ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 254 อาหกตื่นตะลึง
ในขณะที่เซียวเหยาพาคนของเขาออกไป คนของเฉียวเหลียงส่วนใหญ่ก็ออกจากบริเวณไปอย่างเงียบๆ และอาห้าเป็นคนนำตัวลู่กวงสยงออกไป
เฉียวเหลียงกอดถังซีแน่น ปากเอ่ย “ผมขอโทษๆ” ไม่หยุด เมื่อคิดถึงสิ่งที่เฉียวเหลียงพูดกับลู่กวงสยง ถังซีก็ตบหลังเฉียวเหลียงเบาๆ ขณะกอดเขาไว้ และกระซิบว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ดูสิ ฉันไม่ได้เป็นอะไร คุณไม่ต้องขอโทษฉันเลย”
เฉียวเหลียงจูบศีรษะเธอและกล่าวขอโทษอีก “ผมขอโทษ ผมผิดเอง ผมรู้ว่าเขาจนมุม แต่ไม่คิดว่าเขาจะสืบรู้ความสัมพันธ์ของเราและลักพาตัวคุณ”
ถังซียิ้มอย่างอบอุ่น แนบหูกับอกเฉียวเหลียง ฟังเสียงหัวใจเขาที่เต้นแรง แล้วเอ่ยเบาๆ “คนโง่ ฉันไม่กลัวเลยสักนิด ถ้ากลัวฉันคงขอให้พี่เหยามาช่วยฉันแล้วล่ะ ตอนที่เขาโทรหาฉัน”
เซียวเหยาก้าวเข้ามาอย่างรวดเร็ว คว้ามือถังซี ลากเธอออกจากอ้อมแขนเฉียวเหลียง เขาหรี่ตาลงจ้องหน้าถังซีและกล่าวอย่างเย็นชา “งั้นก็แสดงว่าเธอก็ถูกลู่กวงสยงลักพาตัวแล้วน่ะสิ ตอนที่พี่โทรหาเธอ”
เฉียวเหลียงก็จ้องหน้าถังซีเช่นกัน และเซียวจิ่งเดินเข้ามาสมทบด้วย ถังซีรีบยกมือขึ้นห้ามทุกคนแล้วอธิบายว่า “สถานการณ์ค่อนข้างอันตรายในเวลานั้น มีแค่เขากับฉันอยู่ตรงนั้น ฉันเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ เขาอาจจะฆ่าฉันได้ ถ้าฉันขอความช่วยเหลือจากพี่เหยา ฉันไม่น่าจะสู้เขาไหว คงได้แต่ยอมจำนนเท่านั้น”
ชายหนุ่มทั้งสามมองดูรูปร่างเล็กๆ ของถังซี และจำได้ดีว่าเธอเพิ่งออกจากโรงพยาบาล ร่างกายเธอยังอ่อนแอ และเธอต้องหวาดกลัวแน่ๆ หลังจากถูกลักพาตัว พวกเขาจึงไม่ใจแข็งพอที่จะดุเธอ เฉียวเหลียงดึงเธอเข้าไปในอ้อมกอดอีกครั้ง “เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก”
เซียวเหยาเย้ยหยัน “ท่านประธานเฉียวก็ดีแต่พูด ปากหวานอยู่ตลอด แต่โหรวโหรวก็ได้รับบาดเจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่า”
เฉียวเหลียงหัวเราะเยาะบ้างขณะจ้องมองเซียวเหยา แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มอย่างเย็นชา “ในเมื่อผู้พันเซียวเก่งกาจนัก ทำไมถึงปล่อยให้ซีซีเสี่ยงชีวิตช่วยชีวิตคุณ จนเธอเกือบตายในคราวนั้น!”
“คุณ!”
“พอแล้วค่ะ!” ถังซีผละออกจากอ้อมแขนเฉียวเหลียง มองทั้งสองคนด้วยสายตาเกรี้ยวกราด “อย่าทำตัวเป็นเด็กอย่างนี้สิคะ ทั้งสองคนทะเลาะกันเหมือนเด็กๆ เลย ไม่อายบ้างเหรอคะ”
“ไม่!” ทั้งสองตอบพร้อมกัน และยังคงจ้องหน้ากันและกัน
ถังซีหายใจเข้าลึกๆ เดินเข้าไปหาเซียวจิ่ง เกาะแขนเขาแล้วเดินออกไปด้วยกัน พร้อมกับพูดเสียงดังว่า “พี่จิ่ง ช่วยพาฉันกลับบ้านทีได้ไหม ฉันไม่อยากกลับกับคนโง่สองคน!”
เซียวจิ่งพยักหน้าด้วยความยินดี และรีบพาเธอไปขึ้นรถ
เฉียวเหลียงกับเซียวเหยามองดูทั้งสองคนเดินจากไป แล้วหันมาจ้องมองกันและกัน เฉียวเหลียงเอามือล้วงกระเป๋า มองหน้าเซียวเหยายิ้มๆ “ในฐานะผู้บังคับการหน่วยปฏิบัติการพิเศษแห่งกองกำลังพิเศษ ผู้พันเซียวได้เข้ามามีส่วนร่วมในคดีเล็กๆ อย่างลักพาตัวนี่ ทำให้ขากรรไกรผมค้างจริงๆ”
เซียวเหยาหรี่ตา ก้าวมาข้างหน้าและมองเฉียวเหลียงด้วยสายตาคมปลาบ “เฉียวเหลียง ตัวตนที่แท้จริงของคุณคือใครกันแน่”
“ผู้พันเซียวไม่ได้สืบประวัติผมหรอกหรือ” เฉียวเหลียงยิ้ม เดินออกไปด้านข้างขณะกล่าวว่า “เห่าหงสอนแค่วิธีต่อสู้และยิงคนให้คุณหรือ ไม่ได้สอนให้ฝึกสติปัญญาบ้างเลยหรือไง แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม คุณเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทำไมไม่ทำงานให้หนักกว่านี้”
เซียวเหยาก้าวออกไปข้างหน้า ยืนขวางทางเฉียวเหลียง และถามเสียงเข้ม “คุณสืบประวัติผมหรือ”
“ผู้พันเซียว คุณคิดมากเกินไป” เฉียวเหลียงหยุดเดิน มองเซียวเหยาอย่างใจเย็น “เราเป็นเพื่อนกัน และกำลังเราจะเกี่ยวดองกันเพราะซีซี ฉะนั้นผมจะไม่สืบประวัติคุณ”
“แล้วทำไมคุณถึงรู้จักตัวตนที่แท้จริงของผมล่ะ!” เซียวเหยากล่าวอย่างเกรี้ยวกราด “เรื่องนี้เป็นความลับ! มีคนน้อยมากที่จะรู้!”
“แต่ก็มีบางคนที่รู้เรื่องนี้ จำไว้ว่าเมื่อใดก็ตามที่มีคนค้นพบความลับของคุณ คุณต้องเตรียมพร้อมว่าโลกทั้งโลกจะรู้” เฉียวเหลียงยิ้ม “แล้วอีกอย่าง คุณไปที่บ้านคุณตาคุณในวันนั้นเพราะคุณได้เลื่อนตำแหน่ง และลุงคุณก็รู้ว่าจริงๆ แล้วคุณทำงานอะไรจริงไหม ดังนั้นจึงไม่ใช่ความลับอีกต่อไปนับจากคืนนั้น”
เซียวเหยาชะงัก จริงสิ เฉียวเหลียงก็อยู่ด้วยในวันนั้น! บ้าชะมัด! เซียวจิ่ง นายนี่มันไม่ได้เรื่อง! ลืมไปได้ยังไงว่าเฉียวเหลียงก็อยู่ที่บ้านคุณตาด้วยในวันนั้น และยังมาเข้าใจผิดเองอีก ไอ้บ้าเอ๊ย!
เฉียวเหลียงเปิดประตูรถขึ้นไปนั่ง เซียวเหยาตามมาติดๆ และขึ้นไปนั่งข้างเขา เฉียวเหลียงเลิกคิ้วขึ้นมอง เซียวเหยากล่าวว่า “ในฐานะน้องเขย คุณน่าจะไปส่งผม”
เฉียวเหลียวสูดลมหายใจแล้วเงียบกริบไปเมื่อได้ยินคำว่า ‘น้องเขย’
เซียวจิ่งกับถังซีขับรถของเซียวเหยาออกไปแล้ว รถของทหารก็ขับออกไปหมดแล้วเช่นกัน แน่นอนว่าเขาจะไม่วิ่งกลับบ้าน เพียงเพราะไม่ชอบหน้าเฉียวเหลียง…
เฉียวเหลียงนั่งอยู่ในรถ มองตรงไปข้างหน้า ออกคำสั่งด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ไปส่งคุณเซียวที่บ้านก่อน แล้วค่อยไปที่สเพล็นดิดเวิลด์”
เซียวเหยาหรี่ตาลง “ผมก็จะไปสเพล็นดิดเวิลด์เหมือนกัน คุณไม่ต้องไปส่งผมที่บ้านหรอก” จากนั้นก็หันไปมองหน้าเฉียวเหลียง “คุณปู่ผมจะมาค้างที่บ้านคุณลุงผมสักพัก ผมสัญญากับท่านไว้ว่าจะไปหาท่านให้บ่อยขึ้น แล้วอีกอย่าง คืนนี้โหรวโหรวคงยังหวาดกลัว ในฐานะพี่ชายผมควรจะปลอบเธอ”
รังสีรอบกายเฉียวเหลียงกลายเป็นน้ำแข็งในทันที เซียวเหยายิ้ม กล่าวต่อไปว่า “แน่นอนประธานเฉียว คุณเองในฐานะแฟนโหรวโหรว คุณก็น่าจะอยู่ดูแลเธอเหมือนกัน ถ้างั้นเราก็ไปที่นั่นด้วยกัน!”
เฉียวเหลียงหรี่ตาลง พร้อมกับกัดฟันแน่น “ได้สิ ช่วยดูแลซีซีด้วย พี่ชาย!”
เซียวเหยากล่าวว่า “เธอเป็นน้องสาวผม ผมควรจะดูแลเธออยู่แล้ว คุณไม่ต้องเกรงใจผมขนาดนี้หรอก!”
ระหว่างทางทั้งสองแขวะกันไปมา อาหกซึ่งทำหน้าที่ขับรถอยากจะหูหนวกให้รู้แล้วรู้รอดไป เขาไม่อยากได้ยินอะไรเลย! แต่ว่า…
หลังจากเซียวเหยาลงจากรถ เฉียวเหลียงก็หันไปหาอาหก และถามด้วยสีหน้าถมึงทึงว่า “นายได้ยินอะไรบ้าง”
อาหกแทบจะร้องไห้ “นายน้อยครับ ผมอยากให้ผมไม่ได้ยินอะไรเลย!”
ทำไมเขาถึงบังเอิญได้ยินว่าคุณหนูเซียวคือคุณถังล่ะ! ทำไมพวกคุณถึงพูดเรื่องแบบนี้ต่อหน้าผม!
เฉียวเหลียงพยักหน้า “แล้วนายได้ยินอะไร”
“คุณถังซีบังเอิญกลายเป็นคุณหนูเซียวโหรว คุณหนูเซียวโหรวจริงๆ แล้วคือคุณถังซี… นั่นเป็นสาเหตุให้นายน้อยมีท่าทางแปลกๆ หลังจากได้เจอกับคุณหนูเซียวใช่ไหมครับ…”
เฉียวเหลียงตอบด้วยเสียงงึมงำ “ใช่”
“ฮะ?” อาหกรู้สึกสับสนขึ้นมาทันที นี่เขาพูดอะไรออกไปกับนายน้อย โอย…เขากลัวเหลือเกิน! “นายน้อย คุณหมายความว่ายังไงครับ”