ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 224 คุณปู่เซียว
“ไม่มีหรอกค่ะ คุณปู่ไม่ต้องห่วงนะคะ ไม่มีใครบังคับหนูค่ะ หนูมาอยู่ที่นี่ด้วยความเต็มใจ และจะอยู่ประมาณสองเดือน หลังจากนั้นหนูก็จะกลับบ้านค่ะ”
คุณปู่เซียวหยุดนิ่งเมื่อได้ยินคำพูดของถังซี สองวินาทีผ่านไปกว่าท่านจะพยักหน้า และตบหลังมือ ถังซี “ตกลง หนูอยู่ที่ไหนก็ได้ตามที่หนูต้องการ ไม่สมเหตุสมผลเลยที่ใครจะโยนอะไรบางอย่างทิ้งเมื่อเขาไม่ต้องการ แล้วพอทันทีที่ต้องการก็จะนำกลับคืนมา โหรวโหรว ไม่ว่าหนูจะตัดสินใจยังไงก็ตาม ปู่สนับสนุนหนูเสมอ”
ถังซียิ้มและพยักหน้า “ขอบคุณค่ะ คุณปู่”
เซียวหงอี้ซึ่งยืนอึ้งอย่างกระอักกระอ่วน กล่าวกับคุณปู่เซียวว่า “คุณพ่อครับ อาหารเย็นชืดหมดแล้ว ไปทานกันเถอะครับ”
คุณปู่เซียวทำเสียงฮึดฮัดเดินไปนั่งลงที่โต๊ะอาหาร จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองเซียวหงอี้และกล่าวอย่างเฉยเมย “เธอยังมีหน้าจะทานอาหารค่ำอีกหรือ ทำเรื่องยุ่งยากมากมายให้กับตระกูล ยังมีหน้าจะทานอาหารค่ำอีกหรือ”
ถังซีซึ่งยืนอยู่ข้างๆ ทำปากยื่นขณะที่ท้องเธอร้อง เธอคิดอย่างเศร้าใจว่าดูท่าทางเธอจะไม่ได้ทานอาหารค่ำเสียแล้ววันนี้ คุณปู่มาที่นี่เพื่อจะไม่ทานอาหารค่ำ แต่กลับมาดุลูกชายคนโตแทน
ก็เข้าใจได้ ในฐานะผู้นำตระกูลเซียว ท่านตกที่นั่งลำบาก และทำอะไรไม่ได้เลยเมื่อเกิดเหตุการณ์มากมายขึ้นกับตระกูลเซียว ส่งผลให้ราคาหุ้นเซียวกรุปผันผวน ไม่แปลกใจเลยที่คุณปู่จะโกรธ
เซียวหงอี้อับอายและพยายามหลีกเลี่ยงไม่สบตาบิดา “จะมาโทษผมได้ยังไงครับ อาหรูกับผมก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าพ่อแม่เธอจะบ้าขนาดนี้…”
ปัง… คุณปู่เซียวทุบโต๊ะอาหารดังสนั่น จ้องหน้าเซียวหงอี้และถามอย่างขุ่นเคือง “เธอยังจะกล้าพูดแบบนี้อีกหรือ ไม่รู้เลยได้ยังไงว่าลูกสาวเธอสลับตัวกับเด็กอีกคน แล้วยังจะแก้ตัวอีกว่าที่ไม่รู้ว่าลูกสาวถูกสับเปลี่ยนตัวเพราะเธอมัวยุ่งอยู่กับธุรกิจ ไม่มีเวลาไปโรงพยาบาล ตอนนี้ภรรยาเธอถูกคนพวกนั้นผลักตกบันได ได้แต่นอนนิ่งอยู่บนเตียง เธอยังจะมาพูดอีกหรือ ว่าเธอคิดไม่ถึงเหมือนกันว่าพวกเขาจะทำแบบนี้ เธอรู้อะไรบ้างบนโลกใบนี้!”
ถังซียืนนิ่งเงียบอยู่ข้างๆ เซียวหงอี้ก้มหน้านิ่งด้วยความละอาย แต่ก็ยังพยายามปกป้องตัวเองอยู่ “ก็ผมไม่รู้จริงๆ นี่ครับ ผมจะรู้ได้ยังไงว่ายายแก่นั่นไม่ใช่แม่แท้ๆ ของอาหรู และกล้าทำร้ายเธอ แถมยังสลับตัว โหรวโหรวกับลูกของลูกสาวแกอีก ครั้งนี้ก็เหมือนกัน แกจงใจทำร้ายอาโหรวเพื่อเด็กเลวคนนั้น”
ขณะกล่าวเช่นนี้เซียวหงอี้ก็เงยหน้าขึ้นมองคุณปู่เซียว และเม้มริมฝีปาก “ทีแรกอาหรูไม่ได้เป็นอัมพาต แต่ที่เธอตกเตียงเพราะเธอเป็นห่วงเมื่อได้ยินว่าโหรวโหรวถูกเซียวจิ้นหนิงทำร้ายในห้องสอบสวน อาการเธอก็เลยแย่ลง เป็นไปไม่ได้เลยนี่ครับ ที่ผมจะรู้ล่วงหน้าว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้น และยับยั้งไม่ให้เกิด จริงไหมครับ”
ปัง…
คุณปู่เซียวทุบโต๊ะอีกครั้ง ท่านชี้หน้าเซียวหงอี้ด้วยนิ้วมือสั่นเทา ถังซีรีบเข้ามาหาท่าน ลูบหลังปลอบโยนท่าน “คุณปู่ อย่าโมโหนะคะ จริงๆ แล้วก็ไม่ควรตำหนิพ่อหรอกค่ะ…” ถังซีมองเซียวหงอี้และกล่าวต่อไป “เราตำหนิพ่อไม่ได้หรอกค่ะเรื่องนี้ เราทุกคนรวมทั้งแม่ด้วย จะคาดคิดได้อย่างไรคะ ว่าพ่อแม่ที่เธออยู่ด้วยมาหลายสิบปีไม่ใช่พ่อแม่ที่แท้จริงของเธอ และที่ไม่คาดคิดยิ่งกว่านั้นคือ ผู้หญิงคนนั้นสับเปลี่ยนลูกของแม่หนูกับหลานของตัวเอง แม่คิดไม่ถึงหรอกค่ะว่าคนที่แม่คิดว่าเป็นแม่จะโหดร้ายได้อย่างนั้น”
คุณปู่เซียวมองหน้าถังซี เธอยังคงลูบหลังท่านและยิ้มอย่างอ่อนโยน “แม่คิดไม่ถึงเพราะนึกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นแม่แท้ๆ ของแม่ แม่ไม่ได้ระแวงเถาเยี่ยน เพราะไม่มีใครที่จะระแวงแม่ตัวเองหรอก จริงไหมคะ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมแม่ถึงตกใจและเสียใจมาก เมื่อหนูบอกความจริงกับแม่ค่ะ”
“ใช่ครับ คุณพ่อ” เซียวหงอี้พยักหน้า “พวกเราไม่มีใครคาดคิดว่าเถาเยี่ยนกับครอบครัวจะไร้ยางอายขนาดนี้”
คุณปู่เซียวจ้องหน้าเซียวหงอี้และกล่าวอย่างเย็นชา “หุบปาก!”
เซียวหงอี้หุบปากทันที ถังซีนั่งลงข้างคุณปู่เซียวและมองหน้าท่าน “คุณปู่คะ แต่ตอนนี้คนพวกนั้นถูกจับขังคุกหมดแล้วค่ะ เราจะไม่ปล่อยให้พวกเขาหนีรอดไปได้ และจะดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลอะไรแล้วค่ะ ทุกอย่างจะคลี่คลาย ตระกูลเซียวจะมีแต่เรื่องดีๆ เข้ามาเรื่อยๆ ค่ะ”
“แต่ปู่เสียใจกับหลานมาก ทุกครั้งที่ปู่คิดถึงเรื่องทั้งหมดนี้” คุณปู่เซียวตบหลังมือเธอเบาๆ แล้วกล่าวเสียงต่ำ “ปู่ได้ดูข่าวแล้ว ปู่รู้ว่าวิดีโอที่ถูกส่งไปทางอินเทอร์เน็ตนั้นเป็นของจริง ไม่อย่างนั้นหนูจะไม่เลือกไปอยู่บ้านอาของหนูหรอก ต้องมีคนทำร้ายหนูอย่างรุนแรงจนหนูกลัว และไม่อยากทนอยู่ใต้ชายคาเดียวกันกับผู้หญิงคนนั้น…
…หนูคงต้องเผชิญความยากลำบากอย่างมาก” ดวงตาคุณปู่เซียวเริ่มแดงเรื่อ “แต่ผู้หญิงนั้นก็ถูกไล่ออกจากบ้านไปแล้ว และหนู…”
ดวงตาถังซีก็เริ่มแดงขึ้นมาเช่นกัน การได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ทำให้เธอค้นพบข้อเท็จจริงมากมายที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน ได้เข้าใจความจริงมากมายที่เธอไม่เคยเข้าใจมาก่อน และสิ่งสำคัญที่สุดที่เธอได้เรียนรู้คือ ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าครอบครัว…
เพราะทุกคนเป็นครอบครัว พวกเขาอาจโกรธกัน ทะเลาะกันเอง แต่จะช่วยกันประคับประคอง เติบโตไปด้วยกัน และค้นหาความจริงของชีวิตไปด้วยกัน ที่คุณปู่เซียวพูดมาทั้งหมดก็ด้วยความหวังว่า เธอจะกลับมายอมรับพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดและพี่ชายแท้ๆ ของเธอ
“คุณปู่ไม่ต้องห่วงหนูนะคะ ที่นี่คือบ้านเซียวโหรวและนั่นคือบ้านของหนูค่ะ” ถ้าเพื่อหัวใจเซียวโหรว เธออยากกลับมา แต่เธอในฐานะถังซี ต้องการเพียงมีครอบครัวเซียวหงลี่เป็นครอบครัวของเธอ เป็นครอบครัวที่รักของเธอ
คุณปู่เซียวพยักหน้าด้วยความดีใจ และมีน้ำตาไหลรินจากดวงตาท่าน “โหรวโหรวโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เด็กดี เด็กดี…”
ในที่สุดถังซีก็ได้ทานอาหารค่ำแสนอร่อย หลังอาหารเธอกล่าวกับคุณปู่เซียวอย่างร่าเริงว่าเธอจะไปดูหลินหรูก่อน คุณปู่เซียวบอกว่าท่านอยากไปเยี่ยมมารดาของเธอด้วย ถังซีรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ไม่พูดอะไร เธอพยุงคุณปู่เซียวไปที่ห้องหลินหรูกับเซียวหงอี้ หลินหรูเห็นคุณปู่เซียวเข้ามาน้ำตาก็ไหลพราก
เมื่อเห็นเธอร้องไห้คุณปู่เซียวก็ถอนหายใจ “เอาล่ะ ไม่ต้องร้องไห้ ตอนนี้เธอก็ได้รู้ความจริงมากมายที่ไม่เคยรู้มาก่อนแล้ว เธอควรพยายามลุกขึ้นยืนให้ได้อีกครั้งด้วยพละกำลังของตัวเอง ฉันให้สัญญาอะไรกับเธอได้ไม่มากนัก แต่ฉันสัญญาได้ว่าตระกูลเซียวของเราจะไม่ทอดทิ้งเธอ”
เซียวหงอี้รีบแย้งทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของท่าน “คุณพ่อครับ คุณพ่อพูดอะไรแบบนั้น ผมบอกแล้วว่าผมจะดูแลอาหรูอย่างดี คุณพ่อหมายความว่าผมเป็นสามีที่ขาดความรับผิดชอบหรือครับ!”
“ขอบคุณพระเจ้า ที่เธอรู้ว่าควรปฏิบัติต่อภรรยาของเธออย่างดี!” คุณปู่เซียวทำเสียงฮึดฮัด แล้วหันไปมองหลินหรู “ที่นี่คือบ้านของเธอ ฉันจะช่วยเหลือเธอทุกอย่าง เธอคือสมาชิกตระกูลเซียวเสมอ อย่าคิดมากจนเกินไป จะไม่ดีต่อการฟื้นตัวของเธอ”
ถังซีเลิกคิ้วมองดูคุณปู่เซียวด้วยความประหลาดใจ พูดตามจริงเธอไม่ได้คาดหวังเลยว่าคุณปู่เซียวจะกล่าวถ้อยคำเหล่านี้กับหลินหรู