ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 175 ฉันคือใคร ฉันอยู่ที่ไหน
ตอนที่ 175 ฉันคือใคร ฉันอยู่ที่ไหน
ในไม่ช้าเซียวจิ้นหนิงก็ถูกตำรวจจับตัวกดลงกับพื้น เธอกระทำผิดในข้อหาเจตนาทำร้ายร่างกายบนสถานีตำรวจ และถูกจับได้คาหนังคาเขา เธอไม่มีทางพ้นจากโทษครั้งนี้ไปได้ เซียวจิ้นหนิงซึ่งกำลังถูกตำรวจกดไว้กับพื้น จ้องหน้าถังซีและตะโกนว่า “เซียวโหรว แกตั้งใจทำให้เป็นแบบนี้ใช่ไหม ฉันแค่แตะแกเบาๆ แกล้มลงไปได้ยังไง! แกใส่ร้ายฉัน!”
ขณะนอนอยู่บนพื้นและไม่สามารถขยับตัวได้ ถังซีไม่สนใจมองเซียวจิ้นหนิง เอาสิ อยากคิดยังไงก็คิดเลย! ใครจะเอาตัวเองมาเสี่ยงเพื่อใส่ร้ายแกล่ะ! ฉันจะทำทำไม! เมื่อกี้แกผลักฉันอย่างแรง ไม่เห็นเหรอ! เธอล้มลงไปที่พื้นเพราะเก้าอี้ล้ม และเอวเธอดูเหมือนจะกระแทกกับเก้าอี้…
ขณะที่คิดว่าเซียวจิ้นหนิงไม่สามารถทำร้ายถังซีได้รุนแรงขนาดนั้น ผู้กำกับหลานก็ต้องประหลาดใจที่เห็นถังซีนอนอยู่บนพื้นโดยไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ และมีเหงื่อแตกพลั่กที่หน้าผาก เธอดูเหมือนไม่ได้เสแสร้งทำ เขาจึงรีบเข้าไปพยุงเธอและถามว่า “คุณหนูครับ เป็นยังไงบ้าง”
เมื่อเห็นว่าผู้กำกับหลานกำลังจะพยุงเธอ ถังซีก็รีบยกมือขึ้นห้าม และตอบอย่างอ่อนแรงว่า “โอย… ผู้กำกับหลานคะ ช่วยโทรเรียกรถพยาบาลหรือหาเปลมาหามฉันได้ไหม ฉันคิดว่าฉันบาดเจ็บที่เอว…”
หางตาข้างหนึ่งของผู้กำกับหลานหรี่ลงทันที ทำไมร่างกายเด็กสาวคนนี้ถึงอ่อนแอขนาดนี้ เพียงแค่ชนเก้าอี้ก็ได้รับบาดเจ็บแล้ว ตอนนี้เธอลุกขึ้นเดินไม่ได้ ต้องใช้เปลหาม! เขารีบเรียกให้คนนำเปลหามมา และเรียกรถพยาบาล จากนั้นเขาก็ถามเธอว่า “เราควรแจ้งครอบครัวคุณไหม…”
ผู้บังคับบัญชาบอกให้เขาดูแลเด็กผู้หญิงคนนี้เป็นอย่างดี หากเธอได้รับบาดเจ็บสาหัสที่สถานีตำรวจ เขาอาจถูกตำหนิ…
เมื่อถังซีได้ยินคำถามของเขา ภาพใบหน้าโกรธแค้นมากมายก็ผุดขึ้นในใจ เธอรู้สึกเหมือนนักเรียนที่ผู้ปกครองถูกอาจารย์เรียกไปพบที่โรงเรียนขึ้นมาทันที เธอเม้มริมฝีปากขณะมองหน้าผู้กำกับหลานด้วยสายตาไร้เดียงสา แล้วถามเบาๆ “โปรดอย่าบอกคุณพ่อคุณแม่ฉันได้ไหมคะ”
หากเซียวส่ากับเซียวจิ่งรู้ว่าเธอถูกเซียวจิ้นหนิงผลักล้มจนได้รับบาดเจ็บ ทั้งสองคนนั้นต้องตามมาด่า เซียวจิ้นหนิงอย่างแน่นอน… นอกจากนี้ทีแรกพวกเขาบอกแล้วว่าจะมากับเธอด้วย แต่เธอยืนยันหนักแน่นว่าเธอสามารถจัดการด้วยตัวเองได้…
แต่ว่าตอนนี้… ถังซีมองดูตัวเองแล้วเม้มริมฝีปาก ไม่น่าเชื่อเลยว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้น!
เซียวจิ้นหนิงยืนอยู่ข้างๆ นั้น ตะโกนว่า “เซียวโหรวเลิกเสแสร้งได้แล้ว!”
“หุบปาก!” ถังซีสวนกลับอย่างรวดเร็ว ขณะเงยหน้ามองเซียวจิ้นหนิงด้วยสายตาคมกริบ และตะคอกต่อไปด้วยความโกรธที่ยังคุกรุ่น “ถ้าแกต้องลงมานอนอยู่บนพื้นอย่างนี้ แล้วยังถูกหาว่าแกล้งทำเป็นบาดเจ็บ ฉันอยากเห็นจริงๆ ว่าแกจะรู้สึกยังไง!”
ให้ตายเถอะ! แกทำให้ฉันลงมานอนตรงนี้อย่างหมดท่า ยังจะกล้าบอกอีกเหรอว่าฉันแกล้ง! วอนโดนตบซะแล้ว!
เซียวจิ้นหนิงจู่ๆ ก็โดนตะคอกใส่จึงได้แต่ตกตะลึง แล้วพยายามปฏิเสธ ขณะที่ผู้กำกับหลานขมวดคิ้วและสั่งตำรวจอีกสองนาย “พาผู้หญิงคนนี้ไปที่ห้องสอบสวนอีกห้องหนึ่ง แล้วลงบันทึกไว้ ผมจะพาคุณหนูเซียวไปตรวจที่โรงพยาบาลด้วยตนเอง เมื่อได้รับรายงานผลการบาดเจ็บแล้ว ผมจะแจ้งให้คุณทราบทางโทรศัพท์”
ถังซีมองผู้กำกับหลานด้วยท่าทางอับอายเล็กน้อย เม้มริมฝีปากแล้วกล่าวว่า “ขอบคุณค่ะ ผู้กำกับหลาน”
ผู้กำกับหลานนั่งลงข้างๆ แล้วมองดูถังซีด้วยสายตามีความหมายบางอย่าง ขณะกล่าวสียงต่ำ “ว่ากันว่าเด็กจากครอบครัวยากจนมักจะแข็งแรงอดทนกว่าเด็กอื่นๆ ผมดูข่าวเกี่ยวกับครอบครัวของคุณมาเยอะ แต่ดูเหมือนว่าคุณจะไม่แข็งแรงเลย ดูจะบอบบางกว่าเด็กๆ ที่มาจากครอบครัวร่ำรวยด้วยซ้ำ”
ถังซีพูดไม่ออก เธอไม่ได้ต้องการเป็นแบบนี้ เข้าใจไหม ร่างนี้ตายไปแล้ว แต่ 008 ซ่อมแซมส่วนต่างๆ และใส่วิญญาณเธอเข้าไป…
เมื่อร่างกายมนุษย์ตายไป คนคนนั้นก็ต้องเสียชีวิตไปด้วย แต่หากวิญญาณตายไปในขณะที่ร่างกายยังมีชีวิตอยู่ คนคนนั้นจะกลายเป็นผัก อย่างไรก็ตามหากร่างกายตาย แต่วิญญาณยังอยู่ก็ไร้ประโยชน์… ในเวลานั้นวิญญาณเซียวโหรวตายไปแล้ว ส่วนร่างกายก็ถูกทำลายจากการถูกรถชน และการกระทืบซ้ำอย่างโหดเ**้ยมโดยเซียวจิ้นหนิง นั่นคือเหตุผลที่ทำให้เธอกลายเป็นคนอ่อนแอมากในตอนนี้…
ขณะอาบน้ำเมื่อคืนเธอนึกถึงปัญหานี้และถาม 008 ซึ่งได้รับคำตอบว่า ร่างกายปัจจุบันของเธอประกอบขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ดังนั้นเธอจึงควรดีใจที่ได้มีร่างกายเช่นนี้ แม้จะไม่แข็งแรงพอก็ตาม
แต่ในความเป็นจริงเธอไม่สามารถบอกเรื่องนี้กับคนอื่นได้ เธอจึงยิ้มและกล่าวเบาๆ ว่า “ฉันประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อสองเดือนที่แล้วค่ะ หลังจากนั้น…” ถังซียิ้มอีกเมื่อกล่าวต่อไป “ในตอนนั้นอวัยวะทุกส่วนในร่างกายฉันได้รับบาดเจ็บร้ายแรงมาก แค่ตอนนี้กลับมาเดินได้ตามปกติฉันก็ดีใจมากแล้วค่ะ เพราะฉะนั้น…”
เมื่อได้ยินคำอธิบายของถังซีผู้กำกับหลานก็พยักหน้าและถอนหายใจ “ช่างเป็นเด็กที่น่าสงสารอะไรอย่างนี้!”
ถังซีรู้สึกโล่งอกเมื่อเห็นว่าผู้กำกับหลานเชื่อเธอ ในตอนนี้ตำรวจหลายนายเข้ามาพร้อมกับเปลหาม เป็นเรื่องกระอักกระอ่วนใจอย่างยิ่งสำหรับถังซี ที่ต้องถูกยกขึ้นไปบนเปลหามโดยตำรวจสองนาย จากนั้นยังต้องถูกหามออกจากสถานีตำรวจภายใต้สายตาของสาธารณชนอีก หลังจากรถพยาบาลมาถึง…
เมื่อบอดี้การ์ดสองคนที่ติดตามถังซีมาด้วย เห็นเธอถูกหามมาในเปลคนไข้ หัวใจพวกเขาก็หายวาบ… พวกเขาจะทำอย่างไรดี ควรส่งจดหมายลาออกไหม ถ้าทำอย่างนั้น คุณเซียวส่ากับคุณเซียวจิ่งจะลงโทษพวกเขาน้อยลงหรือไม่
ถังซีถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและได้รับการตรวจอาการ กระดูกซี่โครงเธอหักและเอวเคล็ด เธอจะไม่สามารถลุกออกจากเตียงเดินไปไหนมาไหนได้ประมาณหนึ่งสัปดาห์… และแน่นอนว่าเธอจะไม่สามารถขยับเอวได้ในหนึ่งสัปดาห์นี้…
ถังซีเกือบร้องไห้ออกมา เมื่อได้ยินผลการตรวจ…
ตามแผนการที่วางไว้ เธอต้องจัดการปัญหาเรื่องเซียวจิ้นหนิงกับหลินเจียวให้เรียบร้อย! จากนั้นจะเปิดเผยความลับเบื้องหลังการกำเนิดของหลินหรู และช่วยหลินหรูตามหาครอบครัวที่แท้จริง!
ขณะถังซีถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัด เธอถามตัวเองในใจว่า ‘นี่ฉันคือใคร ฉันกำลังทำอะไรอยู่ตอนนี้…’
เมื่อถังซีถูกเข็นออกจากห้องผ่าตัด ผู้กำกับหลานแทบทนรอไม่ไหวอีกต่อไป เขาไม่นึกไม่ฝันเลยว่าเจ้าชายเจ้าเสน่ห์เฉียวเหลียง ผู้มีชื่อเสียงในเมือง A จะใส่ใจในความเจ็บป่วยของคุณหนูเซียวมากมายขนาดนี้ ผู้ชายคนนั้นแทบขย้ำเขาทั้งเป็นเมื่อมาถึงโรงพยาบาล…
หากมีใครบอกเขาสักคำว่าคุณหนูเซียวเป็นที่รักของเจ้าชายเจ้าเสน่ห์เฉียวคนนี้ เขาจะไม่มีวันยอมให้คุณหนูเซียวเข้าห้องสอบปากคำด้วยตัวเองเด็ดขาด!
ทันทีที่เห็นพยาบาลเข็นถังซีออกมาจากห้องผ่าตัด เขาก็รู้สึกโล่งอกราวกับคว้าฟางเส้นสุดท้ายในชีวิตไว้ได้ เขารีบพรวดพราดไปข้างหน้า แต่ขณะก้าวออกไปเพียงก้าวแรก เขาก็รู้สึกถึงแรงกดดันอย่างมาก เขารีบหยุดอย่างรวดเร็ว แล้วหันกลับไปมองเฉียวเหลียง… และกลืนน้ำลายก่อนจะเอ่ยว่า “ประธานเฉียว เชิญคุณก่อน…”
เฉียวเหลียงมองหน้าผู้กำกับหลาน ก่อนจะเดินก้าวยาวๆ ผ่านหน้าเขาไป
ผู้กำกับหลานรู้สึกเสียใจไม่หาย ถ้าเขารู้ถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองก่อนหน้านี้ เขาจะไม่ฟังคำพูดของคุณหนูเซียว และจะแจ้งให้ครอบครัวเธอทราบตั้งแต่แรก แทนที่จะให้คนสำคัญคนนี้รู้ก่อน!
เขานึกถึงคำพูดของคุณหนูเซียวก่อนที่เธอจะเข้าห้องผ่าตัด “ผู้กำกับหลานคะ ได้โปรดอย่าบอกครอบครัวฉันนะคะ พวกเขาต้องฆ่าฉันแน่ ถ้ารู้ว่าฉันทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บ โปรดแจ้งไปที่คนรักของฉันแทนนะคะ!”