ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 193 ไปลงนรกซะเถอะ!
เฉียวเหลียงจ้องหน้าอาห้าซึ่งใจหายวาบ เขาคิดกับตัวเองว่า ‘โอ…ไม่!’ ดูเหมือนเขาจะเหยียบกับระเบิดเข้าอีกครั้งแล้ว! ทำไมเขาถึงไม่สนใจแต่งานของตัวเองนะ อาห้าเอ๋ย…ทำไมนายไม่ระวังปากตัวเอง! แต่ในขณะที่อาห้าเตรียมพร้อมที่จะโดนเฉียวเหลียงซึ่งหน้าตาดูเศร้าหมองด่า ทันใดนั้นจู่ๆ เจ้านายเขาก็เอ่ยขึ้น “นายกับคุณหนูเซียวไปสนิทสนมกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงได้ไม่เกรงกลัวอะไร กล้าเสี่ยงเรียกร้องความยุติธรรมให้เธอ”
น้ำเสียงเยือกเย็นของเฉียวเหลียงทำเอาหัวใจอาห้าสั่นสะท้าน เขาควรทำอย่างไรดี ดูท่าทางว่าเขาจะพูดอะไรผิดไปอย่างมาก! โอ…อยากตบหน้าตัวเองเหลือเกิน! อย่างไรก็ตามขณะที่ถอยไม่ได้แล้ว เขาก็ทำใจดีสู้เสือตอบว่า “ผมไม่ได้สนิทกับคุณหนูเซียวหรอกครับ แต่ตอนที่เจ้านายนอนไม่หลับ คุณหนูเซียวพยายามปลอบโยนอย่างหนักเพื่อให้เจ้านายได้นอนหลับสนิท เธอไม่สนใจแม้แต่สภาพร่างกายของตัวเอง เธอทำทุกอย่างเพื่อให้เจ้านายได้พักผ่อน แต่ดูสิครับ เจ้านายทำอะไรลงไป เจ้านายแสดงท่าทางเหมือนว่าเป็นเจ้าข้าวเจ้าของคุณหนูเซียว แต่ก็ยังแอบเก็บภาพถ่ายของคุณถังไว้ ตอนนี้เจ้านายก็มาส่งนิ้วมือของคุณถังให้คุณปู่ถังอีก เจ้านายห่วงใยสุขภาพท่านมาก ยืนกรานให้ท่านตรวจร่างกาย และเข้าไปอยู่ในห้องคุณถังเกือบสองชั่วโมง… นั่นก็ไม่เป็นไรหรอกครับ ที่เจ้านายทำอะไรอย่างนั้น แต่เจ้านายทำยิ่งไปกว่านั้นอีกได้ยังไงครับ เจ้านายสั่งให้ผมส่งรายงานผลการตรวจสุขภาพคุณปู่ถังไปให้คุณหนูเซียว! ทำไมเจ้านายถึงได้เห็นแก่ตัวอย่างนี้ล่ะครับ”
ท่ามกลางความประหลาดใจ เฉียวเหลียงไม่ได้โกรธ เขาเลิกคิ้วให้อาห้าแล้วกล่าวว่า “ฉันไม่คิดว่าฉันเห็นแก่ตัว”
อาห้าตกตะลึงมองเฉียวเหลียงแล้วถามว่า “เจ้านายไม่คิดว่าตัวเองเห็นแก่ตัวเลยหรือครับ เจ้านายเห็นแก่ตัวที่คิดจะให้คุณหนูเซียวเป็นตัวแทนคุณถัง นั่นไม่ยุติธรรมกับคุณหนูเซียวเลย จริงไหมครับ”
“ไม่มีอะไรไม่ยุติธรรม คุณหนูเซียวมีความสุขกับสิ่งที่ฉันทำ” เฉียวเหลียงตอบ พร้อมกับหลับตาลงเพื่อพักสายตา แต่แล้วทันใดนั้นเขาก็ลืมตามองอาห้า และกล่าวอย่างจริงจัง “นายไม่ต้องมาเสนอหน้าต่อหน้าคุณหนูเซียวอีกต่อไป เข้าใจไหม”
ด้วยความประหลาดใจที่ได้ยินอย่างนั้น อาห้าอ้าปากค้างมองเฉียวเหลียง “อะไรนะครับ นายน้อย”
“ดูเหมือนนายจะสนิทสนมกับแฟนฉันมากเกินไป ดูนายพยายามปกป้องเธอเหลือเกิน นายคิดว่าฉันโง่หรือ” เฉียวเหลียงหรี่ตามองอาห้า ก่อนจะหันหน้ากลับไปหลับต่อ แต่ทันใดนั้นเขาก็เอ่ยอะไรบางอย่างที่ทำให้อาห้าต้องตกตะลึงอย่างแรง แม้แต่อาหกก็ตกตะลึงเช่นกัน “นายอย่ามาทำดีกับแฟนฉันนัก ฉันหึง”
อาห้าตะลึงงัน
นี่มันเกิดอะไรขึ้น
…
ที่เมือง A ฉินซินหยิ่งนั่งอยู่ในห้องทำงาน จ้องมองคอมพิวเตอร์ด้วยดวงตาวาววับ เธอไม่สบายใจเลยตั้งแต่สนทนากับผู้หญิงคนนั้นทางโทรศัพท์เมื่อเย็นวานนี้ เธอไม่รู้เลยว่าเฉียวเหลียงคิดอะไรอยู่ เฉียวเหลียงลืมถังซีไปแล้วจริงๆ หรือ เขาหลงรักผู้หญิงคนที่ชื่อเซียวโหรวนั้นแล้วจริงๆ หรือ ถ้าเฉียวเหลียงรักผู้หญิงคนนั้นจริงๆ เธอควรพูดยังไง ถ้าเขามาถามเธอหลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นเล่าให้เขาฟัง ว่าเธอพูดอะไรออกไปบ้างเมื่อคืนนี้…
เฉียวเหลียงจะต้องตรวจสอบบันทึกโทรศัพท์อย่างแน่นอน… จะเป็นอย่างไรถ้าผู้หญิงคนนั้นพบกับเฉียวเหลียงวันนี้ ใช่แล้ว เฉียวเหลียง…
ทันทีนั้นฉินซินหยิ่งก็ผลุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินออกไปข้างนอกพร้อมกับปลอบใจตัวเองไปตลอดทาง “ไม่หรอกน่า เฉียวเหลียงรักถังซีมาก เขาแค่คบผู้หญิงคนนั้นเล่นสนุกๆ ไม่จริงจัง เขาไม่เชื่อผู้หญิงคนนั้นหรอก ถ้าเฉียวเหลียงใส่ใจผู้หญิงคนนั้นจริง หล่อนก็ต้องฟ้องเฉียวเหลียงตั้งแต่เมื่อคืน และเขาจะต้องมาคาดคั้นเธอแล้วตอนนี้ แต่นี่ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นเลย”
ฉินซินหยิ่งรู้สึกดีขึ้นมากหลังจากปลอบใจตัวเอง เธอเดินไปที่ห้องเลขานุการของท่านประธาน ถามว่าเฉียวเหลียงอยู่ไหม เลขานุการบอกเธอว่าท่านประธานไม่ได้กลับเข้ามาตั้งแต่เขาออกไปเมื่อวานนี้ ฉินซินหยิ่งกล่าวขอบคุณอย่างใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มือเธอค่อยๆ กำแน่นขึ้นเรื่อยๆ …
เขายังไม่กลับมา… เขาค้างคืนกับผู้หญิงคนนั้นหรือ เขาจะเชื่อคำพูดของเซียวโหรวหรือเปล่า ถ้าเขาเชื่อ เธอคงไม่มีโอกาสได้อยู่เคียงข้างเขาแล้วใช่ไหม
ไม่ เธอปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นเหนือกว่าเธอไม่ได้ เธอต้องโทรหาเฉียวเหลียงก่อน บอกว่าเธอพบร่องรอยของถังซี เพื่อทดสอบปฏิกิริยาเขา…
ขณะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ไม่ได้สนใจทางเดินตรงหน้า เธอชนเข้ากับเซียวจิ่งซึ่งกำลังเดินมาทางเธอ เซียวจิ่งขมวดคิ้วเมื่อถูกฉินซินหยิ่งชน เขาร้องอุทานอย่างโกรธเคืองโดยไม่ได้มองดูหน้าเธอ “นี่คุณ เดินไม่มองทางเลยหรือไง”
ฉินซินหยิ่งกล่าวขอโทษอย่างไร้สติและรีบร้อนเดินต่อไป เซียวจิ่งขมวดคิ้วหันกลับไปมอง ส่ายศีรษะขณะเดินต่อไปข้างหน้า แล้วก็รู้สึกว่าเขาเหยียบอะไรบางอย่าง เขาก้มลงดูและพบว่าเป็นแฟล็ชไดร์ฟ เซียวจิ่งเลิกคิ้วแล้วหยิบขึ้นมา เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมองฉินซินหยิ่งก็หายไปแล้ว เขาเดินไปที่ห้องทำงานท่านประธาน ถามเลขานุการว่า “เมื่อกี้ใครหรือ ที่มาขอพบท่านประธานเฉียว”
เลขานุการหน้าห้องท่านประธานผู้มีงานยุ่งตลอดเวลาเงยหน้ามองเซียวจิ่ง ทักทายเขาและส่ายศีรษะ “ฉันไม่ทันได้สนใจมากมายค่ะ ผมเธอคลุมหน้า ฉันไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร ท่านประธานเซียว มีอะไรให้ฉันช่วยคะ”
เซียวจิ่งพยักหน้ากล่าวว่า “นำเอกสารของท่านประธานเฉียวมาให้ผม ผมจะจัดการต่อเอง”
เลขานุการผู้ซึ่งรู้สึกไม่สบายใจกับกองแฟ้มเอกสารจำนวนมาก ดวงตาเป็นประกายสดใสขึ้นมาด้วยความยินดีทันที “ได้ค่ะ รอครู่เดียวนะคะ ฉันจะส่งแฟ้มไปให้ค่ะ”
เซียวจิ่งมองดูเอกสารจำนวนมากบนโต๊ะเลขานุการ และลูบหัวคิ้วตัวเอง เขารู้สึกปวดหัวขึ้นมา “ผมควรจะอยู่ที่โรงพยาบาล ดูแลน้องสาวผมตอนนี้!”
ไอ้บ้าเฉียวเหลียง! ทุกครั้งที่หายตัวไปจะทิ้งงานกองโตไว้มากมาย ทำให้เขาต้องทำงานเหมือนทาส! แย่ชะมัด!
เซียวจิ่งกลับไปที่ห้องทำงาน โยนแฟล็ชไดร์ฟลงบนโต๊ะอย่างไม่พอใจ หลังจากนั้นก็กระแทกตัวลงบนเก้าอี้ เอนพิงหนัก พร้อมกับถอนหายใจ “พระเจ้า!”
ในเวลานั้นนั่นเองก็มีคนมาเคาะประตูห้องทำงาน เซียวจิ่งลุกขึ้นนั่งตัวตรงทันที และกล่าวอย่างเคร่งขรึม “เข้ามาได้”
ประตูห้องทำงานผลักเปิดออก ลินดาเลขานุการหน้าห้องท่านประธาน เข็นรถเข็นที่เต็มไปด้วยกองเอกสารเข้ามา เธอยิ้มให้เขาอย่างระแวดระวัง แล้วค่อยๆ อธิบายว่า “ท่านประธานเซียวคะ เอกสารทั้งหมดนี้ เป็นเอกสารที่ควรได้รับการดำเนินการตั้งแต่เมื่อวานซืน เมื่อวานนี้ และวันนี้ค่ะ”
เซียวจิ่งชี้ไปที่รถเข็นของลินดาด้วยมืออันสั่นระริกอยู่นาน กว่าจะพูดออกมาได้ “เอกสารทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่เฉียวเหลียงต้องจัดการใช่ไหม”
ลินดาพยักหน้า “ใช่แล้วค่ะ ท่านประธานเซียว ท่านประธานเฉียวออกไปตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ และดูเหมือนเขาจะยุ่งมากเมื่อวานนี้ เมื่อคืนเขาก็ตีกลับเอกสารมาหลายฉบับ และสั่งให้เราเอาไปแก้ไขกลับคืนมา ตอนนี้ฝ่ายวิศวกรรมได้ส่งเอกสารกลับมาแล้ว แต่วันนี้ท่านประธานไม่อยู่ค่ะ ดิฉันจึงนำแฟ้มเหล่านี้มาให้คุณ”
เซียวจิ่งมองดูกองเอกสารและพยักหน้าให้ลินดาด้วยท่าทางสงบนิ่ง “เอาล่ะ ผมเข้าใจแล้ว คุณออกไปได้”
ในขณะที่ลินดาออกจากห้องทำงานเซียวจิ่งด้วยรอยยิ้ม สีหน้าเซียวจิ่งก็สลดลงทันที เขามองดูกองเอกสารอย่างโกรธแค้น และตะโกนออกมา “เฉียวเหลียง ไปลงนรกซะเถอะ!”