ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 329 ชัยชนะแบบขาดลอย
เมื่อได้ยินอาหกกล่าวเช่นนั้น ทุกคนในห้องประชุมก็ถึงกับกลั้นหายใจ ต่างก็คิดว่าคราวนี้ถังซีต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน ส่วนถังเจี๋ยเหรินก็ฉีกยิ้มด้วยความพึงพอใจอย่างยิ่ง แต่ในทันใดอาหกก็เลิกคิ้ว ส่งสายตามองไปที่ถังเจี๋ยเหริน “ดังนั้น ผมตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ออกเสียงในครั้งนี้”
“ดี ในที่สุด…” ถังเจี๋ยเหรินลุกขึ้นยืนกล่าวอย่างตื่นเต้น แต่ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจความหมายของสิ่งที่อาหกพูด เขาหันไปหาอาหกซึ่งส่งยิ้มหยันมาให้ เขาเอ่ยถามว่า “คุณลู่ คุณหมายความว่ายังไง”
“ไม่เข้าใจหรือครับ” อาหกลุกขึ้นยืน หัวเราะเบาๆ มองตอบถังเจี๋ยเหรินด้วยสายตาเยือกเย็น “ผมไม่มีวันยินยอมให้คนไร้ความสามารถอยู่ในตำแหน่งประธานบริษัท ไม่ว่าจะเพื่อประโยชน์ของบริษัทหรือสำหรับตัวผมเอง” เมื่อกล่าวจบเขาก็เหลือบตามองถังเหา แล้วหันมาทางถังซี “ผมได้ตรวจสอบการทำงานของประธานถังแล้ว ความสามารถของเธอเป็นที่ประจักษ์สำหรับทุกคน แม้เธอจะไม่ได้เข้ามาที่บริษัทในระหว่างหลายเดือนที่ผ่านมา แต่บริษัทก็ยังดำเนินงานไปได้ด้วยดี ผมจึงคิดว่าเอ็มไพร์กรุปจำเป็นต้องมีผู้บริหารที่ทรงประสิทธิภาพอย่างเธอ”
อาหกหยุดชั่วครู่ หันมองรอบๆ ห้องไปยังผู้ถือหุ้นทุกคน ถามเสียงเข้มว่า “ทุกท่านคิดว่าผมพูดถูกไหมครับ”
บรรดาผู้ถือหุ้นซึ่งเริ่มเสียใจที่ตัดสินใจย้ายข้างเพราะคำพูดชักจูงของถังซี เมื่อพบว่าจริงๆ แล้วชายผู้นี้ถือเสียงข้างถังซี ก็รู้สึกโชคดีที่ตนเองตัดสินใจถูกต้อง พวกเขาพยักหน้ารับ “คุณลู่พูดถูก ในฐานะผู้ถือหุ้นของบริษัท พวกเราย่อมต้องการให้บริษัทมีรายได้งอกเงย”
เมื่อเห็นเช่นนี้สมาชิกตระกูลถังต่างก็โกรธจนพูดไม่ออก ขณะนั้นเองกรรมการคนหนึ่งก็กล่าวขึ้นว่า “เราคงไม่อาจทนอยู่เฉย เฝ้ามองเอ็มไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งควรจะสร้างผลกำไรมหาศาล แต่กลับขาดทุนมาตลอด โดยไม่ลงมือทำอะไร”
ถังเจี๋ยเหรินตัวสั่นสะท้านด้วยความโกรธ ส่วนถังเหาทำท่าจะพุ่งเข้าไปชกชายผู้นั้น ถังเจี๋ยเหรินตะโกนขึ้นว่า “พอได้แล้ว!” แล้วลุกขึ้นจะเดินออกไปจากห้องประชุม
ถังซีเฝ้ามองอย่างใจเย็น ขณะที่สมาชิกตระกูลถังพากันเดินออกไป แต่เมื่อพวกเขากำลังจะออกพ้นประตู ถังซีก็ส่งเสียงเรียกถังเจี๋ยเหริน “ผู้อำนวยการถัง”
ถังเจี๋ยเหรินชะงัก เหลียวกลับมามองถังซี ถามเสียงเยือกเย็นว่า “มีอะไรหรือ ประธานถัง”
ถังซีเลิกคิ้ว ลุกขึ้นยืน เท้ามือทั้งสองลงบนโต๊ะ โน้มตัวลงนิดหนึ่ง ส่งรัศมีความน่าเกรงขามออกไปรอบกาย ถามด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน “ลืมไปหรือเปล่าคะ ว่ายังมีข้อเสนอให้พิจารณาปลดประธานบริหารอีกหนึ่งตำแหน่ง”
ถังเจี๋ยเหรินฮึดฮัดอย่างไม่พอใจ จ้องถังซีเขม็ง ถังซีหัวเราะในลำคอ ยืดตัวขึ้น ยกแขนกอดอก แล้วยิ้มเยือกเย็น “เอาละคะ ตอนนี้ขอให้เรามาลงคะแนนพิจารณาความเหมาะสมสำหรับตำแหน่งประธานเอ็มไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คุณถังเหา” กล่าวจบเธอก็นั่งลง ชำเลืองมองผู้ช่วย ผู้ช่วยเริ่มแจกเอกสารที่เตรียมไว้ทันที หลังจากผู้ช่วยแจกเอกสารเสร็จ ถังซีก็เงยหน้าขึ้นมองสมาชิกตระกูลถัง ซึ่งต่างกำลังจ้องมองเธอด้วยความเกลียดชัง เธอยิ้มให้ “พวกคุณจะงดออกเสียงไหมคะ”
อาหกซึ่งนั่งอยู่ข้างถังซีหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างห้ามไม่อยู่ เขาไม่เคยคิดว่าคุณถังจะปากคมถึงเพียงนี้ คุณหนูถังผู้ดูอ่อนหวานไร้เดียงสาเหมือนเด็กสาวน้อยๆ เมื่ออยู่ที่เมือง A ขณะนี้กลับมีพิษสงรอบตัวราวกุหลาบหนามคม! แต่บุคลิกแบบนี้กลับดูมีเสน่ห์เป็นที่สุด!
ไม่มีใครคาดคิดว่าอาหกจะหัวเราะออกมาในสถานการณ์ตึงเครียดเช่นนี้ ทุกคนหันไปมองเขาอย่างประหลาดใจ อาหกจึงเอนกายไปด้านหลัง มองไปรอบห้องสบตากับทุกคน แล้วกล่าวขึ้นว่า “ผมเพิ่งได้อ่านเอกสารนี้ ทำไมถึงได้เลือกมนุษย์ขยะแบบนี้มาเป็นประธานเอ็มไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ นี่เราสูญเสียทรัพยากรที่มีค่าของบริษัทนี้ไปตั้งเท่าไรแล้ว! จะไม่ให้หัวเราะได้ยังไง ในเมื่อได้เจอเรื่องตลกขนาดนี้!”
บรรดาผู้ถือหุ้นนิ่งเงียบ “…” คุณคือผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดในที่นี้ คุณคือผู้มีสิทธิ์ขาดอยู่แล้ว!
ถังซียิ้ม “เอาละ โหวตกันเถอะค่ะ”
นอกจากพวกที่ถือข้างถังเจี๋ยเหรินและอาหกแล้ว ทุกคนที่เหลือต่างออกเสียงให้ข้อเสนอสั่งปลดครั้งนี้ผ่านมติที่ประชุม คะแนนเสียงเห็นด้วยจึงเป็นยี่สิบสามเปอร์เซ็นต์เช่นกัน…
หลังจากนั้นทุกคนก็มองไปที่อาหก เขาลุกยืนขึ้นพร้อมด้วยรอยยิ้ม “แม้แต่คนโง่ที่สุดก็ย่อมต้องตัดสินใจให้ไล่ขยะแบบนี้ออกไป ดังนั้นผมขออยู่ข้างพวกคุณด้วย เพื่อประโยชน์ในเงินปันผลของผม” อาหกโยนเอกสารลงบนโต๊ะ กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ผมเห็นด้วยกับการให้ปลดถังเหาออกจากตำแหน่ง”
เลขานุการผู้ควบคุมการประชุมยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก นี่เขามายืนอยู่ที่นี่ทำไม เขาเป็นใคร ควรจะไปอยู่ที่ไหนดี ขอหายตัวไปเลยได้ไหม
หากเขาประกาศว่าให้ปลดถังเหาจากตำแหน่ง เขาต้องถูกลงโทษในภายหลังอย่างแน่นอน แม้เขาจะไม่ได้เป็นผู้ผิดก็ตาม… แต่เขา… เลขานุการทำอะไรไม่ถูกจริงๆ ตอนนี้เขาได้แต่ภาวนาขอให้มีรูเกิดขึ้นที่พื้น ให้เขาได้มุดลงไปซ่อนตัว! เขาไม่อยากทำงานที่เอ็มไพร์กรุปนี้อีกต่อไปแล้ว! เขาอยากจะลาออก!
ในขณะเดียวกับที่เลขานุการกำลังอยากแกล้งเป็นลม ถังซีก็มองไปที่ผู้ช่วยของเธอ ผู้ช่วยพยักหน้ารับแล้วเดินมาด้านหน้า เลขานุการรีบทรุดกายลงนั่งอย่างโล่งอก ผู้ช่วยถังซีปรับไมโครโฟนและประกาศว่า “สำหรับวาระทั้งสองที่นำเสนอต่อที่ประชุมในวันนี้ วาระแรกเสนอให้ปลดคุณถังซีจากการเป็นประธานบริหารกลุ่มบริษัทนานาชาติเอ็มไพร์กรุป ไม่ผ่านมติที่ประชุม และคุณถังซียังคงดำรงตำแหน่งประธานบริหารเอ็มไพร์กรุปต่อไป ส่วนวาระที่เสนอให้ปลดคุณถังเหาจากการเป็นประธานเอ็มไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ได้รับมติเห็นชอบจากที่ประชุม ดังนั้นคุณถังเหาจึงพ้นสภาพการเป็นประธานเอ็มไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ และคุณถังซีจะทำหน้าที่ชั่วคราวในตำแหน่งประธานเอ็มไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์”
ถังซีลุกยืนขึ้น ทุกคนปรบมือให้ ถังเจี๋ยเหรินถามขึ้นทันทีด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ทำไมถึงเป็นถังซี! ฉันไม่เห็นด้วย!”
อาหกนิ่วหน้า นี่เขาคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน โง่บัดซบจริงๆ! เขาคว้าเอกสารเสนอที่ประชุมที่วางอยู่บนโต๊ะ โยนไปตรงหน้าถังเจี๋ยเหริน และกล่าวอย่างเคร่งขรึม “เป็นรายละเอียดส่วนหนึ่งในเอกสารนำเสนอต่อที่ประชุมนี่ไงครับ เมื่อข้อเสนอนี้ผ่านมติ ดังนั้นคุณถังซีจึงได้รักษาการตำแหน่งประธานเอ็มไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ด้วยคะแนนเสียงห้าสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์ คุณมีปัญหาอะไรอีกไหม”
ถังเจี๋ยเหรินหยิบเอกสารขึ้นอ่าน สีหน้าเขาดำคล้ำลงทันที เขาจิกสายตาเย็นเยียบไปที่ถังซี แล้วกระแทกกระทั้นเดินออกจากห้องประชุม
ถังซีเฝ้ามองพวกเขาเดินออกไป ดวงตาเธอมีประกายเยือกเย็น คนพวกนี้มีแต่ความโลภ หากผู้ที่ถือหุ้นยี่สิบแปดเปอร์เซ็นต์ไม่ใช่อาหก แผนการร้ายของถังเจี๋ยเหรินก็คงจะสำเร็จไปแล้ว!