ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 276 ทุกอย่างเพื่อความโปรดปรานของเธอ
ถังซีตะลึงจ้องเฉียวเหลียงซึ่งโน้มลงมาเอาแก้มชนแก้มเธอ ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ชายหนุ่มจูบเธอโดยไม่ขออนุญาต! แต่เวรกรรม… จริงๆ แล้วเธอรู้สึกดี! ทำไมเธอถึงไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาเป็นคนใจร้อน!
ทั้งสองจูบกันอย่างดูดดื่มที่เบาะหลังรถ… อาหกมองดูอยู่เงียบๆ ทางกระจกมองหลัง พร้อมกับร้องอุทธรณ์ในใจ ‘นายน้อยครับ! ผมไม่ว่าอะไรที่จะให้ผมรู้ความลับของคุณถัง และไม่ว่าอะไรที่จะให้ผมเป็นผู้คุ้มกันคุณถัง แต่ทำไมถึงต้องจูบเธอต่อหน้าผมด้วย! น่าอายจริงๆ! ‘
‘คุณถังเป็นหญิงสาวที่จิตใจดีจริงๆ เธอกลัวว่าการตายของเธอจะสร้างจุดเจ็บในหัวใจนายน้อย ถึงแม้เธอจะอยากให้คุณประพฤติตัวอย่างถูกต้อง แต่เธอก็กลัวจะเป็นการทำร้ายความรู้สึกคุณ และพยายามผ่อนหนักให้เป็นเบา เธอช่างแสนดีจริงๆ … เอ่อ ฉันควรใช้สมาธิในการขับรถจะดีกว่านะ…”
เมื่อถังซีกับเฉียวเหลียงมาถึงบ้านเฉียวเหลียงนั้น เฉียวอวี่ซินให้แม่บ้านเตรียมอาหารไว้พร้อมรับประทานแล้ว นางนั่งรอทั้งคู่อยู่บนเก้าอี้อย่างมีความสุข ทันทีที่เห็นทั้งคู่เดินเข้ามานางก็โบกมือให้ถังซีอย่างร่าเริงเบิกบาน “โหรวโหรว มาทางนี้เลยจ้ะ”
ถังซียิ้มเมื่อสังเกตเห็นไม้ค้ำยันอยู่ข้างๆ มือ เฉียวอวี่ซิน เธอวิ่งไปหานาง “คุณป้าเดินด้วยไม้ค้ำยันได้แล้วเหรอคะตอนนี้”
ดวงตาเฉียวอวี่ซินเป็นประกายเมื่อได้ยินคำถาม แต่นางยังส่ายศีรษะ “ยังไม่ได้หรอกจ้ะ แต่ป้าลุกขึ้นยืนได้แล้วโดยให้คนอื่นช่วยพยุง และนั่งลงด้วยตัวเองได้แล้ว ป้าคิดว่าอีกไม่นานป้าก็จะไม่ต้องการไม้ค้ำอีกต่อไป ขอบใจนะจ๊ะ เทพธิดานำโชคของป้า”
เฉียวเหลียงเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มสดใส โอบแขนรอบเอวถังซีและกระซิบว่า “ขอบคุณนะครับ เทพธิดานำโชคของผม”
ถังซีค้อนเฉียวเหลียงอย่างเขินอาย ตบหลังมือเขาเบาๆ ให้เอามือออกไปจากเอวเธอ แล้วนั่งลงข้างๆ เฉียวอวี่ซิน พร้อมกับกล่าวด้วยความดีใจ “ขอบคุณความพยายามของคุณป้าเองมากกว่าค่ะ ถ้าคุณป้าไม่ได้พยายามอย่างหนักมากพอ หนูอีกร้อยคนก็ช่วยไม่ได้ค่ะ คุณป้าฟื้นตัวได้เร็วอย่างนี้ หนูคิดว่าคุณป้าจะสามารถใส่รองเท้าส้นสูงเดินได้ ก่อนที่หนูจะเรียนจบโรงเรียนมัธยมปลายแน่ๆ ค่ะ”
เฉียวอวี่ซินรู้สึกขบขันคำพูดของเธอ นางรู้ดีว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นกับเซียวโหรวบ้าง นางรู้สึกสงสารและเห็นใจ ไม่เคยคิดดูถูกเธอ นางยิ้มและเชิญชวนถังซีให้นั่งลงรับประทานอาหาร “มาจ้ะ นั่งลงทานอาหารค่ำกันได้แล้ว ถ้าหนูมัวแต่ชมป้าอยู่อย่างนี้ป้าจะเหลิงเอา แล้วอาจจะลุกขึ้นยืนไม่ได้อีก คราวนี้หนูจะต้องรับผิดชอบป้านะ”
ถังซีหัวเราะ ทันใดนั้นเธอก็เห็นอาหารทะเลบนโต๊ะ แต่ขณะกำลังจะลงมือลิ้มรสให้อร่อย เธอก็นึกขึ้นได้ว่าเธอสวมชุดราตรีเต็มยศ เธอก้มลงมองเสื้อผ้าตัวเองแล้วถอนหายใจ… เธอจะเอร็ดอร่อยกับอาหารแสนโอชะตรงหน้าในชุดเต็มยศแบบนี้ได้อย่างไร เธอยังเด็กอยู่เลย ทำไมต้องเข้าร่วมการแสดงงานศิลปะของโรงเรียนด้วยชุดราตรีเต็มยศอย่างนี้ด้วยก็ไม่รู้!
สายตาเฉียวอวี่ซินจับจ้องอยู่ที่ใบหน้ายิ้มแหยของถังซี ทีแรกนั้นนางไม่ทันได้สังเกตว่าเธอสวมชุดอะไร ตอนนี้เมื่อเห็นถังซีมองเสื้อผ้าตัวเองแล้วขมวดคิ้ว นางจึงสังเกตเห็นชุดแสนสวยของถังซี นางถึงกับอุทาน “พระเจ้า โหรวโหรว คืนนี้หนูจะไปร่วมงานเลี้ยงหรือจ๊ะ หนูสวยมากเลย…”
เฉียวเหลียงล้างมือและเริ่มแกะเปลือกกุ้งให้ถังซี เมื่อได้ยินคำพูดของเฉียวอวี่ซินเขาก็เงยหน้าขึ้นมองถังซีและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เธอเพิ่งไปร่วมงานฉลองมาครับ แต่จบลงด้วยการหลับปุ๋ย…” ถังซีกลอกตามองเขาอย่างขุ่นเคือง เฉียวเหลียงหัวเราะเอาเนื้อกุ้งใส่ปากเธอ แล้วดึงกระดาษทิชชูมาเช็ดมือ ก่อนจะลุกขึ้นยืนพร้อมกับกล่าวกับเฉียวอวี่ซิน “คงจะอึดอัดถ้าต้องทานอาหารในชุดเต็มยศแบบนี้ ผมจะพาเธอไปเปลี่ยนก่อน”
ถังซีรู้สึกประทับใจมากและมองเฉียวเหลียงด้วยสายตาซาบซึ้ง ในโลกนี้จะหาแฟนใครใจดีน่ารักได้ขนาดนี้คงไม่มีอีกแล้ว!
เฉียวอวี่ซินยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าซาบซึ้งใจของถังซี “ไปสิจ๊ะ”
เฉียวเหลียงพาถังซีไปที่ห้องนอนเขา ถังซีเลิกคิ้ว ยิ้มอย่างซุกซน แล้วทันทีนั้นเธอก็กระโดดไปอยู่ข้างตัวเฉียวเหลียงและถามว่า “คุณจะให้ฉันใส่เสื้อผ้าคุณเหรอ”
เฉียวเหลียงเลิกคิ้วมองเธอ “ถ้าผมจะให้ใส่ คุณจะใส่ไหม”
ถังซีส่ายศีรษะ มองเฉียวเหลียงด้วยดวงตาเป็นประกาย ขณะหัวเราะร่วน “ฉันกลัวว่าคุณจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ถ้าเห็นฉันอยู่ในเสื้อผ้าคุณ…”
เฉียวเหลียงส่ายศีรษะด้วยรอยยิ้ม หันไปเปิดตู้เสื้อผ้าของเขา ถังซีตกตะลึงเมื่อเธอเห็นสิ่งที่อยู่ในนั้น…
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอเข้ามาในห้องเฉียวเหลียง แต่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นข้าวของในตู้เสื้อผ้าเขา… เขาทำได้อย่างไร…
ดวงตาถังซีแดงเรื่อขึ้นมาทันทีที่เห็นเสื้อผ้าแปลกตาแต่คุ้นเคยเหล่านี้ เธอหันไปหาเฉียวเหลียง ละล่ำละลักกล่าวด้วยเสียงสะอื้น “ทำไม…ถึงมี…เสื้อผ้าพวกนี้…ที่นี่ล่ะ”
เฉียวเหลียงเอนกายพิงตู้เสื้อผ้า เอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้เธอ พร้อมกับกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ก็เพราะงานออกแบบของคุณสวยงามและเหมาะกับคุณมาก แม้ว่าที่คุณสเก็ตช์ไว้จะยังไม่สมบูรณ์แบบก็ตาม แต่ตู้เสื้อผ้าผมใหญ่มาก เลยอยากมีเสื้อผ้าของคุณมาเติมให้เต็ม”
ถังซีระเบิดน้ำตาออกมาพรั่งพรู โผเข้ากอดเฉียวเหลียง “คุณสั่งตัดเสื้อผ้าพวกนี้ตั้งแต่เมื่อไร”
“ผมจำไม่ได้ นานมากแล้ว วันนี้ในที่สุดเจ้าของเสื้อผ้าก็ได้มาลองสวม” เฉียวเหลียงจูบหน้าผากเธอ “ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสิ ทั้งหมดนี้เป็นของคุณ และทุกชุดก็พอดีกับขนาดของคุณ แม่ผมรออยู่ข้างล่าง ผมจะลงไปก่อน ไม่อยากให้ท่านรอนานเกินไป”
หลังจากเฉียวเหลียงออกไปถังซีก็เลือกชุดลำลองมาชุดหนึ่ง เธอมองตัวเองในกระจกและรู้สึกประหลาดใจที่ชุดพอดีกับตัวเธออย่างไม่มีที่ติ เธอคงจะลืมงานออกแบบพวกนี้ไปเลย ถ้าไม่ได้มาเห็นทั้งหมดอยู่ในตู้เสื้อผ้าเฉียวเหลียงในวันนี้ เธอสเก็ตช์แบบเสื้อผ้าเหล่านี้ลงในสมุดจดงาน เพื่อฆ่าเวลาระหว่างช่วงพักที่โรงเรียน
เธอจำได้ว่าเขาหัวเราะภาพวาด ‘น่าเกลียด’ เหล่านี้ และไม่เคยคิดมาก่อนว่าเขาจะเปลี่ยนเสื้อผ้า ‘น่าเกลียด’ ในภาพสเก็ตช์ ให้กลายเป็นเสื้อผ้าที่สวยงามทั้งหมดนี้…
เมื่อถังซีเปลี่ยนเสื้อผ้าและเดินลงบันไดมา จานของเธอก็เต็มไปด้วยเนื้อกุ้งที่เฉียวเหลียงแกะเปลือกไว้ให้ เธอพอใจมากที่เห็นสิ่งนี้ เฉียวอวี่ซินพูดติดตลกว่า “โหรวโหรว แม้แต่ป้าที่เป็นแม่ของเขา อาเหลียงยังไม่เคยบริการแบบนี้เลย! เขาไม่เคยแกะเปลือกกุ้งให้ป้าเลยนะ… หนูน่ะเป็นคนพิเศษในหัวใจเขา”
ถังซียิ้มอย่างเขินอาย เฉียวเหลียงไม่ไว้หน้ามารดาแต่อย่างใด เปิดเผยการ ‘โกหก’ ไม่เนียนของท่านเสียอย่างนั้น “ก็ใครล่ะครับที่บอกว่าไม่ชอบทานกุ้ง จะทานแต่ปูเท่านั้น”
เฉียวอวี่ซินมองดูเนื้อปูบนจานของนางแล้วยักไหล่ พึมพำว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ลูกแกะปูให้แม่ เป็นประวัติการณ์…”
เฉียวเหลียงลากถังซีไปนั่งข้างๆ เขา และมองมารดาอย่างไม่รู้ไม่ชี้ “แม่ครับ ผมได้ยินนะครับ…”
“แล้วไงล่ะ! ก็แม่พูดความจริง!” แล้วนางก็ร้องเสียงดังเมื่อเห็นถังซีไปนั่งข้างเฉียวเหลียง “เฮ้ เจ้าเด็กเหลือขอ! โหรวโหรวกำลังจะมานั่งข้างแม่ ทำไมถึงมาลากเธอไปอย่างนั้น!”
เฉียวเหลียงกุมมือถังซีมาประสานกับมือเขาแล้วยกขึ้นด้วยท่าทางพึงพอใจ ราวกับเป็นการยืนยันความเป็นเจ้าของถังซีให้แม่เขารู้ “เธอเป็นแฟนผมนี่ครับ ไม่ใช่แฟนแม่ และแม่ครับ ผมจำได้ว่าผมป้อนน้ำซุปให้แม่จนอิ่มแล้ว อีกอย่างหนึ่งปูก็ไม่ดีต่อสุขภาพแม่ ผมจำได้ว่าแม่ไม่เคยชอบทานมาก่อน”