ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 385 ไร้ชื่อ ไร้ตัวตน
อาห้าคว้าแขนคลอส เลิฟไว้ ไม่ให้เขาออกไป คลอส เลิฟสะดุ้ง หันไปมองอาห้าอย่างงุนงง ตะโกนว่า “จะทำอะไร”
อาห้ายิ้ม “เขาตกลงปล่อยแก แต่ฉันไม่ได้ตกลง”
คลอส เลิฟหันไปมองเฉียวเหลียงด้วยความตกใจ และตะโกนว่า “คุณครับ เราตกลงกันแล้วไม่ใช่หรือ คุณต้องรักษาคำพูดนะ ไม่อย่างนั้นคลอส อีฟส์ พ่อของฉันจะไม่มีวันปล่อยคุณ!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเฉียวเหลียงก็เลิกคิ้ว หันไปมองอาห้า และกล่าวอย่างเย็นชา “ดูแลพาคุณคลอสออกไป!”
อาห้ามองหน้าเฉียวเหลียง แล้วรับคำอย่างไม่เต็มใจ จากนั้นก็นำผ้าสีดำมาปิดตาเลิฟ แล้วจับเขาโยนเข้าไปในรถ รถขับวนไปวนมาหลายรอบ ก่อนจะออกจากอาคารและขับออกไปตามถนน
หลังจากส่งเลิฟออกไปแล้ว อาห้าก็กลับมา เฉียวเหลียงกำลังจ้องมองออกไปยังโครงเหล็กหนาทึบผ่านหน้าต่างฝรั่งเศสของห้อง อาคารนี้ตั้งอยู่ในใจกลางธุรกิจที่เจริญที่สุดของปารีส แต่คนนอกไม่มีใครรู้ว่าที่นี่คือสำนักงานสาขาปารีส ขององค์การหลงเซี่ยว และไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้นายใหญ่ขององค์การหลงเซี่ยวอยู่ที่นี่
อาห้าขมวดคิ้วมองเฉียวเหลียง ถึงตอนนี้ลู่หลีก็ออกมาจากห้องสอบสวนอีกห้องหนึ่ง กวาดตามองไปรอบๆ ห้องสอบสวนที่ว่างเปล่าแล้วเลิกคิ้ว จากนั้นก็เดินเข้าไปหาเฉียวเหลียง ยื่นบุหรี่ให้ ถามว่า “คุณปล่อยเขาไปแล้วหรือ”
เฉียวเหลียงหยิบบุหรี่มา แต่ไม่จุดไฟ เขาจับบุหรี่เล่นไปมาและพยักหน้า “ใช่”
อาห้าถามด้วยความสงสัย “ทำไมคุณถึงปล่อยเขาไปล่ะครับ นายน้อย นี่ไม่เท่ากับปล่อยเสือเข้าป่าหรือครับ แล้วอีกอย่างทำไมเราต้องกลัวตระกูลเล็กๆ อย่างตระกูลคลอสด้วยล่ะครับ”
ลู่หลีมองหน้าเฉียวเหลียงและกล่าวด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “คุณมีแผนหรือ ผมไม่คิดว่านี่จะเป็นการทำผิดพลาดอย่างสะเพร่า บอกผมมาซิว่าแผนของคุณเป็นยังไง”
“ใช่ ผมมีแผน” เฉียวเหลียงมองลู่หลีและกล่าวว่า “พวกเราเป็นพวกมีอารยธรรม ไม่ควรทำผิดกฎหมาย แต่ผู้หญิงคนนั้นมาแตะต้องสิ่งสำคัญที่สุดของผม ผมจึงต้องทำให้เธอรู้ถึงผลที่ตามมา ให้คลอส เลิฟเป็นคนสั่งสอนเธอ ผมแน่ใจว่าผู้หญิงคนนั้น…” เฉียวเหลียงหันมาสบตาอาห้าพร้อมกับกล่าวว่า “แจ้งไปที่กองควบคุมการจราจรทางอากาศ ให้ยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมดในวันนี้ เพราะจะมีการซ้อมรบของกองทัพอากาศ”
จากนั้นเขาก็มองลู่หลี ยิ้มมุมปากและกล่าวว่า “ตราบใดที่ผู้หญิงคนนั้นยังอยู่ในปารีส แม้เธอจะซ่อนตัวอยู่ใต้ดิน คลอส เลิฟก็จะขุดเธอขึ้นมา และทรมานเธออย่างแสนสาหัส คนเราควรรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตนเองพูด เป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็ควรเข้าใจว่าปลาหมอมักจะตายเพราะปาก”
ลู่หลีเลิกคิ้ว “คุณดูโกรธจริงจังมาก”
“ต้องมีคนอื่นอยู่เบื้องหลังผู้หญิงคนนั้น แต่ผมไม่รู้ว่าเขาหรือเธอคนนั้นเป็นใคร แต่ถ้าผู้หญิงคนนั้นตกอยู่ในมือคลอส เลิฟ คนที่อยู่เบื้องหลังเธอจะถูกเปิดเผยในไม่ช้า” เฉียวเหลียงจุดบุหรี่ สูบเข้าไปหนึ่งครั้ง แล้วขมวดคิ้วขณะกล่าวว่า “ผมอยากเห็นว่าใคร ที่พยายามตั้งตัวเป็นศัตรูกับถังซี”
“ทำไมคุณยังสนใจถังซี” ลู่หลีมองหน้าเฉียวเหลียง “ถึงอย่างไรเซียวโหรวก็จะไม่ต้องปลอมตัวเป็นถังซีอีกต่อไป หลังจากที่พวกคุณออกจากปารีสแล้ว เพราะฉะนั้นคุณไม่ต้องโกรธขนาดนั้นหรอก ถ้าคุณให้ความสนใจถังซีมากขนาดนี้ เซียวโหรวจะไม่หึงหรือ คุณสองคนเพิ่งทะเลาะกัน คุณอยากทะเลาะกับเธออีกเพราะแฟนเก่างั้นเหรอ”
เฉียวเหลียงมองหน้าลู่หลี เม้มริมฝีปากก่อนจะกล่าวว่า “ไม่ต้องห่วงเราหรอก ผมจะขอโทษเธอสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ ผมคิดว่าเธอจะเข้าใจผม”
ลู่หลีมองหน้าเฉียวเหลียง ถอนหายใจ แล้วตบไหล่เขาเบาๆ “ใช้ความอดทนกับแฟนคุณให้มากกว่านี้ ผมคิดว่าเซียวโหรวใส่ใจคุณมาก ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ร้อนใจขนาดนี้ ในเมื่อคุณตัดสินใจที่จะคบกับเซียวโหรว คุณก็ควรลืมถังซีไปซะ ถ้าคุณลืมไม่ได้ แฟนเก่าของคุณจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับความสัมพันธ์ครั้งใหม่ของคุณ”
เฉียวเหลียงยิ้ม ไม่พูดอะไร เขาไม่มีวันลืมถังซี ผู้ซึ่งการดำรงอยู่ของเธอยังคงฝังตรึงอยู่ในกระดูกทุกชิ้นของเขา เขาไม่มีวันลืมเธอไปชั่วชีวิต
“อย่าพูดถึงแต่เรื่องของผม คุณกับเหวินนิ่งล่ะ ผมคิดว่าคุณสองคน…”
“อย่าพูดถึงเธอ เราสองคนแตกต่างจากคุณกับเซียวโหรว เหวินนิ่งต้องการฆ่าผม แต่เซียวโหรวไม่มีวันทำแบบนั้นกับคุณ คุณจะเอาเหวินนิ่งมาเปรียบเทียบกับเซียวโหรวไม่ได้หรอก”
เฉียวเหลียงพยักหน้า ในเมื่อลู่หลีไม่ต้องการพูดถึงเรื่องนี้ เขาก็ไม่ฟื้นฝอยหาตะเข็บ ทั้งสองไปขึ้นรถ เฉียวเหลียงลอกหน้ากากผิวหนังออก ขณะที่ลู่หลีขับรถไปตามถนนสายหลัก
…
ทางอีกด้านหนึ่ง รถคันหนึ่งมาหยุดลงในบริเวณพื้นที่รกร้างแถบชานเมือง และคลอส เลิฟถูกผลักลงจากรถ เขาหล่นลงไปกระแทกกับพื้นอย่างแรง และลุกขึ้นด้วยความเจ็บปวด เขาดึงผ้าสีดำที่ปิดตาออก จากนั้นก็หันมองไปรอบๆ พร้อมกับสาปแช่ง และออกวิ่งอย่างบ้าคลั่ง…
“นี่มันนรกที่ไหนวะ มีงูด้วย!” คลอส เลิฟกรีดร้องพร้อมกับปีนขึ้นต้นไม้ เขากอดต้นไม้ไว้แน่น มองลงไปอย่างตื่นตระหนก แล้วทันใดนั้นเขาก็หยุดร้อง แตะดูที่กระเป๋ากางเกง และพบว่าโทรศัพท์มือถือของเขายังอยู่ เขาหัวเราะอย่างโล่งอก รีบหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาพ่อ “พ่อครับ ช่วยผมด้วย!”
เมื่อกี้นี้เขารู้สึกเจ็บแปลบที่ปลายเท้า เขาคร่ำครวญ และตะโกนเข้าไปโทรศัพท์ “พ่อครับ ส่งเฮลิคอปเตอร์มาที่นี่พร้อมกับและเซรุ่มด้วย! ผมถูกงูกัด!”
สิบห้านาทีต่อมาในที่สุดคลอส อีฟส์ก็ได้เจอกับลูกชาย ซึ่งฟกช้ำดำเขียวและมีแผลไปทั่วทั้งตัว หน้าตาเขาถมึงทึง รีบสั่งให้แพทย์อุ้มลูกชายไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์ หลังจากได้รับการฉีดเซรุ่ม ในที่สุดเลิฟก็ฟื้นขึ้นมา เขามองหน้าพ่อและร้องออกมาเสียงดังลั่น “พ่อครับ พ่อต้องล้างแค้นให้ผม! คนพวกนั้นเอาผมมาโยนไว้ที่นี่!”
คลอส อีฟส์มองลูกชายและพยักหน้าอย่างเดือดดาล “แกมั่นใจได้เลย พ่อจะไม่ปล่อยผู้หญิงคนนั้นแน่ พ่อให้คนของพ่อตามหามันแล้ว”
“เยี่ยมไปเลย แต่ยังไงก็ตาม พ่อครับ พ่อต้องตรวจสอบบัญชีธนาคารนี้ แล้วพ่อจะรู้ตัวตนของผู้ชายที่จับตัวผมไป จากบัญชีนี้!” คลอส เลิฟเอ่ยหมายเลขยาวเหยียด “มันสั่งให้ผมโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารนี้!”