ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 158 โทรศัพท์เข้า
เซียวเจี่ยนกับเซียวหงอี้ยืนอยู่ข้างๆ พูดอะไรไม่ออก ได้แต่เฝ้าดูถังซี ในใจเซียวหงอี้เต็มไปด้วยภาพวันแรกที่เซียวโหรวกลับมาที่บ้านเขา เธอดูเขินอายและขลาดกลัว แต่ทว่าตอนนี้ เมื่อมองดูเธอในปัจจุบัน เขาไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือลูกสาวของเขา ในเวลาไม่นานหลังจากเธอมาถึง สถานการณ์ทุกอย่างก่อนหน้านี้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือโดยสิ้นเชิง หากไม่ใช่เพราะเธอ พวกเขาคงยังยืนอยู่ที่โถงทางเดินของโรงพยาบาล โต้เถียงกับคู่สามีภรรยาแก่ๆ ที่พยายามสร้างฉาก แล้วจ่ายเงินให้พวกเขาไปหลายล้านเป็นค่าครองชีพ หรือชดเชยความเสียหายทางจิตใจให้กับเซียวจิ้นหนิง…
แต่แล้วเธอก็มาปรากฏตัว ด้วยความพยายามเพียงเล็กน้อย เธอสามารถค้นพบความจริงที่ถูกปกปิดมานานหลายทศวรรษ อาหรูไม่ใช่ลูกของตัวเหลือบทั้งสอง พ่อแม่ที่ภรรยาเขาต้องอดทนต่อพฤติกรรมมานานหลายสิบปี ไม่ใช่พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดเธอ… ความจริงที่อาหรูไม่เคยรู้มาก่อนในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาถูกเปิดเผยโดยลูกสาวของพวกเขาเอง ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ…
หลังจากนั้นเธอก็ส่งเซียวจิ้นหนิงกับหญิงชราผู้ละโมบไปสถานีตำรวจด้วยคำพูดไม่กี่ประโยค คนเหล่านั้นถูกตำรวจจับกุม โดยที่พวกเขาไม่จำเป็นต้องไปที่สถานีตำรวจเลย
ตอนนี้เธอกำลังจะเปิดเผยความจริงที่น่าตกใจอีกเรื่อง…
ใช่… โลกนี้มีความบังเอิญไม่มากนัก คนเราจะจำลูกตัวเองผิดได้อย่างไร ความผิดพลาดเช่นนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร ถ้าไม่มีใครจงใจสับเปลี่ยนเด็กทั้งสองคน!
เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้ เซียวหงอี้ก็เดินเข้าไปหาถังซีและถามอย่างตื่นตระหนก “โหรวโหรว หนูหมายความว่า มีคนจงใจสับเปลี่ยนหนูกับเซียวจิ้นหนิง เพื่อให้เซียวจิ้นหนิงได้มีชีวิตที่ดีกว่าใช่ไหม”
ถังซีมองหน้าเซียวหงอี้และเลิกคิ้ว เธออยากจะบอกว่า ‘ขอบคุณพระเจ้าในที่สุดคุณก็ฉลาดขึ้น’ แต่ท้ายที่สุดเธอก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงพยักหน้าเล็กน้อยแล้วตอบว่า “ใช่ค่ะ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมหนูถึงอยากตามหาตัวหลินเจียว”
ในขณะนั้นนั่นเองก็มีเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น หลินรั่วจื้อสะดุ้งตกใจ เขารีบหยิบโทรศัพท์ออกมา ถังซีมองสบตาเซียวเจี่ยน ซึ่งยืนอยู่ใกล้หลินรั่วจื้อมากที่สุด และร้องออกมาว่า “รับโทรศัพท์ของเขา!”
เซียวเจี่ยนรีบก้าวออกไปข้างหน้าทันทีที่ถังซีพูดจบ เขาคว้าโทรศัพท์ของหลินรั่วจื้อ ถังซีถามว่า “ใครโทรมา”
“ชื่อผู้โทรคือ ‘ลูกสาว’ ก็ควรจะเป็นหลินเจียว” น้ำเสียงเซียวเจี่ยนเย็นชา เขาไม่เคยมีความรู้สึกรักใคร่ไยดีในตัวน้าสาวที่เป็นนักพนันว่างงานแม้แต่น้อย ก่อนหน้านี้เมื่อครั้งที่พวกเขาไปเยี่ยมตระกูลหลิน เขาจับได้ว่าเธอพยายามยั่วยวนพ่อเขาด้วยซ้ำ
ถังซีพยักหน้าให้เซียวส่า ขอให้เขาพาหลินรั่วจื้อออกไป แล้วส่งสัญญาณให้เซียวเจี่ยนรับโทรศัพท์ ทันทีที่มีการรับสายเสียงของหลินเจียวก็ดังขึ้นให้ทุกคนได้ยิน “พ่อ นี่พ่อกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมถึงได้นานขนาดนี้…
…พวกเขาตกลงให้เงินจิ้นหนิงหรือเปล่า จะให้เท่าไหร่…
…พวกเขาผลักไสจิ้นหนิงให้ต้องตกอยู่ในสภาพน่าสังเวชแบบนี้ พ่อปล่อยไปไม่ได้นะ! ถ้าพวกเขาไม่ยอมให้เงิน พ่อก็อยู่ที่นั่นแหละ ฉันคิดว่าพวกเขาไม่กล้าไล่พ่อหรอก… อ้าว พ่อ นี่ฟังฉันอยู่หรือเปล่า”
ถังซีเม้มริมฝีปากขณะก้าวออกมาคว้าโทรศัพท์และตอบด้วยเสียงคำรามเบาๆ หลินเจียวกล่าวเสริมอีกว่า “ถ้าพวกเขาไล่พ่อออกจากบ้านจริงๆ ก็เรียกตำรวจ แล้วบอกตำรวจว่าหลินหรูทอดทิ้งพ่อหลังจากแต่งงานกับเศรษฐี ฉันแน่ใจว่าพวกเขาต้องกลัว พวกคนรวยมักกลัวเสียหน้า พ่ออยู่ที่นั่นสักสองสามวัน เดี๋ยวก็ได้เงินจากพวกเขาเองแหละ!”
ถังซีตอบด้วยเสียงคำรามอีกครั้ง หลินเจียวหัวเราะด้วยความพึงพอใจ “เอาล่ะ แค่นี้นะ ฉันมีบางอย่างต้องไปทำ พ่อไม่ต้องทำอะไร แค่อยู่ที่นั่นไปก่อน ถ้าหลินหรูไม่ยอมให้เงิน พ่อก็ใช้วิธีเดิม โอเคนะ ฉันต้องวางสายแล้ว”
เมื่อได้ยินอีกฝ่ายวางสายโทรศัพท์ ถังซีก็สูดหายใจเข้าลึกๆ โยนโทรศัพท์ให้เซียวจิ่งพร้อมกับบอกว่า “ค้นหาที่อยู่เธอ”
ซีลั่วเสียนซึ่งฟังการสนทนาด้านเดียวโกรธมาก จนเกือบระเบิดความโกรธออกมา เธอขบเขี้ยวเคี้ยวฟันและร้องอุทานอย่างไม่อยากเชื่อ “น่าอายสิ้นดี! โลกนี้มีคนไร้ยางอายขนาดนี้ด้วยหรือ! พวกเขาทำสิ่งเลวร้ายมากมายไว้กับอาหรู แล้วตอนนี้ยังจะพยายามรีดไถเธออีก!”
ถังซียิ้ม ดวงตาเธอเย็นเยียบ จ้องมองโทรศัพท์ในมือเซียวจิ่งแล้วหัวเราะเยาะ “ไม่เป็นไรค่ะ หนูบันทึกการโทรไว้แล้ว เรานำไปใช้เป็นหลักฐานในศาลได้ว่าพวกเขาแบล็กเมล์ตระกูลเซียว” จากนั้นเธอก็ดูนาฬิกาข้อมือและกล่าวต่อไปว่า “เสียเวลามาเยอะแล้ว กลับไปพักผ่อนกันเถอะค่ะ” สุดท้ายเธอหันไปหาเซียวจิ่งแล้วกล่าวจนจบ “พี่จิ่ง หาที่พักให้หลินรั่วจื้อด้วยนะคะ อย่าให้เขาคุยกับใคร แต่ไม่ต้องทรมานเขา”
เซียวจิ่งตอบรับด้วยเสียงคำราม มองหน้าเธอแล้วถามว่า “เธอจะไม่กลับบ้านก่อนหรือ”
ถังซีส่ายหน้า ขณะหันไปมองเซียวเจี่ยนและเซียวหงอี้ จากนั้นก็กล่าวว่า “หนูว่าคุณพ่อกับพี่คงมีธุระเรื่องงานต้องไปจัดการ กลับไปทำงานเถอะค่ะ หนูจะจัดการทางนี้เอง”
เซียวหงอี้หันไปหาเซียวเจี่ยนและกล่าวว่า “กลับไปดูแลจัดการงานที่บริษัท น้องสาวของลูกกับพ่อจะรออยู่ที่นี่จนกว่าคุณแม่จะฟื้น”
เซียวเจี่ยนหันมามองถังซี พยักหน้าให้เธอก่อนเดินออกไป
ทั้งหมดลงไปชั้นล่าง ทิ้งเซียวส่ากับเซียวจิ่งไว้กับหลินรั่วจื้อ เซียวเจี่ยนกลับไปบริษัท หลิวเฉิงอวี่กับและซีลั่วเสียนเดินตามเซียวฮงอี้กับถังซีลงไปชั้นล่าง ไปยังห้องรับรองวีไอพี ซีลั่วเสียนเหลือบมองถังซีขณะนั่งอยู่บนม้านั่งในโถงทางเดิน หลังจากนั้นครู่หนึ่งเธอก็เอ่ยขึ้น “หนูดูไม่เหมือนเซียวโหรวที่คุณแม่ของหนูบรรยายให้ป้าฟังเลย แต่หนูเหมือนกับที่ป้าจินตนาการไว้ บุคลิกหนูเหมือนคุณแม่มาก ตอนที่เธอยังสาวๆ เธอสองคนมีความคล้ายคลึงกันมาก เว้นแต่ว่าหนูฉลาดกว่าคุณแม่”
ถังซีเลิกคิ้ว ยิ้มให้ซีลั่วเสียนแล้วตอบว่า “จริงเหรอคะ”
หลิวเฉิงอวี่จ้องมองถังซีจากทางด้านข้าง ดวงตาเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน เขากล่าวอย่างนุ่มนวล “โหรวโหรวเป็นคนฉลาดมากและสวยมากเสมอ พี่จำครั้งแรกที่เห็นเธอได้ เธอช่างมหัศจรรย์และน่าทึ่ง ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหน พี่เชื่อว่าเธอจะเป็นคนแรกที่ใครๆ มองเห็น”
ถังซีเลิกคิ้วไม่พูดอะไร เซียวหงอี้นั่งอยู่ข้างๆ เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่มเขาก็ตระหนักดีว่าหลิวเฉิงอวี่ต้องการอะไร แม้หลิวเฉิงอวี่จะเคยทำดีกับเซียวจิ้นหนิง แต่ก็ไม่เคยชมเธอแบบนี้!
แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดคุยกันเรื่องนี้ เซียวหงอี้มองหน้าถังซีด้วยสายตาครุ่นคิดอยู่สักพัก ก่อนจะถามอย่างจริงจัง “ลูกจะทำยังไงกับคนพวกนี้”
ถังซีเลิกคิ้วขึ้นมองเซียวหงอี้ซึ่งยังคงกล่าวต่อไป “ถ้าเถาเยี่ยนกับหลินรั่วจื้อกลายเป็นผู้ต้องหาอยู่เบื้องหลังการสับเปลี่ยนตัวลูกกับเซียวจิ้นหนิง ลูกคิดจะทำยังไงต่อไป”
ถังซีส่งรอยยิ้มประชดประชันให้เซียวหงอี้ “หนูควรเป็นคนถามคำถามนี้กับคุณพ่อมากกว่าไหมคะ ท่านประธานเซียว! คนพวกนั้นสับเปลี่ยนลูกสาวของคุณพ่อ แล้วคุณพ่อควรจะทำยังไงล่ะคะ ขอบคุณพวกเขาอย่างนั้นหรือ”
เซียวหงอี้รู้สึกละอายใจเล็กน้อยกับคำถามของลูกสาว แต่เขารู้ว่าถังซีพูดไม่ผิด เธอถูกสับเปลี่ยนตัวกับเด็กอีกคนเมื่อครั้งยังเป็นทารก และพวกเขาในฐานะพ่อแม่ควรหาความยุติธรรมให้เธอ!