ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 243 หายนะครั้งแล้วครั้งเล่า
“ฉันไม่แน่ใจค่ะ บางทีเขาอาจต้องการไปสืบหาอะไรบางอย่าง ฉันไม่ได้ถามเขา” ขณะคุยกันไปตลอดทาง ในไม่ช้าทั้งสองก็ไปถึงสถานีตำรวจ ถังซีมองไปยังอาคารสูงแล้วเม้มริมฝีปาก “เขาอยู่ที่นี่เหรอ” เธอถามขณะมองหน้าเซียวจิ่ง
เซียวจิ่งยักไหล่ ถังซีเดินเข้าไปในสถานีตำรวจ และขณะเดินไปก็ถามว่า “พี่จิ่ง พี่ไม่ได้กลับบ้านเลยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พี่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข่าวการเงินวันสองวันนี้หรือเปล่า”
เซียวจิ่งเลิกคิ้วมองถังซี เขากล่าวออกมาเมื่อเห็นว่าสีหน้าถังซีดูปกติ “ลูกผู้ชายอย่างพี่ คงอับอายเกินกว่าจะบอกใครว่าทำงานล่วงเวลา ถ้าไม่ได้ทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ จริงไหม” เขาดูภาคภูมิใจมาก
ถังซียิ้มมุมปาก และเดินต่อไป
…
ในห้องพักคนไข้วีไอพีของโรงพยาบาลประจำเมือง A
ลู่กวงสยงยืนอยู่หน้าเตียงผู้ป่วยของลู่หงคุน กำลังมองไปที่ลั่วเสี่ยวลี่ซึ่งกอดลู่หงคุนไว้ในอ้อมแขนและร้องไห้ราวกับจะขาดใจ เขากล่าวอย่างเย็นชา “หยุดร้องไห้! ดูสภาพตัวเองซิ!”
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ลั่วเสี่ยวลี่ก็เงยหน้าขึ้นมองและตะโกนใส่เขาทันที “ลูกชายฉันเกือบต้องตาย! ทำไมฉันถึงจะร้องไห้ไม่ได้ เขาเป็นลูกชายของคุณด้วยไม่ใช่หรือ คุณไร้หัวใจพอที่จะเห็นเขาเป็นแบบนี้ได้ยังไง ดูสิ เขาบาดเจ็บสาหัสเพราะไอ้ลูกไม่มีพ่อนั่น!”
ลู่กวงสยงขมวดคิ้ว ลั่วเสี่ยวลี่สบประมาททันทีเมื่อเห็นสีหน้าลู่กวงสยงเข้มขึ้น “ทำไม ทนฟังฉันด่าลูกชายคนโปรดไม่ได้หรือ แล้วไง มันก็ยังเห็นคุณเป็นศัตรูตลอดเวลา และพยายามจะฆ่าคุณ! ดูบริษัทของคุณสิ! ถ้าไม่มีสองพันล้านหยวน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราพยายามกันมาตลอดหลายปี ต้องถูกทิ้งลงท่อระบายน้ำ!”
ลู่กวงสยงนิ่งเงียบลงด้วยสีหน้าเครียดจัด ลู่หงคุนร้องเสียงดังทันทีเมื่อเห็นลู่กวงสยงไม่ยอมพูดอะไร เขาตะโกนใส่ลั่วเสี่ยวลี่ “แม่ผมปวด! ผมปวดไปหมดทั้งตัว!”
สีหน้าลั่วเสี่ยวลี่เปลี่ยนเป็นดุดันและโหดเ**้ยม เธอตะโกนใส่ลู่กวงสยง “ไปบอกไอ้เด็กสารเลวนะ! ถ้ามันไม่จ่ายเงินให้เราสองพันล้านหยวน เราจะฟ้องเอามันเข้าคุก! ถึงยังไงคนทั่วไปก็เข้าข้างเราอยู่แล้ว!”
ลู่กวงสยงหรี่ตาลง “ตกลง ฉันจะไปคุยกับเขา…”
ทันใดนั้นประตูห้องคนไข้ก็เปิดออก ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับโทรศัพท์ในมือ เขากล่าวอย่างเคร่งขรึม “ท่านประธานครับ มีเรื่องร้ายเกิดขึ้นแล้ว… ดูนี่สิครับ…”
หลังจากลู่กวงสยงดูคลิปวิดีโอเขาก็เบิกตากว้าง หน้าแดงก่ำ เขานิ่งอึ้งอยู่นานกว่าจะตะโกนออกมาอย่างโกรธแค้น “มันตัดต่อชัดๆ! มันตัดต่อชัดๆ!”
คลิปวิดีโอนี้ได้รับการตัดต่ออย่างเชี่ยวชาญ คำด่าและเย้ยหยันของเฉียวเหลียงถูกตัดออก ถ้อยคำที่พวกเขาพูดถูกตัดต่อด้วยความชำนาญ หากเขาไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เขาก็คงเชื่อทุกอย่างตามคลิปวิดีโอนี้…
ชายหนุ่มกล่าวอย่างเคร่งเครียด “ตอนนี้คนทั่วไปไม่ได้เข้าข้างเรานะครับ ชาวเน็ตบางคนถึงกับ…” เขาให้ลู่กวงสยงดูหัวข้อแฮชแท็กที่ถูกสืบค้นมากที่สุดของไมโครบล็อก ลู่กวงสยงหน้าแดงก่ำ พูดไม่ออก ขณะอ่านข้อความเหล่านั้น และลั่วเสี่ยวลี่กรีดร้องเสียงดัง “หน้าด้าน! พวกมันหน้าด้าน! หน้าด้านที่สุด!”
“เร็วสิ ไปบอกทุกคนว่าทั้งหมดไม่ใช่เรื่องจริง! เรื่องเกิดขึ้นในบริษัทพวกมัน พวกมันต้องตัดต่อคลิปวิดีโออย่างแน่นอน!” ลั่วเสี่ยวลี่ขว้างโทรศัพท์มือถือของชายหนุ่มลงกับพื้น
โชคดีที่ชายหนุ่มคว้าโทรศัพท์เขาไว้ทัน
ลู่กวงสยงสงบนิ่งกว่าลั่วเสี่ยวลี่ เขากล่าวอย่างใจเย็น “แล้วไงล่ะ! ถ้ามันไม่อยากเข้าคุก มันก็ต้องให้เงินเรา และช่วยพวกเราให้พ้นคดี!”
พูดจบเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และกำลังจะโทรออก เมื่อชายหนุ่มได้รับโทรศัพท์และ ใบหน้าสลดลงอย่างฉับพลัน เขาเงยหน้าขึ้นมองลู่กวงสยงด้วยความตกใจ เมื่อสังเกตเห็นว่าเขามีท่าทางแปลกไป ลู่กวงสยงก็เก็บโทรศัพท์ของตัวเองและจ้องมองชายหนุ่ม หลังจากชายหนุ่มวางสาย ลู่กวงสยงก็ ถามเขาว่า “เกิดอะไรขึ้น”
ชายหนุ่มค่อยๆ หันไปมองลู่กวงสยง จะเอ่ยอะไรบางอย่างแต่ก็ลังเล
ลู่กวงสยงตะคอกด้วยความโกรธ “พูดออกมา!”
“ท่านประธานครับ คนของเราบอกว่าเฉียวเหลียงยอมมอบตัวกับตำรวจครับ… และหลักฐานการเลี่ยงภาษีของบริษัทลูกของเราถูกส่งฟ้องศาลแล้ว และ…เอ่อ…”
ลั่วเสี่ยวลี่กรีดร้องเสียงดัง “พูดออกมาทั้งหมดทีเดียวไม่ได้หรือไง!”
“และมีเรื่องราวที่กำลังเผยแพร่ทางออนไลน์ว่า ผู้จัดการเป็นพวกฟิโดฟีเลีย ชอบมีสัมพันธ์กับเด็กครับ และได้ข่มขืนเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ คนหนึ่งจนตาย…”
“อะไรนะ!” ลู่กวงสยงเบิกตากว้าง ใบหน้าแดงก่ำ จ้องมองลู่หงคุนเขม็ง เขายกมือทาบอก อ้าปากค้าง “ข่มขืนเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ จนตาย อย่างนั้นหรือ”
ลู่หงคุนไม่กล้าสบตาพ่อ ชายหนุ่มกล่าวต่อไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “พวกเขาบอกว่าตำรวจกำลังจะมาจับกุมตัวผู้จัดการครับ…”
ลู่หงคุนตกใจแทบช็อคเมื่อได้ยินอย่างนั้น เขาไม่สนใจความเจ็บปวดทางร่างกาย กระโดดลงจากเตียงเข้าไปกอดขาลู่กวงสยง และร้องไห้อย่างสิ้นหวัง “พ่อครับ… พ่อช่วยผมด้วย! ช่วยผมด้วย! ผมไม่อยากเข้าคุก!”
ไม่มีเวลาถามลูกชายว่าจริงหรือไม่จริง ลั่วเสี่ยวลี่คว้าแขนลู่กวงสยง “เร็วเข้าสิ ทำอะไรสักอย่าง!”
ลู่กวงสยงสะบัดมือลั่วเสี่ยวลี่ เตะลู่หงคุนออกไป แล้วกล่าวอย่างเย็นชา “ไอ้เด็กเลว! แกกล้าฆ่าคนตายได้ยังไง! แล้วเมื่อแกฆ่าคนตายแล้วทำไมถึงให้คนอื่นจับได้”
ลู่หงคุนร้องไห้ “ผมไม่รู้ ผมกับเพื่อนๆ แค่เล่นสนุกกับเด็กคนนั้น ผมไม่รู้ว่าทำไมเด็กคนนั้นถึงได้อ่อนแอ…”
พลั่ก…
ก่อนที่ลู่หงคุนจะพูดจบ ลู่กวงสยงก็เตะเขาซ้ำอีกครั้ง เขาถูกเตะกระเด็น ใบหน้ากระแทกขาเตียงเสียงดังลั่น ลั่วเสี่ยวลี่โกรธมากที่เห็นลูกชายโดนเตะ เธอตะโกนใส่ลู่กวงสยง “ทำไมเอาแต่โกรธหงคุน! ทำไมไม่ทำอะไรสักอย่าง…”
ปัง…
ก่อนที่เธอจะได้พูดจบ ประตูห้องก็เปิดออกอย่างแรง ตำรวจสวมเครื่องแบบสองนายเดินเข้ามา แล้วกล่าวเสียงเรียบ “เราพบหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่า ลู่หงคุนฆ่าเด็กผู้ชายตายในอ้ายฉางคาราโอเกะ นี่คือหมายจับ กรุณาไปกับพวกเราด้วย”
ลั่วเสี่ยวลี่รีบลุกขึ้นปกป้องลู่หงคุนไว้ข้างหลัง เธอตะโกนใส่ตำรวจ “ไร้สาระ! ออกไป! ออกไปให้พ้น!”
ลู่กวงสยงลากลั่วเสี่ยวลี่ออกมา มองหน้าตำรวจด้วยสีหน้าเฉยชา และกล่าวว่า “ท่านครับ ได้โปรดเอาตัวฆาตกรคนนี้ไปด้วย!”
ลั่วเสี่ยวลี่และลู่หงคุนมองหน้าเขาด้วยความตกใจ ลู่กวงสยงเหลือบสายตาดุดันไปที่ลั่วเสี่ยวลี่อย่างรวดเร็วและกล่าวอย่างเยือกเย็น “หุบปาก!”
“พ่อ…” ลู่หงคุนถูกตำรวจนำตัวไป ก่อนที่เขาจะพูดอะไรได้มากกว่านี้
ลั่วเสี่ยวลี่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจนกระทั่งลู่หงคุนถูกนำตัวไป เธอกระโจนเข้าไปข่วนหน้าลู่กวงสยง “คุณนั่งเฉยๆ มองดูหงคุนถูกจับไปอย่างนี้ได้ยังไง! คุณยอมให้คนพวกนั้นเอาตัวลูกชายเราไปได้ยังไง!”
ลู่กวงสยงโกรธมาก ตบหน้าลั่วเสี่ยวลี่และกล่าวอย่างเยือกเย็น “ไอ้เด็กสารเลว! สร้างความเดือดร้อนให้บริษัทยังไม่พอ ตอนนี้มันถึงกับฆ่าเด็กผู้ชายด้วยวิธีที่น่าขยะแขยง ฉันหมดสิ้นทุกอย่างแล้ว ยังจะเอาอะไรไปช่วยมันให้พ้นผิดได้อีกหรือ!”
ลั่วเสี่ยวลี่ไม่เคยโดนลู่กวงสยงตบหน้ามาก่อน เมื่อถูกตบเธอตกตะลึง จ้องมองลู่กวงสยงอย่างตื่นตระหนก และตะโกนด้วยเสียงแหบห้าว “คุณตบหน้าฉัน!”
ลู่กวงสยงไม่สนใจเธอ ลั่วเสี่ยวลี่เสียสติไปแล้ว เธอม้วนแขนเสื้อขึ้น กระโจนเข้าไปข่วนลู่กวงสยง “ฉันจะฆ่าแก!”