ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 156 ตามมาทีละเรื่อง
ซีลั่วเสียนและเซียวหงอี้มองหน้าถังซีด้วยความตกใจ เอ่ยถามเกือบพร้อมกันว่า “ไม่ใช่เป็นเหตุบังเอิญหรอกหรือ”
“เหตุบังเอิญเหรอคะ” ถังซีหันหน้าไปมองคนทั้งสองพร้อมกับเลิกคิ้ว “จะมีเหตุบังเอิญอะไรมากมายขนาดนั้นคะในโลกนี้ ถ้าหนูเดาไม่ผิดเซียวจิ้นหนิงอาจเป็นหลานสาวแท้ๆ โดยสายเลือดของเถาเยี่ยนและหลินรั่วจื้อด้วยซ้ำ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงรักเธอมาก”
ด้วยสีหน้าที่ยังบ่งบอกอาการช็อค มีร่องรอยความไม่แน่ใจในน้ำเสียงของซีลั่วเสียนขณะถามว่า “นี่หนูพูดเรื่องจริงใช่ไหม”
ถังซีมองหน้าซีลั่วเสียน และยิ้มอย่างเยือกเย็น “จะจริงหรือไม่จริง เดี๋ยวตรวจสอบดูเราก็รู้ค่ะ” จากนั้นเธอก็หันไปหาเซียวหงอี้ ถามเขาว่า “พ่อคุณเรียกตำรวจหรือยังคะ”
เมื่อเธอกระตุ้นเตือน เซียวหงอี้ก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาตำรวจ
เซียวหงลี่กลับไปแล้วตอนที่ทุกคนขึ้นไปชั้นบน ซึ่งมีเซียวส่ากับเซียวจิ่งคอยเฝ้าเซียวจิ้นหนิงและสมาชิกครอบครัวหลินอยู่ในห้องทำงาน เมื่อหลิวเฉิงอวี่ปรากฎตัว เซียวจิ้นหนิงและเถาเยี่ยนก็มีท่าทางราวกับเห็นพระมาโปรด เซียวจิ้นหนิงร้องออกมาเสียงสั่น “พี่เฉิงอวี่…”
ทันทีที่เห็นหลิวเฉิงอวี่ เถาเยี่ยนก็รีบวิ่งเข้าไปหาเขาด้วยดวงตาเป็นประกาย นางจับมือเขาแล้วกล่าวอย่างอ่อนโยน “เฉิงอวี่ ฟังยายนะ จิ้นหนิงเป็นคู่หมั้นของเธอ เธอสัญญากับยายว่าจะปฏิบัติต่อจิ้นหนิงเป็นอย่างดี เธอมาที่นี่เพื่อจะมาขอโทษเธอใช่ไหม”
หลิวเฉิงอวี่ขมวดคิ้วพร้อมกับสะบัดมือ และตอบอย่างเย็นชา “ตอนนั้นผมพูดแบบนั้นเพราะคิดว่าเธอเป็นคู่หมั้นของผม แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าเธอไม่ใช่ตัวจริง”
“จิ้นหนิงเป็นคู่หมั้นของเธอ!” เถาเยี่ยนตะโกน “เธอพูดอย่างนี้ได้ยังไง! ตั้งแต่เริ่มแรกคู่หมั้นของเธอมีเพียงจิ้นหนิง เธอลืมไปแล้วหรือ”
หลิวเฉิงอวี่ขมวดคิ้ว เหลือบมองถังซีซึ่งยืนอยู่ใกล้ๆ เม้มริมฝีปากแล้วกล่าวว่า “คู่หมั้นของผมคือลูกสาวคุณน้าหลิน ไม่ใช่เซียวจิ้นหนิง!”
ร่องรอยความหวังสุดท้ายในหัวใจเซียวจิ้นหนิงมอดไหม้ลงด้วยคำพูดของเขา เธอก้าวเข้ามาหาหลิวเฉิงอวี่แล้วเย้ยหยัน “พี่ทิ้งฉันเหมือนเศษขยะ เพราะตอนนี้ฉันไม่มีค่าในสายตาพี่แล้วใช่ไหม หลิวเฉิงอวี่ พี่คิดหรือว่าเซียวโหรวจะอยู่กับพี่ หลังจากที่พี่ทำแบบนี้กับฉัน พี่คิดผิดเสียแล้ว เธอไม่มีวันรักพี่ และพี่จะไม่มีวันได้เธอ! ฉันขอสาปแช่งให้แกสองคนไม่ได้อยู่ด้วยกัน!”
เมื่อได้ยินคำสาปแช่งถังซีก็ยิ้ม พูดกับตัวเองเงียบๆ ว่า “ขอบคุณ สำหรับคำสาปแช่ง! จะต้องเป็นจริงอย่างแน่นอน!”
อย่างไรก็ตาม… เธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อฟังใครสาปแช่งใคร
ถังซีก้าวไปข้างหน้า หยิบรายงานผลการตรวจพิสูจน์ความเป็นบิดามารดาสองฉบับจากมือซีลั่วเสียน จากนั้นก็เดินไปนั่งลงที่โซฟาและวางรายงานลงบนโต๊ะ มองหน้าเซียวจิ่งแล้วถามว่า “พี่จิ่ง พี่โทรหาตำรวจแล้วใช่ไหม ตอนที่ฉันได้รับบาดเจ็บ”
เซียวจิ่งพยักหน้า ยิ้มน้อยๆ ให้ถังซี “ใช่ ตำรวจจะตรงมาที่โรงพยาบาลนี่เลย”
เมื่อได้ยินดังนี้ใบหน้าเซียวจิ้นหนิงก็เปลี่ยนสีทันที เธอจ้องมองถังซีอย่างดุร้าย พร้อมกับคำราม “เซียวโหรว เธอทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง!”
“ทำไมฉันถึงจะทำไม่ได้…” ถังซีเหลือบมองเซียวจิ้นหนิงผ่านๆ ก่อนจะทอดสายตาไปที่เถาเยี่ยนกับและหลินรั่วจื้อ เธอหัวเราะเย้ยหยันและกล่าวอย่างเยือกเย็น “พวกเราไม่ต้องการโต้เถียงกับคนบ้า และฉันไม่คิดว่าฉันจะสื่อสารกับคนอย่างพวกคุณรู้เรื่อง พวกเราจึงหันไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจ ก็เท่านั้น”
เถาเยี่ยนจ้องมองถังซีด้วยสายตาดุร้ายเช่นกัน นางชี้หน้าถังซี สบถและด่าทอ “นังเด็กสารเลว ฉันเลี้ยงดูแม่แกมา มันเรื่องใหญ่อะไรนักหนาที่ฉันจะสั่งสอนมัน มันสมควรโดนแบบนั้น! แกกล้าโทรหาตำรวจใช่ไหม ดี ฉันจะฟ้องร้องแก…”
“เงียบได้แล้ว อยากฟ้องฉันเหรอ เอาเลย ตามสบาย!” ถังซีขัดจังหวะ ลุกขึ้นยืน จ้องมองคนพวกนั้นเขม็ง ขณะที่น้ำเสียงเธอยังคงเยือกเย็น “แต่คุณควรศึกษากฎหมายให้ดีก่อนนะที่จะฟ้องร้องฉัน ไม่อย่างนั้นก็หุบปากเสีย ถึงพวกคุณจะไม่รู้สึกละอายใจกับตัวเองเลย แต่ฉันละอายใจแทนพวกคุณ!”
ทันใดนั้นก็มีกลุ่มคนผลักประตูห้องเปิดออกและเดินเข้ามา พวกเขาเป็นตำรวจ หนึ่งในนั้นตรงเข้าไปหาเซียวจิ้นหนิงและกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “คุณเซียวจิ้นหนิง คุณตกเป็นผู้ต้องสงสัย มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีทำร้ายร่างกายที่เกิดขึ้นในวันนี้ โปรดมากับพวกเราครับ”
เซียวจิ้นหนิงรีบเข้าไปหลบหลังเถาเยี่ยน “คุณไม่มีหลักฐานอะไร ทำไมฉันจะต้องไปกับคุณ!”
ตำรวจคนหนึ่งดึงหมายจับออกมา พร้อมกับจ้องมองเซียวจิ้นหนิง และกล่าวอย่างเยือกเย็น “กรุณาให้ร่วมมือกับเราด้วย มิฉะนั้นเราจะต้องใช้กำลังในการจับกุมคุณ!”
เขาสั่งให้ตำรวจอีกสองนายจับกุมเซียวจิ้นหนิง เมื่อเห็นว่าเซียวจิ้นหนิงกำลังจะถูกจับตัวเถาเยี่ยนก็รีบก้าวออกไปโต้เถียงกับตำรวจ “พวกคุณจะทำอะไร ปล่อยเธอนะ! คุณไม่รู้หรือว่าเธอเป็นใคร เธอคือเซียวจิ้นหนิงดาราใหญ่ พวกคุณจะจับกุมเธอไม่ได้!”
ตำรวจที่แสดงหมายจับจ้องมองนางอย่างเฉยชาและเตือนว่า “คุณครับ ผมขอแนะนำว่าอย่าขัดขวางเรา มิฉะนั้นเราจะจับกุมคุณในข้อหาขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน”
ขณะยืนดูละครตลกฉากใหญ่อยู่ข้างๆ ถังซีก็เลิกคิ้วขึ้นแล้วกล่าวว่า “คุณตำรวจคะ คุณจับกุมหญิงชราคนนี้ได้เลยค่ะ เราจะแจ้งความเธอข้อหาทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บโดยเจตนา เพราะเธอผลักคุณแม่ของฉันตกบันไดวันนี้ค่ะ คุณแม่ฉันยังนอนอยู่ในห้องไอซียูตอนนี้ และเมื่อกี้หญิงชราคนนี้พยายามสร้างเรื่อง อ้างว่าเธอเป็นผู้เลี้ยงดูคุณแม่ฉันมา ดังนั้นเธอสามารถทำร้ายร่างกาย หรือแม้แต่ฆ่าคุณแม่ของฉันก็ได้”
ถังซีอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้นโดยพูดเกินจริงไปบ้าง เธอไม่มีความเห็นอกเห็นใจให้กับมนุษย์ที่ชั่วร้าย เธอจึงไม่สนใจว่าเถาเยี่ยนจะทนฟังได้หรือไม่
เถาเยี่ยนกรีดร้องเสียงดังเมื่อได้ยินคำพูดของถังซี “ฉันเป็นแม่ของเธอ ฉันจะตีเธอไม่ได้เลยหรือ ฉันเลี้ยงดูเธอมา และตอนนี้ฉันแตะต้องเธอไม่ได้เลยหรือไง!”
“แตะต้องหรือ คุณเกือบจะฆ่าเธอ!” ถังซีตอบโต้ด้วยท่าทางเยือกเย็นที่สุด กระทั่งเถาเยี่ยนไม่รู้จะโต้แย้งอย่างไร
ถังซีมองหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังสับสน และกล่าวอย่างจริงจังว่า “คุณตำรวจคะ ฉันจะแจ้งความจับเถาเยี่ยนและหลินรั่วจื้อในข้อหาค้ามนุษย์ด้วยค่ะ คุณแม่ของฉันไม่ใช่ลูกของพวกเขา พวกเขาต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีเด็กหายเมื่อสี่สิบปีที่แล้วอย่างแน่นอนค่ะ”
เมื่อได้ยินอย่างนี้หลินรั่วจื้อก็ส่ายศีรษะอย่างรวดเร็ว และปฏิเสธทันที “ไม่ เราไม่เคยค้าเด็ก…”
ทันใดนั้นประตูห้องทำงานก็เปิดออกอีกครั้ง มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เดินเข้ามา เมื่อเห็นเขาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในห้องก็ยืนตัวตรงทำความเคารพ “ท่านผู้บัญชาการหลง ท่านมาที่นี่มีอะไรหรือครับ”
ผู้บัญชาการหลงมองหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะเดินเข้าไปหาเซียวจิ่งและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณเซียวจิ่ง ผมได้ยินมาว่ามีการพยายามทำร้ายร่างกายเกิดขึ้นที่นี่ใช่ไหม”