ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 176 ประเมินผิด
ตอนที่ 176 ประเมินผิด
เมื่อมองหน้าเฉียวเหลียงผู้กระหายเลือด ผู้กำกับหลานก็แอบถอนหายใจ ‘คุณหนู ที่รักของคุณกำลังจะฆ่าผม!’
ถังซีถูกเข็นไปที่ห้องผู้ป่วยวีไอพี ผู้กำกับหลานตามไปด้วย แต่ทันทีที่เข้าไปในห้องเขาก็ถูกสะกดด้วยรังสีอำมหิตที่เฉียวเหลียงปลดปล่อยออกมา เขาคิดในใจว่า ช่างไร้สาระสิ้นดี! ทำไมคนอย่างเขาซึ่งอายุคราวพ่อเฉียวเหลียง จึงต้องมาถูกเฉียวเหลียงใช้อำนาจครอบงำจนพูดไม่ออกแบบนี้! ช่างแปลกประหลาดจริงๆ!
แต่ก็เป็นที่เข้าใจได้! ถ้าเฉียวเหลียงไม่มีลักษณะพิเศษที่สามารถตรึงความรู้สึกผู้คนได้เช่นนี้ เขาจะไม่กลายเป็นตำนานของเมือง A ได้ในเวลาเพียงสองปี
อย่างไรก็ตาม ผู้กำกับหลานเป็นถึงผู้กำกับการสถานีตำรวจ จะไม่มีทางถอยหนี หากเขาหงอต่อหน้าเฉียวเหลียง ผู้คนจะหัวเราะเยาะเขาได้! เพราะฉะนั้น…
ผู้กำกับหลานยิ้มให้เฉียวเหลียงอย่างสง่าผ่าเผย และกล่าวว่า “ประธานเฉียว คุณคงรู้ว่าผมต้องนำรายงานการประเมินอาการบาดเจ็บไปที่สถานีตำรวจ และจัดการคุมตัวเซียวจิ้นหนิง ในเมื่อคุณมาแล้ว ผมก็จะไปก่อน”
เฉียวเหลียงมองหน้าผู้กำกับหลานโดยไม่พูดอะไร แต่ฝ่ายหลังเข้าใจความหมายในทันที ‘คุณออกไปจากที่นี่ได้แล้ว และอย่ามาให้ผมเห็นอีก’
ผู้กำกับหลานหันหลังกลับเดินตรงดิ่งไปทันที…
เป็นเวลาเที่ยงคืนเมื่อถังซีฟื้นจากฤทธิ์ยาสลบ เธอรู้สึกเจ็บปวดอย่างมากจึงส่งเสียงพึมพำ
ไม่มีแสงสว่างแม้แต่น้อยในห้องพักคนไข้ แต่หน้าต่างเปิดอยู่ แสงจันทร์สาดส่องลงมาบนพื้นห้องผ่านทางหน้าต่าง ถังซีทำปากยื่น เธอรู้สึกเสียใจเล็กน้อย คิดว่าเธอจะได้เห็นหน้าเขาทันทีที่ตื่นขึ้นมา…
เขาทำงานดึกอีกแล้วหรือ
เฉียวเหลียงซึ่งนั่งอยู่บนโซฟา เฝ้ามองถังซีผ่านความสลัวของแสงจันทร์ เมื่อเห็นว่าถังซีไม่มองมาทางเขาเลย เอาแต่จ้องมองแสงจันทร์ เขาก็ขมวดคิ้วรอให้เธอหันกลับมามองเขา เขาเฝ้ามองเธอ ในขณะที่เธอเอาแต่มองแสงจันทร์โดยไม่หันกลับมามองเขา! ดวงจันทร์มีเสน่ห์มากกว่าเขาอย่างนั้นหรือ
เฉียวเหลียงซึ่งหงุดหงิดอยู่แล้วเพราะเธอได้รับบาดเจ็บ รู้สึกแย่ยิ่งขึ้นไปอีกในเวลานี้!
“แสงจันทร์มีเสน่ห์น่ามองมากกว่าผมอีกหรือ!” น้ำเสียงเยือกเย็นบาดลึกของเฉียวเหลียงดังขึ้นจากทางด้านหลังถังซี
ถังซีหันขวับไป และเห็นเฉียวเหลียงนั่งกอดอกอยู่บนโซฟาทางซ้ายมือ ดวงตาเธอสดใสขึ้นทันที “คุณอยู่ที่นี่เหรอ! ฉันคิดว่าคุณจะทิ้งฉันไว้คนเดียวในโรงพยาบาลซะอีก” เธอกล่าว
เฉียวเหลียงขมวดคิ้ว สีหน้าบูดบึ้ง และรังสีอำมหิตก็รุนแรงขึ้นทันที “ทิ้งคุณไว้คนเดียวในโรงพยาบาลงั้นเหรอ”
ถังซีรีบเสริม “ก็มืดขนาดนี้! ทำไมคุณไม่เปิดไฟล่ะคะ”
เมื่อได้ยินอย่างนี้เฉียวเหลียงก็ลุกขึ้นเดินไปที่เตียงแล้วนั่งลง “ผมกลัวว่าแสงจะจ้าเกินไปตอนที่คุณตื่นขึ้นมา” เมื่อจบคำพูดเขาก็เอื้อมมือไปเปิดไฟดวงเล็กๆ ที่หัวเตียง และใบหน้าบึ้งตึงก็ปรากฏต่อสายตาเธอ หางตาถังซีหรี่ลง บ้าชะมัด! เธอรู้ว่าพี่ส่ากับพี่จิ่งต้องโกรธมาก แต่เธอไม่คิดว่าผู้ชายคนนี้จะโกรธมากกว่าอีก!
ในเวลานี้สิ่งที่ชายหนุ่มผู้นี้ยอมรับไม่ได้คือ การที่เธอได้รับบาดเจ็บ!
ขณะเฉียวเหลียงกำลังจะอ้าปากพูด ถังซีก็คว้ามือเขาและกล่าวว่า “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ตัวเองบาดเจ็บจริงๆ ฉันไม่คิดว่าเซียวจิ้นหนิงจะพรวดพราดเข้ามาหาฉันแล้วผลักเก้าอี้ล้มลง แล้วก็ไม่คิดด้วยว่าเอวฉันจะกระแทกกับเก้าอี้ และที่ไม่คาดคิดมากที่สุดก็คือ ไม่คิดว่าฉันจะบาดเจ็บที่เอว… และกระดูกซี่โครงหัก…” ขณะมองใบหน้าเย็นเยือกของเฉียวเหลียง ถังซีก็แทบจะร้องไห้ออกมา เธอกล่าวตะกุกตะกัก “ฉันไม่รู้มาก่อน ว่าตอนนี้ ร่างนี้จะเปราะบางขนาดนี้…”
ครั้งหนึ่งเธอเคยตกจากต้นไม้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เลย เธอเองก็ประหลาดใจอย่างมากที่คราวนี้เธอบาดเจ็บสาหัส… เพียงเพราะการกระแทกแค่เล็กน้อย…
เวรกรรมจริงๆ …
เฉียวเหลียงขมวดคิ้ว “คุณผิดไหม”
ถังซีหน้ามุ่ย ขณะพยักหน้ายอมรับแต่โดยดี “ฉันผิด ฉันผิดจริงๆ ฉันผิดอย่างมหันต์ แต่อย่าโกรธเลยนะ”
เฉียวเหลียงไม่เคยเห็นถังซีในท่าทางแบบนี้มาก่อน ประกายความประหลาดใจแวบผ่านดวงตาเขา เขารีบหลบสายตาลงอย่างรวดเร็ว แต่ก็อดไม่ได้ที่จะใจอ่อน เขายื่นมือไปลูบผมเธอเบาๆ อย่างไรก็ตามเมื่อรู้สึกตัวว่าเขากำลังถูกถังซี ‘อ้อน’ สำเร็จ เฉียวเหลียงก็ขมวดคิ้ว หดมือกลับ ก่อนจะถามเสียงต่ำ “คุณทำผิดอะไร”
ถังซีกะพริบตาปริบๆ … นั้นสิเธอทำผิดอะไร
เธอผิดเพราะร่างกายเปราะบางเกินไปอย่างนั้นเหรอ
ให้ตายเถอะ! คุณหยุดถามคำถามแบบนี้ได้ไหม ไม่ใช่ความผิดของฉันที่ร่างกายฉันเปราะบาง! ฉันไม่ได้อยากเป็นแบบนี้! ฉันเองก็อยากปรับปรุงคะแนนประสบการณ์ของฉันมากๆ เลย!
เมื่อเห็นว่าถังซีมีท่าทางงุนงงเฉียวเหลียงก็หรี่ตาลง เธอยอมรับว่าเธอผิด ทั้งที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอทำผิดอะไร
เมื่อเห็นเฉียวเหลียงจ้องมองมาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ เธอก็รีบตอบทันที “ฉันไม่ควรคิดเอาเองว่าฉันจะไม่ได้รับบาดเจ็บ ไม่ควรทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย ฉันจะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้ว!”
เมื่อพูดจบถังซีก็เงยหน้าขึ้นมองหน้าเฉียวเหลียง และสงสัยอยู่ในใจว่าเธอเดาถูกไหม
เฉียวเหลียงเลิกคิ้วมองหน้าถังซี ถามว่า “คุณแน่ใจเหรอ”
ถังซีพยักหน้าอย่างแข็งขัน “ฉันค่อนข้างมั่นใจ ต่อไปในอนาคตฉันจะมีบอดีการ์ดสองคนอยู่ด้วยเสมอไม่ว่าจะทำอะไร แม้แต่ไปโรงเรียนฉันก็จะมีบอดีการ์ดสองคนไปคอยคุ้มกันฉันด้วย ได้โปรดอย่าโกรธเลยนะ ได้ไหม”
เฉียวเหลียงมองหน้าถังซีโดยไม่พูดอะไร ถังซีรู้สึกไม่สบายใจภายใต้สายตาเขาที่จ้องมองมา เธอจึงยกมือขึ้นสาบาน “ฉันสาบานก็ได้”
“ตกลง ทำตามนั้นก็แล้วกัน”
ถังซีกะพริบตาปริบๆ รู้สึกโล่งใจที่ในที่สุดก็ผ่านความยุ่งยากไปได้ โชคดีที่เฉียวเหลียงเป็นคนเข้าใจอะไรง่าย ท้ายที่สุดเขาก็เชื่อมั่นในตัวเธอเสมอ และทนเห็นเธอเศร้าไม่ได้!
เมื่อคิดอย่างนี้ถังซีก็ยิ้มอย่างโล่งอกอยู่ในใจ ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกมีแรงหนักๆ กดลงบนไหล่ และพบว่าเฉียวเหลียงกำลังเอนตัวลงพิงไหล่เธอ ถังซีตกตะลึง หันข้างไปมองศีรษะเฉียวเหลียงและเห็นแต่ผมของเขา เธอกำลังจะพูดบางอย่างออกมา เมื่อเสียงทุ้มต่ำแหบห้าวดังก้องอยู่ที่หูเธอ “ซีซี สัญญากับผมได้ไหม ว่าคุณจะไม่ทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บอีกต่อไป คุณรู้ไหมว่าผมรู้สึกยังไง ตอนที่ได้ยินว่าคุณอยู่ที่โรงพยาบาล และกำลังถูกส่งตัวเข้าห้องผ่าตัด…”
เขานึกถึงตอนที่รู้เรื่องเธอเมื่อตอนเที่ยง ขณะเขากำลังประชุมอยู่ เขาไม่เคยอนุญาตให้ใครรบกวนหรือขัดจังหวะเวลาที่เขากำลังทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการประชุมที่สำคัญ แต่คราวนี้เป็นข้อยกเว้น หลังจากเขาออกจากการประชุม หุ้นส่วนธุรกิจของเขาต่างพากันประหลาดใจอย่างมาก จนต้องโทรมาถามเป็นกรณีพิเศษว่าเกิดอะไรขึ้น…
หากพวกเขารู้ว่าเป็นเพราะผู้หญิงคนหนึ่ง จะไม่มีใครนึกภาพออกเลยว่าพวกเขาจะตกใจเพียงไร
ถังซีรู้สึกผิดเมื่อได้ยินน้ำเสียงสิ้นหวังและหัวใจสลายของเฉียวเหลียง เธอโอบศีรษะเขาไว้และกระซิบแผ่วเบา “ขอโทษนะคะ ฉันขอโทษ…”
เธอไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากคำขอโทษ
เธอไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายตัวเอง ไม่มีใครคาดคิดว่าเซียวจิ้นหนิงจะกล้าทำแบบนี้กับเธอในสถานีตำรวจ! เธอเข้าไปในห้องสอบสวนเพราะประเมินแล้วว่าเซียวจิ้นหนิงจะไม่กล้าทำร้ายเธอ!
อย่างไรก็ตาม เธอประเมินผิด!