อยๆ หันไปมองเซียวจิ่ง ถามอย่างใจเย็น แม้น้ำเสียงจะเย็นชาก็ตาม “นายคิดว่าฉันเป็นบ้าหรือ”
เซียวจิ่งขมวดคิ้ว “นายก็รู้ว่าฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น มีจิตแพทย์มากมายที่เขารักษาอาการนอนไม่หลับ นายลองไปปรึกษาดูได้นี่ นายนอนไม่หลับ เพราะฉะนั้นอาจจะ…”
เมื่อรู้สึกว่าบรรยากาศรอบตัวเฉียวเหลียงค่อยๆ ตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ ถังซีก็รีบขัดจังหวะการสนทนา “เฉียวเหลียงไม่จำเป็นต้องไปหานักจิตวิทยาหรอกค่ะ เขาแค่เป็นห่วงฉันมากเกินไปจนนอนหลับ ฉันจะนอนเป็นเพื่อนเขาสักครู่ช่วงบ่ายวันนี้ ให้เขาได้นอนหลับสนิท”
“อะไรนะ!” เซียวส่าตะโกน “เธอจะนอนเป็นเพื่อนเฉียวเหลียงเพื่อให้เขานอนหลับอย่างนั้นหรือ”
เฉียวเหลียงกัดขนมปังกินช้าๆ ไม่สะทกสะท้าน มองเซียวส่าแล้วถามว่า “มีปัญหาอะไรหรือเปล่า”
“มีแน่นอน! ” เซียวส่าคำราม “นายกินขนมปังของน้องสาวฉัน แล้วยังขอให้น้องสาวฉันนอนเป็นเพื่อนนายอีกอย่างนั้นหรือ นายได้รับอนุญาตจากฉันหรือยัง ที่จะทำอย่างนี้”
ถังซีพูดไม่ออก “พี่ส่า…” จริงๆ แล้วเขาได้รับอนุญาตจากฉัน…